• Accessibility

    • normal big bigger

Last posts

Last Comments

Most active posts

ค้นหา

หมวดหมู่

14/03/2013

รายงานการประชุมกิจกรรมสังเคราะห์ความรู้เรื่อง แนวการปฏิบัติที่ดี การบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพ ความรู้จากการปฏิบัติจริง

Categories: การจัดการความรู้ วพบ.อต.
Author: Naiyana Kaewkhong
Time: 6:33 am
Reactions :4 comments

วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๐๐ ? ๑๖.๓๐น.

ณ ห้องประชุมพวงชมพู วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์

รายชื่อผู้เข้าร่วมการประชุม

๑.นางศรีสมพร ??????????? ทรวงแก้ว???????? ประธาน

๒.นางศศิธร ?????????????? ชิดนายี

๓.นางนิศารัตน์ ?????????? นาคทั่ง

๔.นางอนัญญา???????????? คูอาริยะกุล

๕.นางสุธีรา??????????????? งามวาสีนนท์

๖.นางมณฑา?????????????? อุดมเลิศ

๗.นางสาววราภรณ์??????? ยศทวี

๘.นางสาวเสาวลักษณ์???? เนตรชัง

๙.นายไพทูรย์????????????? มาผิว

๑๐.นางวาสนา???????????? ครุฑเมือง

๑๑.นางสาวนัยนา???????? แก้วคง

๑๒.นายสืบตระกูล???????? ตันตลานุกุล

๑๓.นายเสน่ห์????????????? ขุนแก้ว

๑๔.นางอรุณรัตน์????????? พรมมา

๑๕.นางสาวอลิษา???????? ทรัพย์สังข์

๑๖.นางจิราพร???????????? ศรีพลากิจ

๑๗.นายวีระยุทธ?????????? อินพะเนา

๑๘.นายภราดร??????????? ล้อธรรมมา ????? เลขานุการที่ประชุม

ผู้เข้าร่วมประชุมคิดเป็นร้อยละ???? ๙๔.๗๓%

ระเบียบวาระที่ ๑ แลกเปลี่ยนเรียนรู้

????????? แนวการปฏิบัติที่ดี การบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพ ความรู้จากการปฏิบัติจริง

????????? คุณเรวัตร รัตนมาโต ให้ความคิดเห็นว่าการบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพ จากการปฏิบัติจริงมี

ข้อดีคือ ?

๑.ประชาชนในชุมชนสามารถเข้าถึงบริการทางสุขภาพได้มากขึ้นแม้เป็นเวทีจำลองการฝึกปฏิบัติงานสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษา

????????? ๒.เป็นการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในชุมชนในการเดินทางหรือค่าใช้จ่ายในการักษาพยาบาล

????????? ๓.ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับความรู้พื้นฐานทางการพยาบาลจากผู้ที่มีความรู้จริง

????????? ๔.ประชาชนในชุมชนเกิดความตระหนักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดีในการสร้างเสริมสุขภาพ

????????? ๕.ประชาชนในชุมชนเกิดความสบายใจ เกิดความอุ่นใจเมี่อมีนักศึกษาเข้าไปฝีกปฏิบัติงานดีกว่าการเข้ารับบริการในโรงพยาบาลที่มีระบบสานพานซึ่งมุ่งให้การรักษาอย่างเดียวไม่มีเวลาพูดคุยทำความรู้จักกันกับแพทย์หรือพยาบาลที่ให้บริการ

????????? ๖.เกิดระบบที่ดีในระบบสาธารณสุขเนื่องจากระบบการรักษาเดิมที่โรงพยาบาลส่งผลให้บุคลากรเกิดความเครียด ผู้รับบริการก็เกิดความเครียดต้องเร่งรีบในการให้บริการแข่งกับเวลา

????????? ๗.การทำงานในชุมชนเกิดมิติใหม่ เกิดมุมมองทางบวกของแพทย์และพยาบาลเพิ่มมากขึ้น

อุปสรรค์

๑.????? ความสม่ำเสมอในการลงชุมชนถ้ามาครั้งเดียวจะไม่น่าเชื่อถือ

๒.????? เกิดอุปสรรค์ต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยและญาติที่คอยกังวลว่าพยาบาลจะมาเยี่ยมกี่โมง ต้องรอหมออยู่ที่บ้าน

๓.????? การไม่ให้ความร่วมมือของผู้ป่วย

๔.????? การสร้างเสริมสุขภาพโดยใช้นวัตกรรมไม่ตรงตามความต้องการของผู้ป่วยและครอบครัวอาจเพราะถูกจัดงบประมาณในการพัฒนานวัตกรรม

๕.????? การให้คำแนะนำทางด้านสุขภาพเบื้องต้นกับประชาชนในชุมชน เนื่องจากพื้นฐานความรู้ของนักศึกษา พยาบาลชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขแตกต่างกันทำให้อาสาสัครสาธารณสุขต้องพัฒนาด้านความรู้เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้คำแนะนำแก่คนในชุมชนได้อย่างเหมาะสม

๖.????? ผู้ป่วยเกิดความเคยชินกับนักศึกษาพยาบาลและไม่อยากรับบริการจากเจ้าหน้าที่ทางด้านสุขภาพและอาสาสมัครสาธารณสุข

สิ่งที่อยากได้จากการบูรณาการ

????????? ๑.ปฏิทินการลงเยี่ยมหมู่บ้าน ของนักศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบล อาสาสมัครสาธารณสุข พยาบาลที่สอดผสานกัน

????????? ๒.การพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขด้านคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษ

????????? ๓.การพัฒนาภูมิปัญญาของคนในชุมชนเป็นนวัตกรรมอาจเป็นในรูปแบบจิตวิทยา ธรรมะ เช่น รูปภาพสร้างความสะเทือนใจเพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความตระหนักในการดูแลสุขภาพตนเองเป็นต้น

พยาบาลชุมชน หึความคิดเห็นว่า สิ่งที่ควรพัฒนาจากการบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพ ความรู้จากการปฏิบัติจริง คือ

????????? ๑.การเตรียมแผนงาน การเตรียมตัว การเรียนรู้กรณีศึกษาก่อนปฏิบัติการพยาบาล

????????? ๒.การกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนในการมุ่งศึกษากรณีศึกษารายกรณีเพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้เรื่องโรคได้อย่างชัดเจน

????????? ๓.การพัฒนาการทำงานที่ต่อยอดกัน

????????? ๔.การประเมินภาวะสุขภาพผู้ป่วยอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนวางแผนให้การพยาบาล

นักศึกษา ให้ความคิดเห็นว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพ คือ

๑.ได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากเนื้อหารายวิชา เช่นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน ร่วมกับไขมันในเลือดสูง สามารถเกิดโรคไตวายได้ในระบบทางเดินปัสสาวะซึ่งเกี่ยวข้องกันเป็นต้น

๒.การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

๓.เกิดการกระตุ้นศักยภาพจากการไปพบกรณีศึกษา ทำให้เราต้องเตรียมความรู้โดยการอ่านหนังสือ

๔.ได้เครือข่ายการร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ในชุมชน พี่ อ.ส.ม. และพี่พยาบาล เป็นต้น

๕.ได้เรียนรู้วิธีการสร้างเสริมสุขภาพโดยการประเมินความรู้พื้นฐานของผู้ป่วยก่อนให้ความรู้กรณีศึกษาเพื่อไม่เป็นการยัดเยียดผู้ป่วย

๖.ฝึกทักษะการส่งต่อผู้ป่วยกับอ.ส.ม. และ พี่พยาบาล การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับอาจารย์ และเพื่อนๆ การได้พบกรณีศึกษาทำให้เข้าใจบริบทความเป็นมนุษย์และเรียนรู้การดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์จากการฝึกปฏิบัติจริง

- เกิดประโยชน์อย่างไรกับนักศึกษาและคนในชุมชน

????????? ๑.นักศึกษาเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการให้การพยาบาลประชาชนในชุมชน

????????? ๒.ได้เรียนรู้การปรับเปลี่ยนแผนการพยาบาล การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

????????? ๓.ได้เครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่าง นักศึกษา อ.ส.ม. และเจ้าหน้าที่ทีมสุขภาพ โดยนักศึกษาเป็นแรงกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเกิดการตื่นตัวในการสร้างเสริมสุขภาพ

????????? ๔.เกิดแรงบันดาลใจให้นักศึกษาในการดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ จากการได้เรียนรู้วิถีวชีวิต ความเชื่อของผู้คน และจิตวิญญาณ

????????? ๕.เรียนรู้การประเมินสภาพผู้ป่วยว่าควรประเมินจากสภาพจริงบางครั้งข้อมูลจากแฟ้มประวัติอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง

????????? ๖.เกิดการเรียนรู้จากการทางไกลเข้าไปในชุมชนทำให้ทราบว่าผู้ป่วยมีความยากลำบากในการเดินทางมาโรงพยาบาล

- การบูรณาการควรมีต่อไปหรือไม่ และมีอุปสรรค์อะไร

????????? ๑.ควรมีต่อไปแต่ให้เพิ่มระยะเวลาในการเยี่ยมบ้านเพื่อประเมินสภาพผู้ป่วยก่อน ๑ ครั้งเพื่อกลับมาวางแผนให้การพยาบาลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม

????????? ๒.ควรมีการจัดกลุ่มนักศึกษาให้มีจำนวน กลุ่มละ ๗ คน ๑๑ กลุ่มเพื่อง่ายในการมอบหมายงานได้อย่างทั่วถึง

แนวทางการการบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพ

๑.นักศึกษาต้องมีความรู้เป็นพื้นฐาน

๒.นักศึกษาต้องมีสมรรถนะ ในการสร้างสัมพันธภาพและการติดต่อสื่อสาร

๓.ทักษะการทำงานเป็นทีม การวางแผนที่ดีจะส่งผลต่อาการทำงานที่เกิดความสำเร็จ

?ปิดประชุมเวลา ๑๖.๓๐น.

………………………………

????????????????????????????????????????????????????????????????? (นายภราดร ล้อธรรมมา)

?????????????????????????? ผู้บันทึกการประชุม

?

???????????.

(นายไพทูรย์ มาผิว)

ผู้ตรวจรายงานการประชุม

12/03/2013

รายงานการประชุมกิจกรรมการสังเคราะห์ความรู้ ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

Categories: การจัดการความรู้ วพบ.อต.
Author: paitoon
Time: 10:01 am
Reactions :9 comments

รายงานการประชุมกิจกรรมการสังเคราะห์ความรู้

ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๑.๐๐ น.

ณ ห้องประชุม ๑๔๔

—————————————————————————————————————————

ผู้เข้าร่วมประชุม

๑.????? นางศศิธร???????? ????????? ชิดนายี?????????? ประธาน

๒.????? นางนิศารัตน์?????????????? นาคทั่ง?

๓.????? นางอนัญญา?????????????? คูอาริยะกุล

๔.????? นางสุธีรา?????????????????? งามวาสีนนท์

๕.????? นางมณฑา??????? ????????? อุดมเลิศ

๖.????? นางสาววราภรณ์????????? ยศทวี

๗.????? นางสาวเสาวลักษณ์ ?????? เนตรชัง

๘.????? นายไพทูรย์?????? ????????? มาผิว

๙.????? นางวาสนา?????? ????????? ครุฑเมือง

๑๐.? นายสืบตระกูล?? ????????? ตันตลานุกุล

๑๑.? นางสาวอลิษา????????????? ทรัพย์สังข์

๑๒.? นายวีระยุทธ???? ????????? อินพะเนา

๑๓.? นายภราดร?????? ????????? ล้อธรรมมาฃ

๑๔.? นางจิราพร???????????????? ศรีพลากิจ

๑๕.? นางอรุณรัตน์???? ????????? พรมมา? เลขานุการที่ประชุม

ระเบียบวาระที่? ๑ กำหนดประเด็น

????????? อ.ศศิธร แจ้งให้ทราบว่า วิทยาลัยฯ กำหนดให้ภาควิชา จัดการ ความรู้ ด้านวิชาการ คือ การพัฒนาผลการสอบขึ้นทะเบียน ที่นำไปปฏิบัติจนเกิดแนวปฏิบัติที่ดี หรือการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ สำหรับปีการศึกษา ๒๕๕๕ ดังนั้น การจัดการความรู้ในครั้งนี้จึงได้ทำเรื่องการบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ

ระเบียบวาระที่? ๒ แลกเปลี่ยนเรียนรู้

????????? อ.สืบตระกูล ?ให้ความคิดเห็นว่า ในรายวิชาที่ฝึกปฏิบัตินั้นต้องดูรายละเอียดวิชาเพื่อมากำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เกี่ยวกับการบูรณาการการสร้างเสริมสุขภาพ จากการบูรณาการกับรายวิชา พบว่า สิ่งที่มีความสำคัญ การมีทุนทางสังคมที่ดีมีเครือข่ายที่เข้มแข็ง เช่น แพทย์ พยาบาล อสม.ในพื้นที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจะทำให้ กระบวนการสร้างเสริมสุขภาพ จะประสบผลสำเร็จ

อ.ไพทูรย์ ให้ความคิดเห็นว่า เราเคยจัดการความรู้กันไปแล้วและได้แนวทางที่เคยแลกเปลี่ยน ดังนั้น วันนี้จะเป็นการหาแนวปฏิบัติที่ดีหลังจากที่ได้นำไปปฏิบัติมาแล้ว

????????? อ.นิศารัตน์ ให้ความคิดเห็นว่า ที่ผ่านมาการบูรณาการการสร้างเสริมสุขภาพ ทำในรายวิชาพลศึกษา

แล้วพบว่านักศึกษาสามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันได้ นักศึกษาสามารถสร้างเสริมสุขภาพตนเองได้ ทำสื่อได้ด้วยตนเองโดยใช้อุปกรณ์และสร้างสื่อเป็นวีดีโอ เพื่อไปให้ชุมชนใช้ต่อไป

????????? อ.ไพทูรย์ ให้ความคิดเห็นว่า จากที่อาจารย์ได้กล่าวมาจะเห็นว่าเครือข่ายมีความสำคัญ โดยเฉพาะ แพทย์ พยาบาล อสม. การสร้างภาคีเครือข่างให้เข้มแข็งเป็นสิ่งที่ดีมาก

????????? อ.ศศิธร ให้ความคิดเห็นว่า ทุนทางสังคมที่ดี ในการสร้างเสริมสุขภาพ จะทำให้การสร้างเสริมสุขภาพประสบความสำเร็จและมีความยั่งยืน คือมีเครือข่ายที่ชัดเจน นอกจากที่กล่าวมา ยังมี อบต. ผู้ใหญ่ ประชาชน เนื่องจากประชาชนเป็นทุนที่ดีต่อสังคม นอกจากนี้ในการบูรณาการการเรียนกับการสร้างเสริมสุขภาพ ควรมีการกำหนดสมรรถนะของการสร้างเสริมสุขภาพ ตามที่ WHO กำหนดไว้ เช่น การสื่อสาร ทีม การเขียนแผน/โครงการ และอื่น ๆ อีก จะทำให้จัดการสอนได้เห็น ภาพชัดเจน ดังนั้นต้องกำหนดไว้ใน มคอ. ตั้งแต่ วัตถุประสงค์ กิจกรรมการสอน และการวัดประเมินผล

????????? อ.ไพทูรย์ สรุปประเด็นการบูรณาการการสร้างเสริมสุขภาพ ได้ดังนี้

?????????????????? ๑. วางแผนที่ชัดเจน มคอ. ๓, ๔ โดยเฉพาะวัถตุประสงค์ ชัดเจน กิจกรรมที่ชัดเจน จะส่งผลการวัดและประเมินผลที่สอดคล้อง

?????????????????? ๒. กำหนดสมรรถนะให้เกิดกับนักศึกษาในเรื่อง การสื่อสารที่ดี ทีมที่ดี การเขียนแผนงานและโครงการ

?????????????????? ๓. การมีเครือข่ายที่ดี

????????? อ.มณฑา ให้ความคิดเห็นว่า วิชาปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ ๒ ในส่วนของเด็กจะมีกิจกรรมที่ชัดเจนและมีการประเมินผลมาเป็นคะแนนฝึกปฏิบัติ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้นักศึกษาปฏิบัติ

????????? อ.นิศารัตน์ ให้ความคิดเห็นว่า ส่วนในของหอผู้ป่วยหู คอ จมูก จะเน้นไปการแนะนำผู้ป่วยก่อนกลับบ้าน D/C plan ในส่วนของ admit plan จะไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นกิจกรรมการพยาบาลเท่านั้น จากการซักถามนักศึกษา กรณีให้สุขศึกษาแก่ผู้ป่วยก่อนกับกลับ ถ้าแนะนำเป็นรายบุคคลจะดีกว่าการแนะนำเป็นกลุ่ม

????????? อ.วราภรณ์ ให้ความคิดเห็นว่า ในการบูรณาการต้องการนักศึกษาให้เป็นนักสร้างเสริมสุขภาพ สำหรับ out come ที่ได้คือ ประชาชนมีสุขภาพดี สามารถสร้างเสริมสุขภาพได้ด้วยตนเอง

????????? อ.ไพทูรย์ สรุปประเด็นการบูรณาการสร้างเสริมสุขภาพ ดังนี้

?????????????????? ๑. การบูรณาการสร้างเสริมสุขภาพ วางแผนต้องมี มคอ. ที่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน

?????????????????? ๒. ทุนทางสังคม การบูรณาการได้ดีต้องมีภาคีเครือข่ายที่ดี

?????????????????? ๓. กิจกรรมการเรียนการสอนที่ชัดเจน อาศัยการสื่อสารที่ดี ทำให้เกิดทีมที่ดี

?????????????????? ๔. จะต้องวัดผลที่เกิดกับนักศึกษา สำหรับผลที่เกิด กับผู้ป่วยหรือประชาชน ถือเป็น out come เชิงประจักษ์ สำหรับที่หอผู้ป่วยจะแตกต่างการประเมินผลของผู้ป่วยที่มีสุขภาพที่ดีขึ้น

ระเบียบวาระที่? ๓ สรุปประเด็นความรู้ที่ได้

???????? ผลการจัดการความรู้ในภาควิชา การพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ในเรื่องการบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ

๑.????? การบูรณาการที่เกิดในชุมชน

๒.????? การบูรณาการในหอผู้ป่วย

?

ระเบียบวาระที่? ๔ สรุปแนวทางปฏิบัติที่ดี

๑.????? สร้างความเข้าใจและความกระจ่างชัดในการสร้างเสริมสุขภาพร่วมกัน

๒.????? การพิจาณารายวิชาที่สอดคล้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ

๓.????? การวางแผนการบูรณาการการเรียนการสอนกับการสร้างเสริมสุขภาพ

๔.????? การดำเนินการบูรณาการการเรียนการสอนกับการสร้างเสริมสุขภาพ

๕.????? การวัดและประเมินผล

ปิดประชุม?? ๑๒.๐๐ น.

????????????????????????????????????????????????????????????? ??? ………………………………………….

????????????????????????????????????????????????????????????? ????? (นางอรุณรัตน์ พรมมา)

??????????????????????????????????????????????????????????????????????? ผู้บันทึกการประชุม

???? ??? ????????????????????????????????????????????????????? ???………………………………………….

????????????????????????????????????????????????????????????? ???????? (นางศศิธร ชิดนายี)

????????????????????????????????????????????????????????????? ?????????? ผู้ตรวจการประชุม

การบูรณาการการจัดการเรียนการสอน การบริการวิชาการ การวิจัย และการส่งเสริมสุขภาพ ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์

ถอดบทเรียนการเสวนาในการจัดการความรู้ ( KM )

ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์

เรื่อง การบูรณาการการจัดการเรียนการสอน การบริการวิชาการ การวิจัย และการส่งเสริมสุขภาพ

ณ ห้องประชุมภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์ ?วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์

วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๖

ผู้เข้าร่วมประชุม
๑. นางสาวสิตานันท์ ????? ศรีใจวงศ์ ????????????????? ประธาน
๒. นางสาววรรณวดี?????? เนียมสกุล
๓. นางสาวศศมน ???????? ศรีสุทธิศักดิ์
๔. นางภิญญารัช ???????? บรรเจิดพงศ์ชัย
๕. นางสาวอรทัย ???????? แซ่ตั้ง

๖. นางสาวดาราวรรณ ?? ดีพร้อม
๗. นางสาวจิราพร ??????? วิศิษฐ์โกศล ??????????????? เลขานุการ

๘. นางสาวพัชชา ????????? สุวรรณรอด??????????????? ผู้ช่วยเลขานุการ

เปิดประชุมเวลา ๑๓.๓๐ น.

ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องที่ประธานแจ้งให้ทราบ

๑.?? คณะกรรมการจัดการองค์ความรู้ของวิทยาลัยฯ ได้กำหนดประเด็นในการจัดการความรู้ให้สอดคล้องกับพันธกิจของวิทยาลัยฯ ด้านวิชาการ ๒ เรื่อง ได้แก่ การส่งเสริมสุขภาพ และการบูรณาการการจัดการเรียนการสอน

๒.?? แนวทางในการดำเนินงานเพื่อการจัดการความรู้เรื่อง? การบูรณาการการจัดการเรียนการสอนกับการบริการวิชาการและการส่งเสริมสุขภาพและการวิจัย ภาควิชาควรมีการทบทวนประสบการณ์เดิมเพื่อเสริมการบริหารจัดการใหม่ ตามขั้นตอนดังนี้

๒.๑ การแสวงหาความรู้
๒.๒ การวิเคราะห์ความรู้ เพื่อหาแนวทางในการพัฒนา
๒.๓ การสังเคราะห์ความรู้
๒.๔ นำข้อมูลลง web blog ของวิทยาลัยฯและมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
๒.๕ สรุปและจัดระเบียบความรู้

๒.๖ การแสดงผลงาน
๒.๗ การประยุกต์ใช้ความรู้

?

?

วาระที่ ๒ ?รับรองรายงานการประชุม และเรื่องสืบเนื่อง

?????????????????? ไม่มี

วาระที่ ๓ เรื่องพิจารณา

๓.๑ การแสวงหาข้อมูล

ในขั้นตอนนี้ได้ให้อาจารย์ทุกท่านเสนอประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการกับการส่งเสริมสุขภาพ การวิจัย และการบริการวิชาการ สรุปได้ดังนี้

การบูรณาการ หมายถึง การนำเอาศาสตร์สาขาวิชาต่าง ๆ? ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันมาผสมผสานเข้าด้วยกันให้กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน จนมีความสมบูรณ์ครบถ้วนในตัวเอง เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการจัดหลักสูตรและจัดการเรียนการสอน

การวิจัย หมายถึง? กระบวนการแสวงหาความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในสิ่งที่ต้องการศึกษา? มีการเก็บรวบรวมข้อมูล? การจัดระเบียบ ข้อมูล? การวิเคราะห์และการตีความหมายผลที่ได้จากการวิเคราะห์? ทั้งนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบอันถูกต้อง

???????????????????????????? การบริการวิชาการ หมายถึง การให้บริการทางวิชาการแก่ทางราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน อันก่อให้เกิดความก้าวหน้าทางวิชาการแก่สังคม โดยอาศัยความรู้และความสามารถทางวิชาการตลอดจนการสร้างหรือเสริมประสบการณ์ในการประยุกต์วิชาการให้เหมาะสมกับสังคมไทยและการเรียนการสอนในวิทยาลัย

การส่งเสริมสุขภาพ หมายถึง กระบวนการซึ่งทำให้ประชาชน สามารถเพิ่มการควบคุมสุขภาพ และทำให้สุขภาพดีขึ้น การจะบรรลุถึงสภาวะสุขสบาย ทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคมได้ ปัจเจกชน หรือกลุ่มบุคคลจะต้องสามารถที่จะพอใจในสิ่งที่ตนปรารถนา และที่จะปรับเปลี่ยน ให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม

การประเมินผลในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ?? การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการนั้นเป็นการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแนวทางการจัดการเรียนรู้ตามแนวปฏิรูปที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการได้คิดและปฏิบัติจริงตามความสนใจ ความถนัดของตนเอง เรียนรู้ทั้งแบบเรียนคนเดียวและเรียนเป็นกลุ่มจากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลายโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ของตนเองและเรียนรู้อย่างเป็นองค์รวม (บูรณาการ) ดังนั้นการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ดังกล่าวจึงต้องสอดคล้องกับสภาพจริง นั่นคือการที่จะต้องนำลักษณะที่สำคัญของการประเมินผลตามสภาพจริงมาใช้จึงจะเหมาะสมกับการเรียนรู้แบบบูรณาการ ซึ่งน่าจะมีการประเมินความสามารถในด้านต่างๆ ดังนี้ การประเมินด้านกระบวนการคิด กระบวนการวางแผน กระบวนการทำงาน กระบวนการแก้ปัญหาโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ (การวิจัยอย่างง่าย) กระบวนการกลุ่ม กระบวนการประเมินผล คุณธรรมจริยธรรม ความตั้งใจ ความใส่ใจ คุณภาพของผลงานโดยใช้วิธีการ เครื่องมือประเมินที่หลากหลาย ต่อเนื่องตลอดเวลาตามกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ด้วยวิธีการสังเกตใช้แบบตรวจสอบรายการ ใช้แบบประมาณค่า การบันทึกการปฏิบัติงาน การประเมินคุณภาพชิ้นงานและอาจมีการประเมินด้านความรู้ควบคู่กันไปด้วย โดยการประเมินจะกระทำร่วมกันทั้งผู้สอนและผู้เรียน ซึ่งผลการประเมินเหล่านี้ควรจะเป็นส่วนหนึ่งของการนำมาปรับปรุงและพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วย

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

?๑) เพื่อพัฒนาวิธีการจัดการเรียนการสอนของการอาชีวศึกษาให้มีประสิทธิภาพ โดยจัดทำ? คู่มือและแนวทางในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการสำหรับสถานศึกษา ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรและปรับวิธีการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ????????????????????????????????????????????????????

๒) เพื่อพัฒนาให้ครู อาจารย์ในสถานศึกษา ให้สามารถจัดแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการและพัฒนาวิธีการจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการเนื้อหา? วิชาต่าง ๆ? มาเพิ่มประสิทธิภาพการนำไปประกอบอาชีพตามต้องการ?????? ?????????????? ?????????????????????????????????????????????????????????????????

๓) เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาวิชาชีพแบบองค์รวม มีความสามารถทั้งด้านความรู้ ทักษะกระบวนการต่าง ๆ? ทักษะในประกอบอาชีพได้ครบวงจรในแต่ละชั้นปีรวมทั้งมีคุณธรรมจริยธรรม???

การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ? ?หมายถึง? การจัดการเรียนรู้โดยการเชื่อมโยงเนื้อหาความรู้ที่เกี่ยวข้องจากศาสตร์ต่าง ๆ? ของรายวิชาเดียวกันหรือรายวิชาต่าง ๆ? มาใช้ในการ จัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความคิดรวบยอดของศาสตร์ต่าง ๆ ?มาใช้ในชีวิตจริงได้? สำหรับการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integrated Learning Management) หมายถึง กระบวนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามความสนใจ ความสามารถ โดยเชื่อมโยงเนื้อหาสาระของศาสตร์ต่าง ๆ? ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม? สามารถนำความรู้? ทักษะ? และเจตคติไป?? สร้างงาน? แก้ปัญหา? และใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง??????????????????????????????????????????????? ????????

เหตุผลในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ ??????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????? ๑) สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั้นจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันกับศาสตร์ในสาขาต่าง ๆ? ผสมผสานกันทำให้ผู้เรียนที่เรียนรู้ศาสตร์เดี่ยว ๆ? มาไม่สามารถนำความรู้มาใช้ในการแก้ปัญหาได้ ดังนั้นการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการจะช่วยให้สามารถนำความรู้? ทักษะจากหลาย ๆ? ศาสตร์?? มาแก้ปัญหาได้กับชีวิตจริง???????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????? ?????????????????? ๒) การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการทำให้เกิดความสัมพันธ์เชื่อมโยงความคิดรวบยอดของศาสตร์ต่าง ๆ? เข้าด้วยกันทำให้เกิดการถ่ายโอนการเรียนรู้? (Transfer? of? learning)? ของศาสตร์ต่าง ๆ???? เข้าด้วยกันทำให้ผู้เรียนมองเห็นประโยชน์ของสิ่งที่เรียนและนำไปใช้จริงได้????????????????????? ??????????????????????????????????????

๓) การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการช่วยลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหารายวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตรจึงทำให้ลดเวลาในการเรียนรู้เนื้อหาบางอย่างลงได้ แล้วไปเพิ่มเวลาให้เนื้อหาใหม่ ๆ? เพิ่มขึ้น??????????????????????????????

๔) การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการจะตอบสนองต่อความสามารถในหลาย ๆ? ด้านของผู้เรียนช่วยสร้างความรู้ ทักษะและเจตคติ ?แบบพหุปัญญา? (Multiple intelligence)????????????? ?????????? ??????????????????

๕) การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการจะสอดคล้องกับทฤษฎีการสร้างความรู้โดยผู้เรียน(Constructivism) ที่กำลังแพร่หลายในปัจจุบัน

อาจารย์ในภาควิชาแสดงความคิดเห็นว่า หากมีการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการจะต้องมีเวลาในการบริหารจัดการและจะต้องมีรูปแบบการวัดละประเมินผลที่ชัดเจน ภาพวิชามีแผนในการบูรณาการการเรียนการสอนกับในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดา ทารก ๑ และการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ ๑ แต่ช่วงเวลาที่สอน กับจังหวะบางช่วงไม่เอื้อหนุน??? อีกทั้งลักษณะรายวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ นั้นค่อนข้างยาก? และการบูรณาการควรจัดทำในรายวิชาภาคปฏิบัติของนศ.ปีที่ ๓ ได้แก่รายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดา ทารก ๑ เนื่องจากมีการฝึกที่แผนกฝากครรภ์ ๒ สัปดาห์ แผนกหลังคลอด ๒ สัปดาห์ และแผนกห้องคลอด ๔ สัปดาห์ ในรายวิชานี้มีเวลาพอที่นักศึกษาจะสามารถเข้าไปบริการวิชาการเพื่อส่งเสริมสุขภาพได้

?????????????????? ชุมชนที่ภาควิชาเลือกในการบริการวิชาการเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพได้แก่ ชุมชนนาโปร่ง เพราะเป็นชุมชนต้นแบบของวิทยาลัยฯ

?????????????????? ในการจัดทำโครงการบริการวิชาการกับการส่งเสริมสุขภาพและการจัดการเรียนการสอน ควรมีการจัดทำงานวิจัยเพื่อเป็นการประเมินผลอย่างเป็นรูปธรรมและจะได้นำผลงานวิจัยนั้นมาพัฒนารูปแบบในปีการศึกษาต่อไป

???? ???? ๓.๒การวิเคราะห์ความรู้ เพื่อหาแนวทางในการพัฒนา และการสังเคราะห์ความรู้
? ???????????????? แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการบูรณาการการจัดการเรียนการสอน การบริการวิชาการ การวิจัยและการส่งเสริมสุขภาพ

???????????????????????????? ๑) ?การต่อยอดงานที่มีความสนใจและชำนาญ จะทำให้เกิดงานบริการที่มีคุณภาพและจะเป็นการสร้างเครือข่าย โดยในรายวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๕ ได้มีการสำรวจพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพของสตรีวัยเจริญพันธ์ในชุมชนนาโปร่งพบว่า พฤติกรรมการดูแลตนเองด้านการตรวจเต้านมด้วยตนเองยังมีจำนวนน้อย ดังนั้นควรมีการจัดทำโปรแกรมการอบรมความรู้และทักษะในการตรวจเต้านมด้วยตนเองของกลุ่มสตรีวัยเจริญพันธ์

๒) การบริการวิชาการเน้นการมีส่วนร่วมกับชุมชน/องค์กร ?โดยทางภาควิชาได้เปิดโอกาสให้นักศึกษา ผู้นำชุมชน? อสม. อาจารย์ และผู้มีประสบการณ์ แสดงความคิดเห็นในการพัฒนารูปแบบโปรแกรมของการส่งเสริมสุขภาพเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

?๓) การบูรณาการการบริการวิชาการเข้ากับการเรียนการสอน ต้องมีหลักฐานประกอบด้วย ประมวลการสอน และการสรุปผลว่าได้อะไรจากการบริการวิชาการเพื่อมาพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป

๔) การบูรณาการการบริการวิชาการกับงานวิจัยต้องมีหลักฐานเป็นงานวิจัย การประเมินผล และการสร้างความยั่งยืนได้

๕) การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนนั้นการดำเนินงานบริการวิชาการต้องอยู่ในรูปแบบของการมีส่วนร่วม และผลลัพธ์ที่ได้ต้องสร้างให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ (ความเข้มแข็ง) ซึ่งในการจัดทำโปรแกรมนี้เน้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย เน้นการสอนแบบ coaching และสาธิตย้อนกลับ หลังจากนั้นควรแจกคู่มือการตรวจเต้านมด้วยตนเองเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง และจะต้องมีการติดตามประเมินความรู้และทักษะอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินถึงความยั่งยืนขององค์ความรู้

๖) จัดทำโปรแกรมการอบรมความรู้ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ ๑ เนื่องจากมีระยะเวลาในการฝึก 8 สัปดาห์ ควรจัดให้บริการวิชาการเพื่อการส่งเสริมสุขภาพในขณะที่ฝึกแผนกฝากครรภ์ และควรจัดในวันพฤหัสบดีเนื่องจากไม่มีการฝึกปฏิบัติบนคลินิก

๗) มีการจัดประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างอาจารย์ และนักศึกษา และผู้นำชุมชน?

๘) การเลือกวิชาที่นำมาบูรณาการกับการวิจัยควรเป็นวิชาที่มีการปฏิบัติจริง นักศึกษาจะเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง และเรียนรู้ระเบียบวิธีการวิจัยควบคู่ไปพร้อม ๆ กัน

๙) การบูรณาการควรบูรณาการทั้งเนื้อหาและกระบวนการ คือ การวิจัยและวิธีการสอนจะใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการออกแบบการเรียนการสอน และการเดินเนื้อเรื่องจะใช้องค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพเข้ามา

๑๐) การบูรณาการการเรียนการสอนกับการบริการทางวิชาการแก่สังคมสามารถทำได้โดย

การนำผลงานจากการเรียนการสอนมาพัฒนาต่อยอดและนำไปเป็นองค์ความรู้ในการบริการทางวิชาการแก่สังคม และใช้การวิจัยควบคู่ในการพัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่อง

๓.๓ นำข้อมูลลง web blog ของวิทยาลัยฯและมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
????????? มติที่ประชุมมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบรายวิชาออกแบบรายวิชาให้สอดคลอดพันธกิจอื่นๆ และมอบหมายให้หัวหน้าโครงการวิจัยดำเนินการเขียนโครงร่างการวิจัยเสนอเพื่อขอรับทุนการวิจัยจากวิทยาลัยฯ

ปิดการประชุม เวลา ๑๖.๐๐ น.

…………………………………………

(นางสาวสิตานันท์ ศรีใจวงศ์)

??? หัวหน้าภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์

09/03/2013

แนวทางปฎิบัติที่ดี การบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพ

จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประเด็น “การบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติกับการสร้างเสริมสุขภาพ” ของคณาจารย์ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 วันที่ 22 สิงหาคม 2555 และครั้งที่ 2 วันที่ 8 ?มีนาคม 2556 ?ทางภาควิชาได้ถอดบทเรียนและสรุปเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี ดังนี้

แนวทางปฏิบัติที่ดี การบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติกับการสร้างเสริมสุขภาพ ?มีขั้นตอนการดำเนินการ 5 ขั้นตอน คือ

ขั้นที่ ๑ ? สร้างความเข้าใจและความกระจ่างชัดในการสร้างเสริมสุขภาพร่วมกัน

ขั้นที่ ๒ ? การพิจาณารายวิชาที่สอดคล้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ

ขั้นที่ ๓ ? การวางแผนการบูรณาการการเรียนการสอนกับการสร้างเสริมสุขภาพ

ขั้นที่ ๔ ? การดำเนินการบูรณาการการเรียนการสอนกับการสร้างเสริมสุขภาพ

ขั้นที่ ๕ ? การวัดและประเมินผล


โดยแต่ละขั้นตอน มีรายละเอียด ดังนี้

ขั้นที่ ๑ สร้างความเข้าใจและความกระจ่างชัดในการสร้างเสริมสุขภาพ

การบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพให้มีประสิทธิภาพนั้น การสร้างความเข้าใจและความกระจ่างชัดในการสร้างเสริมสุขภาพร่วมกัน ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่จะช่วยลดช่องว่างของความไม่เข้าใจหรือความไม่ชัดเจน ซึ่งจะนำไปสู่การทำงานร่วมกันอย่างมีเป้าหมายและทิศทางเดียวกัน โดยคำสำคัญที่เกี่ยวข้องและควรสร้างความเข้าใจอย่างชัดเจน ได้แก่ ความหมาย และพฤติกรรมที่แสดงถึงการสร้างเสริมสุขภาพ ดังนี้

๑. การสร้างเสริมสุขภาพ (health promotion) ตามความหมายขององค์การอนามัยโลก (world health organization [WHO]) คือ ?กระบวนการเพิ่มความสามารถของบุคคลในการควบคุม ดูแล และพัฒนาสุขภาพของตนเองให้ดีขึ้น?

๒. พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (health-promoting behavior) ตามกรอบแนวคิด Health Promotion Model ของ Pender อันประกอบด้วย ๖ พฤติกรรม ดังนี้

๑) ความรับผิดชอบต่อสุขภาพ (health responsibility)

๒) กิจกรรมทางกาย (physical activity)

๓) โภชนาการ (nutrition)

๔) สัมพันธภาพระหว่างบุคคล (interpersonal relations)

๕) การเจริญทางจิตวิญญาณ (spiritual growth)

๖) การจัดการกับความเครียด (stress management)

ขั้นที่ ๒ การพิจาณารายวิชาที่สอดคล้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ

การพิจารณาความสอดคล้องของรายวิชาในการบูรณาการกับการสร้างเสริมสุขภาพ โดยเฉพาะความสอดคล้องด้านเป้าประสงค์ที่ต้องการ จะมีส่วนช่วยให้มองเห็นความเป็นไปได้ของการดำเนินการไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้หรือไม่ อย่างไร ความคล่องตัวเป็นอย่างไร เกิดความคุ้มค่าในการดำเนินการหรือไม่อย่างไร

ขั้นที่ ๓ การวางแผนการบูรณาการการเรียนการสอนกับการสร้างเสริมสุขภาพ

การวางแผนการการบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติทางการพยาบาลกับ การสร้างเสริมสุขภาพ ควรเริ่มต้นด้วยการออกแบบหรือระบุการวัตถุประสงค์ ผลลัพธ์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรมการวัดและประเมินผลของการบูรณาการดังกล่าวไว้ใน ?รายละเอียดของประสบการณ์ภาคสนาม (มคอ.๔)? ดังนี้

๓.๑ ทบทวนวัตถุประสงค์และผลลัพธ์การเรียนรู้ของรายวิชาภาคปฏิบัติ โดยพิจารณาความสอดคล้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติ ๒ กรณี คือ

กรณี ๑ วัตถุประสงค์และผลลัพธ์การเรียนรู้ของรายวิชาภาคปฏิบัติ อาจสะท้อนหรือบอกแนวทางการจัดกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ แต่ไม่ชัดเจน ให้พิจารณาปรับปรุงหรือเพิ่มเติมข้อความของวัตถุประสงค์และผลลัพธ์การเรียนรู้นั้นๆ ให้สะท้อน การสร้างเสริมสุขภาพ

กรณี ๒ วัตถุประสงค์และผลลัพธ์การเรียนรู้ของรายวิชาภาคปฏิบัติ ไม่สะท้อนหรือบอกแนวทางการจัดกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ ให้พิจารณาเพิ่มวัตถุประสงค์และผลลัพธ์การเรียนรู้ของรายวิชาภาคปฏิบัติให้สอดรับกับประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพ โดยคำนึงถึงคำสำคัญ (key word) คือ ความหมาย และพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ตัวอย่างเช่น วัตถุประสงค์รายวิชา ปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ ๓ (บุคคลวัยสูงอายุ) เมื่อสิ้นสุดการฝึกภาคปฏิบัติ นักศึกษาสามารถ

๑. ใช้กระบวนการพยาบาลในการพยาบาลผู้สูงอายุได้อย่างเหมาะสม

๒. ให้การพยาบาลผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพได้

๓. ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพได้

๔. แสดงความก้าว หน้าในทักษะทางการพยาบาลในการวิเคราะห์ปัญหา อภิปรายทางการพยาบาลและอื่นๆ ที่เกี่ยว ข้องกับการพยาบาลได้

๕. คิดอย่างมีวิจารณญาณเพื่อการตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้ โดยอาศัยหลักวิชาการอย่างมีเหตุผล

๖.? ร่วมปฏิบัติงานกับทีมสุขภาพและบุคลากรอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม

เมื่อพิจารณาแล้ว ไม่มีวัตถุประสงค์ข้อใด สะท้อนหรือสอดรับกับประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพ อาจพิจารณาเพิ่มเติม คือ ?วางแผนและจัดกิจกรรมสร้างเสริมศักยภาพของผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพหรือญาติในการควบคุมและดูแลปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุได้? เป็นต้น

๓.๒ วางแผนกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติ/ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่สอดรับกับประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพตามบริบทหรือสถานการณ์จริงในคลินิกและชุมชน ซึ่งสามารถยกตัวอย่างให้เห็นชัดระหว่างการปฏิบัติการเพื่อการดูแลและการสร้างเสริมสุขภาพ

ขั้นที่ ๔ การดำเนินการบูรณาการการเรียนการสอนกับการสร้างเสริมสุขภาพ๓.๓ วางแผนการพัฒนาผลการเรียนรู้ (Learning Outcome [LO]) ในด้านการสร้างเสริมสุขภาพ (domain) ควรมีความสัมพันธ์และสอดคล้องกันระหว่าผลลัพธ์การเรียนรู้ กิจกรรมการสอน และกิจกรรมการวัดประเมินผล โดยยึดหลักตามกรอบแนวคิด ?OLE Alignment? (Outcome-Learning activity-Evaluation activity Alignment)

การดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนภาคปฏิบัติที่มีการบูรณาการกับการสร้างเสริมสุขภาพตามแผนที่วางไว้นั้น ควรมีการดำเนินการแบบมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมแบบภาคีเครือข่าย ระดับท้องถิ่นหรือประชาชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดการดำเนินการแบบคล่องตัว ยังทำให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน ทั้งด้านกระบวนการและผลลัพธ์การดำเนินการเรียนการสอนและการสร้างเสริมสุขภาพ

เครือข่ายความร่วมมือในส่วนของชุมชน ควรพิจารณา ดังนี้

๑) เครือข่ายความร่วมมือหลักที่สำคัญ ได้แก่ เครือข่ายภาคประชาชน ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. เป็นต้น

๒) เครือข่ายความร่วมมือ ส่วนองค์กรในชุมชนทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น โรงเรียน สถานบริการสุขภาพในท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นนั้น ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันและเสริมความเข้มแข็งของดำเนินงานและผลลัพธ์ยั่งยืน

ขั้นที่ ๕ การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมินผล นอกจากประเมินผู้เรียนตามวัตถุประสงค์และผลการเรียนรู้ ของรายวิชาแล้ว ควรพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของผู้รับบริการ/ประชาชนกลุ่มเป้าหมายหรือผลลัพธ์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพที่ชัดเจน โดยประเมินเป็นระยะๆ ดังนี้

ระยะแรก ให้ระบุการวัดความรู้เกี่ยวกับปัญหาและการแก้ไขปัญหาสุขภาพ หรือการวัดความตระหนักในความรับผิดต่อสุขภาพเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพหรือผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น หรือวัดทักษะการจัดการปัญหาสุขภาพ ภายหลังกิจกรรมเสร็จสิ้น

ระยะหลัง ให้ระบุการวัดเพิ่มในประเด็นการแสดงพฤติกรรมหรือการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพนั้นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการวัดดังกล่าว อาจวัดเป็นระยะๆ เช่น ทุก ๑ สัปดาห์ หรือ ๒ สัปดาห์ หรือ ๑ เดือน เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

คณาจารย์ประจำภาควิชา

การพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

ผู้ถอดบทเรียน

27/02/2013

การส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียน

ภาควิชาพื้นฐานการพยาบาล

การจัดการความรู้

ประเด็น การบูรณาการวิชาการกับการจัดการเรียนการสอนด้านการส่งเสริมสุขภาพ

สรุปการจัดการความรู้กับการบูรณาการการเรียนการสอน

การจัดการความรู้ เรื่องการบูรณาการจัดการเรียนการสอนวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาลและบริการวิชาการด้านการส่งเสริมสุขภาพ สิ่งที่ได้รับแบ่งออกเป็น 3 ประเด็น ดังนี้

  1. ด้านนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2
  2. ด้านอาจารย์ผู้สอนภาคปฏิบัติ
  3. ด้านผู้รับบริการ(กลุ่มเป้าหมาย)

ประเด็นที่ 1 ด้านนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2

1.1 การเรียนการสอนรายวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาล

สำหรับกิจกรรมทั้งหมดของโครงการนี้ได้มีความสอดคล้องกับลักษณะของรายวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาลคือ การพัฒนาให้นักศึกษานำความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดที่เกิดจากสภาพการณ์จริงบนหอผู้ป่วย โดยใช้กระบวนการพยาบาลเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติการพยาบาลแบบองค์รวม โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้รับบริการ ไปใช้ในการบริการวิชาการแก่สังคมภายนอก โดยเป็นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะทางวิชาชีพพยาบาลมากขึ้น สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์และนำมาประยุกต์ใช้กับตนเองและบุคคลรอบข้างในการให้การดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์

1.2 การเสริมสร้างอัตลักษณ์บัณฑิต

สำหรับรูปแบบของการจัดทำโครงการบูรณาการจัดการเรียนการสอนวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาลและบริการวิชาการด้านการส่งเสริมสุขภาพภายใต้การเรียนการสอนภาคปฏิบัติรายวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาล สำหรับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 สิ่งที่นักศึกษาได้รับจากการดำเนินโครงการนั้นจะเป็นการส่งเสริมให้นักศึกษามีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพพยาบาล โดยกระบวนการของแต่ละกิจกรรมของโครงการทั้งหมดสามารถประมวลสู่องค์ความรู้ตรงตามอัตลักษณ์บัณฑิตของวิทยาลัยฯ และอัตลักษณ์บัณฑิตของสถาบันพระบรมราชชนกที่มีความต้องการให้สถาบันผลิตบัณฑิตให้มีคุณสมบัติและมีสมรรถนะคือ บริการสุขภาพด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ซึ่งก็หมายถึงการให้บริการที่เป็นมิตร มีความรัก ความเมตตา ใส่ในใจปัญหาและความทุกข์ของผู้รับบริการและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้บริการตามปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการที่เป็นจริง โดยรับฟังความคิดเห็นของผู้รับบริการ ซึ่งมีความสอดคล้องกับลักษณะรายวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาล โดยเป็นการปฏิบัติการพยาบาลและการดูแลบุคคลทุกช่วงวัยของชีวิตที่มีภาวะสุขภาพปกติและเบี่ยงเบน โดยใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมบนพื้นฐานของการดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ดังนั้นความคาดหวังของนักศึกษาจากการฝึกปฏิบัติครั้งนี้คือการสร้างองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่นักศึกษาในการให้บริการสุขภาพของบุคคลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ โดยสรุปจะเห็นได้ว่า การให้ความสำคัญกับการให้บริการนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งส่วนหนึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้รับบริการ และผู้ให้บริการต้องเป็นบุคคลที่มีใจในการให้บริการ(Service Mind) เป็นสำคัญ ซึ่งการบริการสามารถแสดงออกเป็น 2 แบบ คือ

1. ขั้นตอนการให้บริการ เป็นการปฏิบัติการตามขั้นตอนและเทคนิคของวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้ผู้รับบริการได้ประโยชน์ ตรงตามความต้องการมากที่สุด

2. พฤติกรรมการบริการ เป็นการแสดงออกด้านการแต่งกาย สีหน้า แววตา กิริยา ท่าทาง และการพูดจา ซึ่งพฤติกรรมที่ดีย่อมสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับผู้บริการได้เป็นอย่างดี ได้แก่ การแต่งกายที่สุขภาพ สะอาด เรียบร้อย สีหน้าและแววตาที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส อ่อนโยน กิริยาท่าทางที่ สุภาพ อ่อนน้อม การพูดจาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล สุภาพ ชัดเจน ให้เกียรติ มีหางเสียง

1.3 การพัฒนาคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์และสมรรถนะของนักศึกษา

กิจกรรมของการให้บริการวิชาการในครั้งนี้เป็นการนำความรู้และทักษะการพยาบาลที่ได้รับจากการฝึกปฏิบัติรายวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาลไปบริการวิชาการแก่บุคคลภายนอก โดยเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งตรงกับลักษณะรายวิชาที่นักศึกษาได้ผ่านการฝึกปฏิบัติมาแล้ว ดังนั้นสิ่งที่นักศึกษาได้พัฒนาตนเองตามสมรรถนะนั้น คือ การสอนและให้คำปรึกษาทางสุขภาพแก่บุคคลภายนอก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างจากสถานการณ์จริงที่นักศึกษาได้เคยปฏิบัติมาก่อน โดยนักศึกษาจะต้องมีความพร้อมในการเชื่อมโยงความรู้ที่ได้จากการฝึกปฏิบัติไปสู่สถานการณ์จริงภายนอก นอกจากนี้การที่นักศึกษาจะสามารถเชื่อมโยงความรู้ได้นั้นนักศึกษาจะต้องมีการคิดเชิงวิเคราะห์ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายนั้นมีความต้องการการดูแลสุขภาพอย่างไร เพื่อให้นักศึกษาสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้รับบริการได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้นักศึกษายังต้องมีการพัฒนาตามคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ในด้านทักษะในการติดต่อสื่อสาร และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้รับบริการ เพื่อให้การบริการวิชาการเป็นไปอย่างราบรื่น รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายมีความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อนักศึกษาต่อไป

ประเด็นที่ 2 ด้านอาจารย์ผู้สอนภาคปฏิบัติ

สำหรับการนำความรู้และประสบการณ์จากการเรียนการสอนที่ได้ถ่ายทอดแก่นักศึกษานั้น ถือเป็นการวางรากฐานทางความคิดให้แก่นักศึกษาเพื่อนำไปใช้การให้การดูแลผู้รับบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์นั้น ถือว่าเป็นการพัฒนาความเชี่ยวชาญอาจารย์ผู้สอนด้านการส่งเสริมสุขภาพเป็นอย่างดี เนื่องจากอาจารย์ผู้สอนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองในการปลูกฝังให้นักศึกษามีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพการพยาบาล สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาตนเองและให้ประโยชน์ต่อบุคคลอื่นต่อไป นอกจากนี้อาจารย์ผู้สอนภาคปฏิบัติยังสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการให้บริการวิชาการมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนในภาคปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประเด็นที่ 3 ด้านผู้รับบริการ(กลุ่มเป้าหมาย)

ภาควิชาพื้นฐานการพยาบาลฯ เป็นภาควิชาที่มีการจัดการเรียนการสอนวิชาการพยาบาลที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแลสุขภาพมนุษย์นับตั้งแต่การดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลตลอดจนการดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต โดยมีความเชื่อและตระหนักในการให้คุณค่าของการวางรากฐานในการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลที่ดีนั้นต้องเริ่มต้นที่เด็กวัยเรียน เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต มีความกระตือรือร้นในการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากประสบการณ์ของตนเอง บุคคลและสื่อต่างๆ ช่างซักถาม และชอบลองทำสิ่งที่ท้าทายความสามารถ ต้องการแสดงออกในรูปแบบต่างๆ ต้องการให้ผู้อื่นสนใจ ชอบการยกย่อง ชมเชย รวมทั้งการยอมรับจากบุคคลรอบข้าง ดังนั้นการส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนได้เรียนรู้และได้รับการดูแลขั้นพื้นฐาน ซึ่งหมายรวมถึงการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เด็กมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจและสติปัญญา เพราะการสิ่งเสริมสุขภาพเด็กในวันนี้จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีต่อไปในอนาคต

สรุปประเด็นความรู้ที่ได้รับจากการบูรณาการจัดการเรียนการสอนวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาลและบริการวิชาการด้านการส่งเสริมสุขภาพในครั้งนี้ ได้แก่

  1. การเชื่อมโยงความรู้จากการเรียนการสอนภาคปฏิบัติไปสู่การบริการวิชาการแก่ชุมชน
  2. การวางรากฐานความคิดให้นักศึกษานำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์แม้อยู่ในสถานการณ์จริงที่มีความแตกต่างกัน
  3. การนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการให้บริการวิชาการไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาที่อื่นต่อไป เพื่อพัฒนาให้นักศึกษามีแนวคิดและเป้าหมายเดียวกันในการปฏิบัติการพยาบาลบนพื้นฐานการดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์

สรุปองค์ความรู้

การพยาบาล เป็นการใช้ศิลปะและวิทยาศาสตร์ในการปฏิบัติต่อผู้ป่วยทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยการให้ความปลอดภัยและการส่งเสริมสุขภาพที่ดีต่อประชาชนและสังคม การพยาบาลไม่ได้มีความหมายเฉพาะการดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในระยะเจ็บป่วยแต่การพยาบาลเป็นบริการที่ให้กับบุคคล ครอบครัวและสังคม โดยใช้ศิลปะและวิทยาศาสตร์ในการหล่อหลอมทัศนคติ สติปัญญา และทักษะทางการพยาบาลแก่นักศึกษาพยาบาล เพื่อให้สามารถช่วยบุคคลที่ป่วยหรือสุขภาพดี มีสุขภาพดี ซึ่งการช่วยเหลือจะครอบคลุมถึงการป้องกันโรค การส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพและการดูแลรักษาพยาบาล และการดำรงไว้ซึ่งสุขภาพที่ดีที่บุคคลนั้นสามารถจะพึงมีได้

ภาควิชาพื้นฐานการพยาบาล เป็นภาควิชาที่รับผิดชอบการจัดการเรียนการสอนแก่นักศึกษาพยาบาล โดยมีวัตถุประสงค์หลักของรายวิชาคือ เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจ หลักการและเทคนิคปฏิบัติการพยาบาลแบบองค์รวมในการดูแลบุคคลทุกช่วงวัยของชีวิตที่มีภาวะสุขภาพปกติและเบี่ยงเบนบนพื้นฐานการดูแลด้วยความเอื้ออาทร ดังนั้นการพยาบาลที่ต้องเกี่ยวข้องกับการดูแลในความหมายของคณาจารย์ในภาควิชาจึงเป็นการสร้างทัศนคติ ความคิดและการปลูกฝังให้นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่กำลังจะฝึกภาคปฏิบัติให้เข้าใจว่า การดูแลจะเริ่มต้นที่ความรู้สึกสนใจ ห่วงใย และเข้าใจความต้องการของบุคคลทุกช่วงวัยว่ามีความละเอียดอ่อน และลักษณะเฉพาะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เด็กวัยเรียน เป็นกลุ่มที่คณาจารย์ในภาควิชาให้ความสนใจ ในการนำนักศึกษาที่กำลังฝึกภาคปฏิบัติการพยาบาล ในรายวิชา ปฏิบัติการหลักการและเทคนิคการพยาบาล ไปให้ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพ ด้านสุขวิทยาส่วนบุคคล การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและความรู้ทั่วไปเรื่องโรคตามฤดูกาล นักศึกษาจะประยุกต์ความรู้ที่ได้ให้การพยาบาลผู้ป่วยบนหอผู้ป่วย มาใช้กับนักเรียน เช่น ความรู้เรื่องสุขวิทยาส่วนบุคคล การอาบน้ำ แปรงฟัน และการทำความสะอาดร่างกาย การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การปฏิบัติตัวเมื่อเป็นไข้หวัด เป็นต้น รูปแบบการบูรณาการ ทำให้เกิดประโยชน์แก่ เด็กวัยเรียน ครูผู้สอนในโรงเรียน นักศึกษาพยาบาล และอาจารย์พยาบาล และหากเด็กวัยเรียนเกิดแนวคิด สามารถจำในสิ่งที่นักศึกษาพยาบาลสอน และสามารถนำไปใช้ได้ ผู้ปกครองของนักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการบริการวิชาการในครั้งนี้ด้วย

ในด้านประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับอาจารย์พยาบาลในภาควิชาคือ ความเข้าใจและการมองเห็นนักศึกษาประยุกต์ความรู้ทางการพยาบาลมาใช้ ว่านักศึกษามีความเข้าใจในเนื้อหาหรือตัวองค์ความรู้พื้นฐานมากน้อยเพียงใด การสร้างสรรค์ในการนำมาประยุกต์ใช้กับกลุ่มผู้รับบริการที่มีความแตกต่างกันทั้งในช่วงวัย และภาวะสุขภาพที่ปกติและเจ็บป่วย ความเอื้ออาทร ความสนใจ ความห่วงใยที่มีภาวะพัฒนาการของแต่วัยที่มีความแตกต่าง? ซึ่งโดยทั่วไปการจัดการเรียนการสอนเฉพาะในชั้นเรียนหรือในคลินิกนั้นเป็นการให้บริการแต่ละบุคคล เช่น การดูแลผู้ป่วยแต่ละรายในโรงพยาบาล แต่ความเป็นจริงแล้วการพยาบาลสามารถเกิดได้ในทุกที่ และเป็นกลุ่มคน ชุมชน หรือครอบครัว เช่น สถานที่ที่ภาควิชาพื้นฐานการพยาบาลจัดให้แก่นักเรียนโรงเรียนเทศบาลหัวดง ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ สิ่งสำคัญที่เป็นความรู้ที่ได้รับจากการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนและการจัดการความรู้คือ (explicit knowledge) การพยาบาลที่ดีจะต้องเป็นการบริการที่ต่อเนื่อง ไม่ได้เริ่มต้นและสิ้นสุดที่จุดใดจุดหนึ่ง แต่ต้องกระทำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลลัพธ์หรือพัฒนาการ การบ่มเพาะความคิดที่ดีในการดูแลสุขภาพตนเองผ่านสื่อที่น่าสนใจสำหรับเด็กอาจส่งผลต่อพัฒนาการในการดูแลตนเองของเด็กเมื่อเจริญวัยต่อไปได้ และคณาจารย์ภาควิชาฯ เห็นว่า การบูรณาการรูปแบบการเรียนการสอนดังกล่าวควรกระทำต่อเนื่องในสถานที่แห่งเดิมเพื่อติดตามผลการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลหัวดง ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ และอาจสร้างเครือข่ายในการดูแลสุขภาพนักเรียน กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ และทางโรงเรียนเทศบาลหัวดงฯ เพื่อร่วมกันดูแลสุขภาพเด็กอย่างต่อเนื่อง

ความรู้ในสิ่งที่อาจารย์พยาบาลได้รับจากการเสริมสร้างประสบการณ์ให้นักศึกษาจะทำให้อาจารย์นำไปปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนทั้งในภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติและการจัดประสบการณ์นอกชั้นเรียนให้แก่นักศึกษาต่อไป

คณาจารย์ภาควิชาพื้นฐานการพยาบาล

มกราคม 2556

09/09/2012

รายงานการประชุมการจัดความรู้ ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ณ ห้อง conference ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

Categories: การจัดการความรู้ วพบ.อต.
Author: paitoon
Time: 3:47 pm
Reactions :4 comments

รายงานการประชุมการจัดความรู้

ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

ณ ห้อง conference ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

รายชื่อผู้เข้าประชุม

๑. นางนิศารัตน์?????????? นาคทั่ง?????????? หัวหน้าภาควิชาฯ และประธานการประชุม

๒. นางศศิธร?????????????? ชิดนายี

๓. นางสาววราภรณ์?????? ยศทวี

๔. นางสาวนัยนา????????? อินธิโชติ

๕. นางมณฑา????????????? อุดมเลิศ

๖. นางสุธีรา?????????????? งามวาสีนนท์

๗. นางอนัญญา??????????? คูอาริยะกุล

๘. นางสาวเสาวลักษณ์??? เนตรชัง

๙. นางวาสนา???????????? ครุฑเมือง

๑๐. นางสาวนัยนา??????? แก้วคง

๑๑. นางอรุณรัตน์???????? พรมมา

๑๒. นายเสน่ห์???????????? ขุนแก้ว

๑๓. นายสืบตระกูล??????? ตันตลานุกุล

๑๔. นางภราดร??????????? ล้อธรรมมา

๑๕.นายวีระยุทธ?????????? อินพะเนา

๑๖. นายไพทูรย์?????????? มาผิว???????????? เลขานุการ

เริ่มการประชุม ๑๓.๓๐ น.

ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องแจ้งให้ที่ประชุมทราบ โดยประธานที่ประชุม

อ.นิศารัตน์ นาคทั่ง ประธานการประชุมแจ้งให้ทราบว่า มีมติจากที่ประชุมประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ว่าประเด็นการจัดการความรู้ของวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕ ยังคงเป็นประเด็นหลักๆ ที่สำคัญ ๒ ประเด็นเช่นเดิม คือ ประเด็นที่ ๑ การจัดการเรียนการสอน เรื่องการบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ และประเด็นที่ ๒ การวิจัย เรื่อง เทคนิคการเขียนผลงานวิชาการ โดยประเด็นที่ภาควิชาต้องดำเนินการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คือ ประเด็นที่ ๑ ซึ่งจะให้อาจารย์ศศิธร ชิดนายี เป็นผู้นำการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวาระถัดไป

ระเบียบวาระที่ ๒ การแสวงหาความรู้ ?โดยอาจารย์ศศิธร ชิดนายี

สืบเนื่องจากวิทยาลัยได้มีมติกำหนดประเด็นการจัดการความรู้ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕ ใน ๒ ประเด็นหลักตามที่ประธานได้แจ้งให้ทราบแล้วนั้น โดยประเด็นที่ทุกภาควิชาต้องดำเนินการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พร้อมถอดบทเรียน สรุปเป็นองค์ความรู้ คือ การบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อให้ได้องค์ความรู้ในประเด็นดังกล่าว จากการดำเนินการจัดการศึกษาของภาควิชาที่ผ่านมามีการปฏิบัติอย่างไร

อาจารย์วาสนา ครุฑเมือง ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่า การฝึกปฏิบัติรายวิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ ๓ (บุคคลวัยผู้สูงอายุ) ได้บูรณาการการบริการวิชาการ เรื่อง???????????? การดูแลผู้ป่วยสูงอายุในชุมชน โดยสร้างและใช้นวัตกรรมในการดูแลสุขภาพ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ได้ฝึกให้นักศึกษาได้ใช้กระบวนการพยาบาลอย่างเข้มข้น ภายใต้การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และผลักดันให้นักศึกษานำญาติหรือผู้ดูแลเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการดูแลสุขภาพผู้ป่วยสูงอายุให้มากที่สุด โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเสริมความรู้ สร้างทักษะญาติในการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ ตลอดจนการสาธิตย้อนกลับของญาติเกี่ยวกับการใช้นวัตกรรมที่นักศึกษาพัฒนาขึ้น เมื่อพิจารณาสิ่งที่ทำมา ตนเองคิดว่าเป็นการตอบโจทย์กาสร้างเสริมสุขภาพได้ดีทีเดียว

อาจารย์ไพทูรย์ มาผิว ได้แสดงความเห็นด้วยและเสริมความต่อจากอาจารย์วาสนา ว่า ตนเองก็เป็นหนึ่งในอาจารย์ที่นิเทศการฝึกปฏิบัติรายวิชาดังกล่าวเช่นเดียวกับอาจารย์วาสนา???????????? ซึ่งการเสริมความรู้ ส่งเสริมความตระหนัก สร้างทักษะญาติในการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ ตลอดจนการสาธิตย้อนกลับของญาติเกี่ยวกับการใช้นวัตกรรมที่นักศึกษาพัฒนาขึ้นนั้น มีความสอดคล้องกับความหมายของการสร้างเสริมสุขภาพ ตามที่ WHO ว่าไว้ คือ ?กระบวนการเพิ่มความสามารถของบุคคลในการควบคุม ดูแล และพัฒนาสุขภาพของตนเองให้ดีขึ้น?

อาจารย์ภราดร ล้อธรรมมา ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่า การฝึกที่ผ่านนักศึกษาสะท้อนว่าการสร้างเสริมสุขภาพนั้น ทำเฉพาะในกลุ่มคนที่สุขภาพดี ซึ่งคิดตามความหมายที่ WHO ได้ให้ไว้ ตามที่อาจารย์ไพทูรย์อ้างไว้ ตนเองคิดว่านักศึกษาอาจมีความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ?????????? ที่คาดเคลื่อนไป ดังนั้น คงต้องทำความเข้าใจให้กระจ่างชัดในประเด็นนี้ ทั้งนักศึกษาและครู โดยเฉพาะครู ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้สู่นักศึกษา จึงจะทำให้การสร้างเสริมสุขภาพมีความก้าวหน้า

อาจารย์เสน่ห์ ขุนแก้ว จากการนิเทศนักศึกษาเช่นเดียวกับอาจารย์ไพทูรย์และอาจารย์วาสนาที่ผ่านมา พบว่า นวัตกรรมที่นักศึกษาพัฒนาขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ป่วยสูงอายุได้มีการออกกำลังกาย ก็คิดว่าตอบโจทย์การบูรณาการกับการสร้างเสริมสุขภาพ

อาจารย์ไพทูรย์ มาผิว เห็นด้วยกับอาจารย์เสน่ห์ เพราะพิจารณานวัตกรรมการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุที่นักศึกษาพัฒนาขึ้น จะอยู่ในกรอบพัฒนาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของผู้ป่วยตามกรอบแนวคิดของเพนเดอร์ (Pender) ที่มีอยู่ ๖ ประเภท คือ ๑) ความรับผิดชอบต่อสุขภาพ? ?????????๒) กิจกรรมทางกาย (ออกกำลังกาย) ๓) โภชนาการ ๔) สัมพันธภาพระหว่างบุคคล ๕) การเจริญทางจิตวิญญาณ และ ๖) การจัดการกับความเครียด

อาจารย์สืบตระกูล ตันลานุกุล เห็นด้วยกับทุกคน อย่างไรก็ตาม ก็อย่างให้พิจารณาหรือเสริมการกระทำที่ตอบความหมายของการสร้างเสริมสุขภาพ ด้วยว่า ต้องกระทำเพื่อเพิ่มสมรรถนะของคน ทั้งผู้ป่วยและญาติให้มาขึ้น เพื่อที่เขาจะได้ดูแลตนเองได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน?????????? มิใช้การพิจารณาหรือกระทำ โดยเราฝ่ายเดียว

อาจารย์ศศิธร สรุปประเด็นว่าจากที่แลกเปลี่ยนรู้กันมาพบว่า ส่วนใหญ่เป็น field ในชุมชนทั้งหมด ส่วนใน field โรงพยาบาลหรือคลินิก จะมีการบูรณาการกับการส่งเสริมสุขภาพอย่างไร

อาจารย์นิศารัตน์ นาคทั่ง แสดงความคิดเห็นว่า ถ้าพิจารณาตามความหมายแล้ว คิดเห็นการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วย โดยให้ความรู้ในการดูแลผู้ป่วย ทั้งตัวผู้ป่วยเองหรือญาติ? ???????เมื่อกลับไปอยู่บ้าน ก็ถือว่าเป็นการส่งเสริมสุขภาพเช่นกัน

อาจารย์เสาวลักษณ์ เนตรชัง เห็นด้วยกับอาจารย์นิศารัตน์ ดังนั้นเวลาวางแผนหรือเขียนแผนการสอนต้องเขียนให้เห็นว่ากิจกรรมใดคือการดูแล กิจกรรมใดคือการส่งเสริมสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยมีแผล พยาบาลทำแผลให้ถือว่าเป็นกิจกรรมดูแล ส่วนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ก็น่าจะเป็นในลักษณะการสอนให้ญาติดูแลแผล เป็นโค้ชสอนญาติทำแผล แนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่บ้าน เป็นต้น

อาจารย์วราภรณ์ ยศทวี กล่าวว่า ตามความหมายของการสร้างเสริมสุขภาพของ WHO สิ่งที่กล่าวมา ก็น่าจะใช่กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพทั้งหมด แต่ทีนี้เราจะเขียนกิจกรรมในแผนการอย่างไรให้ชัดเจน สะท้อนการสร้างเสรมสุขภาพ คงต้องมามองหรือพิจารณาวัตถุประสงค์หรือสมรรถนะรายวิชาให้ครอบคลุมจากที่มีและสะท้อนแนวทางการจัดประสบการณ์ให้นักศึกษาไปเพิ่มศักยภาพของผู้ป่วยและญาติในการดูแลสุขภาพตนเองให้ชัดขึ้น มีแล้วก็ดีไป ถ้าไม่มีก็คงต้องเพิ่มให้มี ถ้ามีแต่ไม่ชัดหรือกว้างไป ก็อาจเพิ่มข้อความให้เข้าไป

อาจารย์ไพทูรย์ มาผิว ให้ข้อมูลการวัดและประเมินผลว่า นอกจากประเมินผู้เรียนตามวัตถุประสงค์และสมรรถนะรายวิชาแล้ว ควรพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของผู้รับบริการ ???????????????????โดยประเมินเป็นระยะๆ ดังนี้

ระยะแรก ให้ระบุการวัดความรู้เกี่ยวกับปัญหาและการแก้ไขปัญหาสุขภาพ หรือการวัดความตระหนักในความรับผิดต่อสุขภาพเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพหรือผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น หรือวัดทักษะการจัดการปัญหาสุขภาพ ภายหลังกิจกรรมเสร็จสิ้น

ระยะหลัง ให้ระบุการวัดเพิ่มในประเด็นการแสดงพฤติกรรมหรือการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพนั้นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการวัดดังกล่าว อาจวัดเป็นระยะๆ เช่น ทุก ๑ สัปดาห์ หรือ ๒ สัปดาห์ หรือ ๑ เดือน เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

ระเบียบวาระที่ ๓ สรุปประเด็นความรู้ที่ได้จากการแสวงหาร่วมกัน

๓.๑ สรุปแนวทางการปฏิบัติ สำหรับ ?การบูรณาการการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลกับการสร้างเสริมสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ? มีขั้นตอนการดำเนินการนี้

๑. อันดับแรกต้องสร้างความเข้าใจ/ความกระจ่างในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ ได้แก่ ความหมาย และพฤติกรรมที่แสดงถึงการสร้างเสริมสุขภาพ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

๑.๑ การสร้างเสริมสุขภาพ (health promotion) ตามความหมายขององค์การอนามัยโลก (world health organization [WHO]) คือ ?กระบวนการเพิ่มความสามารถของบุคคลในการควบคุม ดูแล และพัฒนาสุขภาพของตนเองให้ดีขึ้น?

๑.๒ พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (health-promoting behavior) ตามกรอบแนวคิด Health Promotion Model ของ Pender อันประกอบด้วย ๖ พฤติกรรม ดังนี้

๑) ความรับผิดชอบต่อสุขภาพ (health responsibility)

๒) กิจกรรมทางกาย (physical activity)

๓) โภชนาการ (nutrition)

๔) สัมพันธภาพระหว่างบุคคล (interpersonal relations)

๕) การเจริญทางจิตวิญญาณ (spiritual growth)

๖) การจัดการกับความเครียด (stress management)

๒. ทบทวนวัตถุประสงค์/สมรรถนะของรายวิชาภาคปฏิบัติ โดยให้พิจารณาวัตถุประสงค์/สมรรถนะที่มีประเด็นสอดรับกับประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพ

กรณี ๑ วัตถุประสงค์/สมรรถนะของรายวิชาภาคปฏิบัติ อาจสะท้อนหรือบอกแนวทางการจัดกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ แต่ไม่ชัดเจน ให้พิจารณาปรับปรุงหรือเพื่อข้อความของวัตถุประสงค์นั้นๆ บอกหรือสะท้อนแนวทางการสร้างเสริมสุขภาพ

กรณี ๒ วัตถุประสงค์/สมรรถนะของรายวิชาภาคปฏิบัติ ไม่สะท้อนหรือบอกแนวทางการจัดกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ ให้พิจารณาเพิ่มวัตถุประสงค์/สมรรถนะของรายวิชาภาคปฏิบัติให้สอดรับกับประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพ โดยคำนึงถึงคำสำคัญ (key word) คือ ความหมาย และพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ตัวอย่างเช่น วัตถุประสงค์รายวิชา ปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ ๓ (บุคคลวัยสูงอายุ) เมื่อสิ้นสุดการฝึกภาคปฏิบัติ นักศึกษาสามารถ

๑. ใช้กระบวนการพยาบาลในการพยาบาลผู้สูงอายุได้อย่างเหมาะสม

๒. ให้การพยาบาลผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพได้

๓. ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพได้

๔. แสดงความก้าว หน้าในทักษะทางการพยาบาลในการวิเคราะห์ปัญหา อภิปรายทางการพยาบาลและอื่นๆ ที่เกี่ยว ข้องกับการพยาบาลได้

๕. คิดอย่างมีวิจารณญาณเพื่อการตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้ โดยอาศัยหลักวิชาการอย่างมีเหตุผล

๖. ร่วมปฏิบัติงานกับทีมสุขภาพและบุคลากรอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม

เมื่อพิจารณาแล้ว ไม่มีวัตถุประสงค์ข้อใด สะท้อนหรือสอดรับกับประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพ อาจพิจารณาเพิ่มเติม คือ ?วางแผนและจัดกิจกรรมสร้างเสริมศักยภาพของผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพหรือญาติในการควบคุมและดูแลปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุได้? เป็นต้น

๓. วางแผนกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติ/สรรถนะที่สอดรับกับประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพ ตามบริบทหรือสถานการณ์จริงในคลินิกและชุมชน ซึ่งสามารถยกตัวอย่างให้เห็นชัดระหว่างการปฏิบัติการเพื่อการดูแลและการสร้างเสริมสุขภาพ ดังตารางต่อไปนี้

ปัญหาสุขภาพ กิจกรรมการดูแล กิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ
การฝึกปฏิบัติการพยาบาลบนหอผู้ป่วยในโรงพยาบาล

ผู้ป่วยมีแผล Colostomy

การทำแผล Colostomy ??????????แบบ wet dressing ให้กับผู้ป่วย การเตรียมผู้ป่วยก่อนจำหน่าย จากโรงพยาบาล ดังนี้

๑. การสอนและสาธิตผู้ป่วย/ญาติในการทำแผล Colostomy แบบ wet dressing

๒. การเป็นโค้ช (coach) ให้ผู้ป่วย/ญาติในการทำแผล Colostomy

การติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยสูงอายุในชุมชน

ผู้ป่วยสูงอายุแขนขาซีกซ้ายอ่อนแรง และติดเกร็ง มีแผลกดทับ

๑. การช่วยผู้ป่วยออกกำลังกาย แบบ Passive exercise

๒. การทำแผล แบบ wet dressing

๑. การสอนและสาธิตญาติผู้ป่วยสูงอายุในการทำแผลและ Passive exercise แบบ Coaching (เป็นโค้ชสอน)

๒. ร่วมกับญาติในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการดูแล ป้องกันหรือแก้ปัญหาสุขภาพ โดยกระตุ้นให้พิจารณาถึงภูมิปัญญา/วัสดุท้องถิ่นที่มีอยู่ มาดัดแปลงให้เกิดประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาสุขภาพ

กิจกรรมตัวอย่างข้างต้น ล้วนเป็นการเพิ่มศักยภาพของผู้ป่วยและญาติในการดูแลตนเอง ?????????????เมื่อกลับไปอยู่บ้าน ซึ่งสอดรับกับความหมายการสร้างเสริมสุขภาพ

๔. ดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนภาคปฏิบัติการพยาบาลที่บูรณาการกับการสร้างเสริมสุขภาพ ที่มีการออกแบบอย่างเป็นรูปธรรมตามแผนที่วางไว้

๕. การวัดและประเมินผล นอกจากประเมินผู้เรียนตามวัตถุประสงค์และสมรรถนะรายวิชาแล้ว ควรพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของผู้รับบริการ โดยประเมินเป็นระยะๆ ดังนี้

ระยะแรก ให้ระบุการวัดความรู้เกี่ยวกับปัญหาและการแก้ไขปัญหาสุขภาพ หรือการวัดความตระหนักในความรับผิดต่อสุขภาพเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพหรือผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น หรือวัดทักษะการจัดการปัญหาสุขภาพ ภายหลังกิจกรรมเสร็จสิ้น

ระยะหลัง ให้ระบุการวัดเพิ่มในประเด็นการแสดงพฤติกรรมหรือการคงไว้ซึ่งพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพนั้นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการวัดดังกล่าว อาจวัดเป็นระยะๆ เช่น ทุก ๑ สัปดาห์ หรือ ๒ สัปดาห์ หรือ ๑ เดือน เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

๓.๒ กิจกรรมต่อไป คือ เผยแพร่คามรู้ที่ได้ผ่าน web blog , website ของวิทยาลัยและแผ่นพับประชาสัมพันธ์

ปิดประชุมเวลา ๑๕.๐๐ น.

ไพทูรย์ ?มาผิว

(นายไพทูรย์? มาผิว)

ผู้บันทึกรายงานการประชุม

นิศารัตน์ ?นาคทั่ง

(นางนิศารัตน์ นาคทั่ง)

ผู้ตรวจสอบรายงานการประชุม

07/09/2012

การเสวนาในการจัดการความรู้ ( KM ) ภาควิชาการพยาบาลอนามัยชุมชนและจิตเวช เรื่อง การสังเคราะห์ความรู้สู่ผลการสอบขึ้นทะเบียนใบประกอบวิชาชีพ ของภาควิชาการพยาบาลอนามัยชุมชนและจิตเวช

Categories: การจัดการความรู้ วพบ.อต.
Author: admin
Time: 1:17 am
Reactions :24 comments

การเสวนาในการจัดการความรู้ ( KM )

ภาควิชาการพยาบาลอนามัยชุมชนและจิตเวช

เรื่อง การสังเคราะห์ความรู้สู่ผลการสอบขึ้นทะเบียนใบประกอบวิชาชีพ

ของภาควิชาการพยาบาลอนามัยชุมชนและจิตเวช

ณ? ห้องประชุม ๓๒๔ ?วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์

วันที่? ๑๖? สิงหาคม? พ.ศ.๒๕๕๕

เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์

ผู้เข้าร่วมประชุม

๑.อาจารย์วิไลวรรณ???????? บุญเรือง??????????????????? พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ

๒.อาจารย์วิมล?????????????? อ่อนเส็ง??????????????????? พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ

๓.อาจารย์ ดร.ประภาพร? มโนรัตน์??????????? พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ

๔.อาจารย์ดุจเดือน เขียวเหลือง??????????????? พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ

๕.อาจารย์อดุลย์???? ??????? ?วุฒิจูรีพันธุ์??????????????? พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ

๖.อาจารย์อัญชรี?? รัตนเสถียร???????????????? พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ

๗.อาจารย์บุญฤทธิ์ ประสิทธินราพันธุ์????????? พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ

๘.อาจารย์พรรณพิไล???????? สุทธนะ ?????????????????? พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ

๙.อาจารย์นิกร?????????????? จันภิลม??????????????????? วิทยาจารย์ชำนาญการ

๑๐.??????? อาจารย์อิทธิพล?????? แก้วฟอง??????????????????? พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ

๑๑.??????? อาจารย์จิระภา?????? สุมาลี?????????????????????? พยาบาลวิชาชีพ

๑๒.??????? อาจารย์กันตวิชญ์???? จูเปรมปรี????????????????? พยาบาลวิชาชีพ

๑๓.??????? อาจารย์ชลธิชา?????? จับคล้าย?????????????????? พยาบาลวิชาชีพ

เปิดประชุมเวลา ๑๓.๓๐ น.

วาระที่ ๑ เรื่องที่ประธานแจ้งให้ทราบ

๑. คณะกรรมการจัดการองค์ความรู้ของวิทยาลัยฯ ได้แจ้งนโยบายเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ดีในเรื่องการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ และ? การสอบขึ้นทะเบียนใบประกอบวิชาซึ่ง อ.ศศิธร? ได้ชี้แจงให้อาจารย์ทุกคนได้รับทราบแล้ว

๒.? ขั้นตอนการดำเนินการมีดังนี้

๒.๑? สร้างความเข้าใจ/ความกระจ่างในประเด็นสำคัญ? โดยทบทวนมติการจัดการความรู้ที่ได้มีมติร่วมกันคือแนวทางในการจัดการองค์ความรู้ของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี? อุตรดิตถ์ ที่สอดคล้องกับพันธกิจของวิทยาลัยในด้านการจัดการเรียนการสอน คือ เรื่อง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติเพื่อการสอบขึ้นทะเบียนใบประกอบวิชาชีพ

๒.๒? ทบทวนวัตถุประสงค์รายวิชา/ วิธีการจัดการเรียนการสอนในภาคปฏิบัติเพื่อปรับเพิ่มให้สอดคล้องกับการสอบขึ้นทะเบียนของสภาการพยาบาล

๓. ผลการจัดการความรู้ในภาควิชาการพยาบาลอนามัยชุมชนและจิตเวช มีประเด็น เรื่องการสังเคราะห์ความรู้สู่ผลการสอบขึ้นทะเบียนใบประกอบวิชาชีพของนักศึกษาพยาบาล ฯ? ของภาควิชาการพยาบาลอนามัยชุมชนและจิตเวช? มีแนวปฏิบัติดังนี้

๓.๓.๑ รายวิชาการพยาบาลอนามัยชุมน โดยการสังเคราะห์ความรู้ร่วมกันโดยมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในประเด็นปัจจัยที่มีผลต่อการสอบทะเบียนใบประกอบวิชาชีพของนักศึกษาดังนี้

-? การสร้างแรงจูงใจ หรือการสร้างเสริมพลังอำนาจให้นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการสอบขึ้นทะเบียน? โดยมีการชี้แจงให้นักศึกษาได้เห็นถึงข้อเสียขอเสียของการสอบไม่ผ่าน หรือผลดีของการสอบผ่าน

-? การจัดการเรียนการสอนที่มีการบูรณาการสภาพจริงสู่การเชื่อมโยงต่อทฤษฎีที่ใช้ในการสอนขึ้นทะเบียน? เช่น? การติวนักศึกษาขณะฝึกในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลครอบครัวและชุมมน ๒ ?เนื่องจากรายวิชานี้ ลักษณะรายวิชาเป็นการรวมองค์ความรู้ของรายวิชาการพยาบาลอนามัยชุมชน ซึ่งสามารถทำให้นักศึกษาได้เห็นสภาพจริงและเกิดการเชื่อมโยงที่ชัดเจนขึ้นกว่าการเรียนทฤษฎี ที่นักศึกษามองว่าเป็นนามธรรม

- จัดให้มีการติวนักศึกษาโดยใช้แนวข้อสอบที่หลากหลายและส่งเสริมให้มีการวิเคราะห์ข้อสอบร่วมกัน

-? สร้างบรรยากาศในการติวรายกลุ่มย่อยที่เป็นกันเองเพื่อให้นักศึกษาได้เกิดการสะท้อนคิดมากขึ้น

- มีการแยกนักศึกษาในรายที่มีปัญหาในการสอบวัดความรู้ในรอบต่างๆเพื่อดำเนินการสอนหรือสอบซ่อมเสริมเพื่อให้นักศึกษาได้เข้าใจในประเด็นที่ตนเองไม่เข้าใจให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

- ครูผู้สอนหรือผู้นิเทศนักศึกษาควรมีความรู้ที่เฉพาะทางและสามารถประเมินนักศึกษาภายในกลุ่มเพื่อจำแนก หรือ ติดตามนักศึกษาเกี่ยวกับประเด็นด้านวิชาการได้

๓.๓.๒. รายวิชาการพยาบาลจิตเวช โดยการสังเคราะห์ความรู้ร่วมกันโดยมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในประเด็นปัจจัยที่มีผลต่อการสอบทะเบียนใบประกอบวิชาชีพของนักศึกษาดังนี้

-? การบูรณาการสภาพจริงขณะฝึกปฏิบัติสู่การวิเคราะห์สถานการณ์ที่มีความสอดคล้องทฤษฎีในห้องเรียนเพื่อให้นักศึกษาได้มองเห็นภาพชัดยิ่งขึ้น

-? การติวนักศึกษาขณะฝึกภาคปฏิบัติโดยเชื่อโยงสถานการณ์ตามจริงสู่การวิเคราะห์ข้อสอบ

-? การใช้ข้อสอบที่หลากหลายในการติวนักศึกษา

-? การเชิญอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญจากต่างสถาบันมาติวนักศึกษา

-? มีการเตรียมความพร้อมนักศึกษาเพื่อให้นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการสอบขึ้นทะเบียน

-? มีการวิเคราะห์ข้อสอบโดยเทียบเคียงกับ แนวข้อสอบของสภาการพยาบาล

๓.๒ สรุปประเด็นองค์ความรู้และแนวทางการปฏิบัติ

๓.๒.๑. ประเด็นองค์ความรู้ที่ได้คือ? การบูรณาการสถานการณ์จริง เชื่อมโยงสู่การทำข้อสอบขึ้นทะเบียน

๓.๒.๒.แนวทางปฏิบัติ

- การเตรียมความพร้อมนักศึกษาในประเด็น การสร้างแรงจูงใจ หรือการสร้างเสริมพลังอำนาจให้นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการสอบขึ้นทะเบียน? โดยมีการชี้แจงให้นักศึกษาได้เห็นถึงข้อเสียขอเสียของการสอบไม่ผ่าน หรือผลดีของการสอบผ่าน โดยเชิญผู้ที่มีประสบการณ์ในการสอบสภาการพยาบาลในปีที่ผ่านมา มาร่วมบรรยาย? เป็นต้น

-? นักศึกษาได้รับการอบรมในโครงการ เตรียมความพร้อมสู่การสอบขึ้นทะเบียน

-? ในระหว่างที่มีการฝึกภาคปฏิบัติครูผู้นิทศควรจัดการเรียนการสอนที่มีการบูรณาการสภาพจริงสู่การเชื่อมโยงต่อทฤษฎีที่ใช้ในการสอนขึ้นทะเบียน โดยการยกสถานการณ์ที่จัดเจนหรือการนำตัวข้อสอบที่มีสภานการณ์คล้ายคลึงกับสถานการณ์จริงที่นักศึกษาพบเห็นในระหว่างการฝึก? เพื่อให้นักศึกษาเกิดการเชื่อมโยงกระบวนการคิดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

-?? มีการใช้แนวข้อสอบที่หลากหลายในการติวนักศึกษา ที่สอดคล้องกับ Test Blue Print ของสภาการพยาบาล

-? จัดบรรยากาศในการติวรายกลุ่มย่อยที่เป็นกันเองเพื่อให้นักศึกษาได้เกิดการสะท้อนคิดมากขึ้น

-?? ครูผู้สอนหรือผู้นิเทศนักศึกษาควรมีความรู้ที่เฉพาะทางและสามารถประเมินนักศึกษาภายในกลุ่มเพื่อจำแนก หรือ ติดตามนักศึกษาเกี่ยวกับประเด็นด้านวิชาการ

๔.? การสังเคราะห์ความรู้? ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้? ทักษะจากผู้มีประสบการณ์ตรง? (tacit? knowledge)? จำนวน ๑๕? ความคิดเห็น? ได้แก่

-? ความเห็น by อ.บุญฤทธิ์ ? มีนาคม 12, 2012 at 7:00 amอาจารย์ต้อง ดูแลนักศึกษา ที่GPA น้อยเป็นพิเศษ เพราะจากการติดตามนักศึกษา ที่สอบไม่ผ่าน มักจะเป็นคนที่ GPA น้อยๆ และต้องกระตุ็นให้เด็ก เห็นความสำคัญทุก รายวิชา เพราะมีบางคนเลือกที่ขอผ่านเป็นบางวิชา วิชาในไม่แน่ใจ นํกศึกษา อาจไม่ทบทวนเรืองนั้น

-? ความเห็น by jojo ? มีนาคม 12, 2012 at 7:07 am เห็นด้วยกับอาจารย์บุญฤทธิ์ค่ะ และมีข้อเสนอแนะจากนักศึกษาว่าเมื่อสอบแล้วอยากให้อาจารย์อธิบายแนวคิดในข้อสอบเพื่อให้นักศึกษาได้มีความเข้าใจใน concept มากขึ้นด้วย

-? ความเห็น by khwankhao ? มีนาคม 12, 2012 at 7:35 am เห็นด้วยกับ P. Jojo ครับ การที่อธิบาย concept เป็นการทำให้ นักศึกษาเกิดกระบวนการคิดและวิเคราะห์ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และปรับมุมมองในเรื่องของกระบวนการคิดที่ทำให้นักศึกษาสนใจ ในการทบทวนเนื้อหามากขึ้น

-? ความเห็น by อ.ดุจเดือน ? มีนาคม 17, 2012 at 10:45 am เห็นด้วยกับ JOJO และ ขวัญข้าว และควรเพิ่มการให้นักศึกษาได้เขียน concept mapping ในสาระ/เนื้อหานั้นๆเพราะจะทำให้นักศึกษาได้เกิดการตกผลึกด้วยตนเอง ทั้งการวิเคราะห์และการคิดเชิงเหตุผล เชื่อมโยงความรู้ได้ เมื่อเจอสถานการณืหรือโจทย์อื่นๆ ก็สามารถหาคำตอบได้โดยใช้หลักการคิดเชื่อมโยง

-? ความเห็น by อ.สิตานันท์ ? มีนาคม 17, 2012 at 10:56 am ก่อนที่จะเริ่มการติว ควรมีการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจให้นักศึกษาเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองในการสอบขึ้นทะเบียน และจัดกิจกรรมต่างๆร่วมกันทั้งนักศึกษาและอาจารย์ และขอให้ทุกภาควิชามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมต่างๆ ก่อนที่จะมีการติว และหากเป็นไปได้ความจัดนอกสถานที่ค่ะ

-? ความเห็น by kookan ? มีนาคม 17, 2012 at 3:56 pm อยากให้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องการสอบให้กับนักศึกษาหลังเรียนทฤษฎีจบช่วง summer ปี 3 เพื่อให้นักศึกษาได้ประเมินตนเองว่ามีความรู้ระดับใด และในช่วงฝึกภาคปฏิบัติ ปี 4 จะได้วางแผนการทบทวนความรู้ในแต่ละวิชาได้ ซึ่งคะแนนสอบสามารถแยกได้ว่านักศึกษาไม่ผ่านวัตถุประสงค์ใด อาจารย์ผู้นิเทศก็จะได้วางแผนการติวให้กับนักศึกษากลุ่มที่ตนเองนิเทศได้

-? ความเห็น by สุปราณี หมื่นยา ? มีนาคม 18, 2012 at 2:14 pm เห็นด้วยกับการ Empowerment นักศึกษาก่อนการสอบขึ้นทะเบียน แต่การที่จะทำให้นักศึกษาเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองนั้น ควรกระทำตั้งแต่ ปี 2,3 และ 4 ซึ่งเชื่อว่าถ้านักศึกษามีความเชื่อมั่นในความสามารถตั้งแต่แรกๆ จะเป็นส่วนช่วยให้นักศึกษาตื่นตัวและเป็นการกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจในการสอบผ่านได้มากค่ะ

-? ความเห็น by อาจารย์สืบตระกูล ? มีนาคม 19, 2012 at 9:22 am การจัดทบทวนโดยอาจารย์ภายใน ช่วยได้มากในการติวกลุ่มเล็กได้แชร์ความรู้ร่วมกันได้คำตอบชัดเจนมากขึ้น แนะนำนักศึกษาได้ตรงประเด็นกับนักศึกษาแต่ละคนการจับคู่ Buddy แบ่งนักศึกษาเป็นกลุ่มเก่ง-อ่อน การติวซ้ำๆ ทำให้จำได้มากขึ้น อาจารย์สอนคนเดียว แนวคิดตรงกัน ทำให้มีเทคนิคการจำมากกว่าอาจารย์ภายนอก สามารถนัดนักศึกษานอกเวลาได้ เข้มงวด เอาใจใส่ เวลานักศึกษาไม่เข้าใจสามารถถามได้เลย

-? ความเห็น by อาจารย์ภราดร ? มีนาคม 19, 2012 at 9:24 am อาจารย์ควรเปิดประเด็นให้นักศึกษามีส่วนร่วม เชื่อมโยงเนื้อหาการสอน เจาะประเด็นและแม่นในเนื้อหา การทำข้อสอบเสมือน ช่วยให้นักศึกษาได้วิเคราะห์ รู้จุดอ่อนของตน ส่วนที่ต้องค้นคว้าเพิ่มเติม ทำให้มีกระบวนการคิดมากขึ้น ได้ประเด็นในการคิดมากขึ้น และรู้แนวในการถามและการตอบมากขึ้น เป็นการฝึกทำของนักศึกษา

-? ความเห็น by อาจารย์สืบตระกูล ? มีนาคม 19, 2012 at 9:26 am การจัดทบทวนโดยอาจารย์ภายใน ช่วยได้มากในการติวกลุ่มเล็กได้แชร์ความรู้ร่วมกันได้คำตอบชัดเจนมากขึ้น แนะนำนักศึกษาได้ตรงประเด็นกับนักศึกษาแต่ละคนการจับคู่ Buddy แบ่งนักศึกษาเป็นกลุ่มเก่ง-อ่อน การติวซ้ำๆ ทำให้จำได้มากขึ้น อาจารย์สอนคนเดียว แนวคิดตรงกัน ทำให้มีเทคนิคการจำมากกว่าอาจารย์ภายนอก สามารถนัดนักศึกษานอกเวลาได้ เข้มงวด เอาใจใส่ เวลานักศึกษาไม่เข้าใจสามารถถามได้เลย

-? ความเห็น by อ.อัญชรี ? มีนาคม 19, 2012 at 1:40 pm การเชิญบุคคลภายนอกร่วมสอนแช่นผู้เชี่ยวชาญในงานการให้คำปรึกษา คนไข้ ญาติ น่าจะลองจัดให้นักศึกษาได้รับประการณ์ตรงอย่างนี้บ้าง บางหัวข้อก็น่าจะดี

-? ความเห็น by prapaporn manorath ? มีนาคม 19, 2012 at 3:43 pm การจัดประสบการณ์ให้นักศึกษาได้คิดวิเคราะห์ ตีความ สรุปลงสู่แนวคิดและหลักการในแต่ละประเด็นของการเรียนรู้ทั้งประเด็นหลักของรายวิชาและประเด็นย่อยในแต่ละหัวข้อย่อยเป็นวิธีการที่ผู้สอนควรได้ตระหนักและออกแบบการจัดการเรียนรู้ของตนให้เกิดผลดังกล่าว

-? ความเห็น by อ.กันตวิชญ์ ? มีนาคม 19, 2012 at 3:59 pm ในฐานะของอาจารย์น้องใหม่ ที่เพิ่งผ่านประสบการณ์ในเรื่องของการสอบใบประกอบวิชาชีพ และผ่านการจัดการเรียนการสอนมานะครับ มีความคิดเห็นว่าการทบทวนต้องสรุปเป็น Concept ที่สำคัญๆ และทำควบคู่กับตัวอย่างข้อสอบ เป็นหัวข้อในแต่ล่ะเนื้อหาคับ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักศึกษาก็สำคัญมากๆคับ เพราะการให้กำลังใจกับนักศึกษาจะทำให้มีกำลังใจขึ้นมากๆคับ เช่น นักศึกษาทำข้อสอบได้คะแนนมาก ก็น่าจะชมว่านักศึกษาเก่งบ้างก็ได้ แทนที่จะบอกว่า ข้อสอบง่ายอย่างเดียวคับ เล่าจากประสบการณ์ตนเองและเพื่อนๆในห้องรุ่น 25 เป็นเสียงสะท้อนมาครับ

-? ความเห็น by อ.อิทธิพล ? มีนาคม 19, 2012 at 10:38 pm การสร้าง Empowerment ให้กับนักศึกษาเป็นแนวทางที่ดีครับ เห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะจะทำให้ตัวนักศึกษามีความตั้งใจใร้ และมีเป้าหมายในการสอบให้ผ่าน ต่อไป

-? ความเห็น by bum ? มีนาคม 20, 2012 at 10:03 am การติวภายในถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ และหากมีวิทยากรด้านนอกมาร่วมด้วยยิ่งทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์มากยิ่งขึ้นคะ อาจารย์ควรเสริมความมั่นใจให้นักศึกษาเพิ่มมากขึ้น และควรมีการทำ KM.ของแต่ละภาควิชามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันทั้งวิทยาลัยคะ น่าจะทำให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้นคะ

๕.? การสรุปประเด็นสาระที่ได้เพื่อนำมาเป็นแนวปฏิบัติที่ดี? (ที่ได้จากการสังเคราะห์จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจากผู้มีประสบการณ์ตรง)? ได้แก่? การบูรณาการสถานการณ์จริง เชื่อมโยงสู่การทำข้อสอบขึ้นทะเบียน โดยแนวปฏิบัติเป็น? ๒? ส่วนคือ? การจัดการเรียนการสอน? การสร้างแรงจูงใจและการเตรียมความพร้อมในการสอบขึ้นทะเบียน? โดยมีแนวทางดังนี้

๑. ?การจัดการเรียนการสอนที่มีการบูรณาการสภาพจริงสู่การเชื่อมโยงต่อทฤษฎีที่ใช้ในการสอนขึ้นทะเบียน

-? ?การจัดประสบการณ์ให้นักศึกษาสามารถเห็นสภาพจริงและเกิดการเชื่อมโยงที่ชัดเจนขึ้นกว่าการเรียนทฤษฎี ที่นักศึกษามองว่าเป็นนามธรรม? ได้คิดวิเคราะห์ ตีความ สรุปลงสู่แนวคิดและหลักการในแต่ละประเด็นของการเรียนรู้ทั้งประเด็นหลักของรายวิชาและประเด็นย่อยของรายวิชา

-?? ?มีการแยกนักศึกษาในรายที่มีปัญหาในการสอบวัดความรู้ในรอบต่างๆเพื่อดำเนินการสอนหรือสอบซ่อมเสริมเพื่อให้นักศึกษาได้เข้าใจในประเด็นที่ตนเองไม่เข้าใจให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

- ?ครูผู้สอนหรือผู้นิเทศนักศึกษาควรมีความรู้ที่เฉพาะทางและสามารถประเมินนักศึกษาภายในกลุ่มเพื่อจำแนก หรือ ติดตามนักศึกษาเกี่ยวกับประเด็นด้านวิชาการได้

-? การบูรณาการสภาพจริงขณะฝึกปฏิบัติสู่การวิเคราะห์สถานการณ์ที่มีความสอดคล้องทฤษฎีในห้องเรียนเพื่อให้นักศึกษาได้มองเห็นภาพชัดยิ่งขึ้น

-? การติวนักศึกษาขณะฝึกภาคปฏิบัติโดยเชื่อโยงสถานการณ์ตามจริงสู่การวิเคราะห์ข้อสอบ

๒.? การสร้างแรงจูงใจ หรือการสร้างเสริมพลังอำนาจให้นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการสอบขึ้นทะเบียน? เป็นระยะ ๆ? โดยให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการหาแนวทางร่วมกัน ซึ่งความต้องการของนักศึกษา ควรจะมีการตกลงวางแผนร่วมกัน โดยมีตัวแทนของนักศึกษาร่วมประชุมด้วย ว่าเขาต้องการติวแบบไหน ต้องการสิ่งสนับสนุนอะไรจากวิทยาลัย เพราะต้นทุนของนักศึกษาแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ การเรียนรู้ที่เกิดจากความเต็มใจ

๓.? การจัดการติวเพื่อเตรียมความพร้อมในการสอบสภา

- ?จัดให้มีการติวนักศึกษาโดยใช้แนวข้อสอบที่หลากหลายและส่งเสริมให้มีการวิเคราะห์ข้อสอบร่วมกัน

-? สร้างบรรยากาศในการติวรายกลุ่มย่อยที่เป็นกันเองเพื่อให้นักศึกษาได้เกิดการสะท้อนคิดมากขึ้น

-? การใช้ข้อสอบที่หลากหลายในการติวนักศึกษา? และสรุป เขียน concept mapping ในสาระ/เนื้อหานั้นๆเพราะจะทำให้นักศึกษาได้เกิดการตกผลึกด้วยตนเอง ทั้งการวิเคราะห์และการคิดเชิงเหตุผล เชื่อมโยงความรู้ได้

-? การเชิญอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญจากต่างสถาบันมาติวนักศึกษา

-? มีการวิเคราะห์ข้อสอบโดยเทียบเคียงกับ แนวข้อสอบของสภาการพยาบาล

๖.? การดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่ดำเนินการคือ

-? การวางแผนการจัดการเรียนการสอน???? ? ตามแนวทางที่กำหนดไว้ใน? มคอ.? ๓? และ? ๔? และดำเนินการเรียนการสอนโดยเน้นการจัดสถานการณ์จริง? และคำนึงถึงความแตกต่างของนักศึกษาแต่ละคน

-? จัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติโดยเน้นการนิเทศโดยอาจารย์ที่มีความเชียวชาญในสาขาที่สอน? (ระบุไว้ในคู่มือการฝึกภาคปฏิบัติ)

-? ร่วมเสนอความคิดเห็นวางแผนการการจัดทำโครงการเตรียมความพร้อมก่อนสอบขึ้นทะเบียนร่วมกับกลุ่มงานวิชาการโดยบรรจุไว้ในการแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ? ๒๕๕๖

ปิดประชุมเวลา ๑๖.๓๐ น.

ลงชื่อ? …………………………………………….

(นายอิทธิพล? แก้วฟอง)

ผู้บันทึกรายงานการประชุม

ลงชื่อ? …………………………………………….

(นางสาววิไลวรรณ? บุญเรือง)

ผู้ตรวจรายงานการประชุม

06/09/2012

การสอนทบทวน วิชา กฎหมายและจรรยาบรรณวิชาชีพการพยาบาล

Categories: การจัดการความรู้ วพบ.อต.
Author: dao
Time: 1:08 pm
Reactions :11 comments

บันทึกรายงานการประชุม๒.๕๔BCPN K.M

แนวปฏิบัติที่ดีในการเตรียมนักศึกษาเพื่อเป็นพยาบาลวิชาชีพ

Categories: การจัดการความรู้ วพบ.อต.
Author: sasidhornunc
Time: 8:10 am
Reactions :17 comments

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์

แนวปฏิบัติที่ดีในการเตรียมนักศึกษาเพื่อเป็นพยาบาลวิชาชีพ

จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการค้นหาความรู้เพิ่มเติมในด้านการเตรียมนักศึกษาเพื่อเป็นพยาบาลที่ดี งานจัดการความรู้ได้สรุปออกมาเป็นแนวปฏิบัติดังนี้

ขั้นตอนการดำเนินงาน

๑.ปฐมนิเทศให้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ ทราบเส้นทางการเรียนการสอนและการก้าวเข้าสู่วิชาชีพพยาบาลตั้งแต่เริ่มต้นเรียน จนสอบประมวลความรู้ความสามารถทางการพยาบาล และการสอบขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

๒.การจัดการเรียนการสอนภาคทฤษฎีใช้การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการกระตุ้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ สรุปเป็นความรู้ของตนเอง เช่น การทำแผนผังความคิด และการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติควรให้นักศึกษาสามารถเชื่อมโยงจากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ (ใช้สรุปแนวทางการปฏิบัติที่ดี (Best Practiceการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติในคลินิก สำหรับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต)

๓. ในระหว่างที่ฝึกปฏิบัติ อาจารย์ที่นิเทศภาคปฏิบัติควรสามารถชี้ประเด็นที่สำคัญๆของการฝึกปฏิบัติที่เชื่อมโยงกับทฤษฎี และมีการเน้นย้ำให้นักศึกษามีกระบวนการจัดเก็บความรู้อย่างเป็นระบบ เช่น ทำแผนผังความคิดแต่ละโรค หรือการบันทึกย่อสิ่งที่สำคัญ สำหรับการฝึกในชั้นปี ๔ ควรมีการจัดให้มีการ Conference โดยเน้นการดูตาม Test Blue Print ของสภาการพยาบาลเพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ครบถ้วน

๔. สร้างขวัญและกำลังใจให้นักศึกษามีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพในแต่ละชั้นปี และบอกถึงเส้นทางความก้าวหน้าของการประกอบวิชาชีพพยาบาลโดยให้รุ่นพี่หรือศิษย์เก่ามีส่วนร่วม

๕.กระตุ้นให้นักศึกษามีความตั้งใจเรียนตั้งแต่ต้น คือ ชั้นปีที่ ๑ เพราะทุกรายวิชาสามารถนำมาเป็นพื้นฐานสำหรับวิชาในชั้นปีสูงๆ และให้แจกTest Blue Print ของสภาการพยาบาลให้กับนักศึกษา

๖. ในตอนปลายของชั้นปีที่ ๓ ควรมีการจัดสอบเพื่อประเมินความรู้ความสามารถทางการพยาบาลของนักศึกษา เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดกลุ่มนักศึกษาเพื่อเตรียมตัวในชั้นปีที่ ๔ การแบ่งกลุ่มเพื่อเตรียมทบทวนความรู้ควรแบ่งตามความรู้ที่มีอยู่ ทั้งนี้ฝ่ายวิชาการควรมีการอธิบายให้กับนักศึกษาทราบวัตถุประสงค์ของการแบ่งกลุ่ม ในขั้นนี้การตรวจข้อสอบแบ่งตามหัวข้อเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนักศึกษาและอาจารย์ทราบว่าเด็กแต่ละคนมีจุดบกพร่องด้านใด

๗. ในชั้นปีที่ ๔ การทบทวนความรู้ควรเริ่มจากให้นักศึกษามีการทบทวน Concept สำคัญก่อน โดยนักศึกษาสามารถทบทวนได้โดยการชี้ประเด็นโดยผู้สอนผ่านการประชุมปรึกษาทางการพยาบาล

๘. ในชั้นปีที่ ๔ นักศึกษาจะมีความเครียดมากขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะช่วงที่ใกล้สอบ วิทยาลัยควรจัดกิจกรรมในการเสริมสร้างพลังใจให้กับนักศึกษาเป็นระยะพร้อมกับให้นักศึกฯวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของตนเองรวมทั้งหาแนวทางในการกำจัดจุดอ่อน เช่น การจัดให้ออกนอกสถานที่ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างพลังใจ

๙. ในช่วงสุดท้ายการทบทวนความรู้ที่จัดให้ควรมีการแนะแนวเกี่ยวกับเทคนิควิธีการทำข้อสอบแต่ละรายวิชา เนื่องจากพบว่าศิษย์เก่าบอกว่าปัญหาที่สำคัญคือไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับการทำข้อสอบแต่ละรายวิชาอย่างไร

๑๐.ในการทบทวนความรู้ควรให้นักศึกษามีส่วนร่วมโดยสอบถามความคิดเห็นถึงความต้องการการช่วยเหลือต่างๆ

๑๑. ผู้บริหารทุกระดับโดยเฉพาะระดับสูงของวิทยาลัยควรมีบทบาทในการสร้างขวัญและกำลังใจแก่นักศึกษา

๑๒. ใช้มาตรการหรือแนวทางการช่วยเหลือนักศึกษาที่มีปัญหาเรื่องการเรียนอย่างเคร่งครัด หากนักศึกษามีผลการเรียนในรายวิชาไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ควรดำเนินการตามมาตรการเพื่อเสริมสร้างความรู้ของนักศึกษาอย่างเคร่งครัด จนกว่าผลที่ออกมาจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด

ซึ่งการจัดทำแนวปฏิบัติดังกล่าวต้องการการยืนยันถึงประสิทธิภาพของการนำแนวปฏิบัติไปใช้และต้องการเพิ่มเติมรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนหากภาควิชาใดนำไปปฏิบัติแล้วและมีข้อเสนอแนะ ช่วยเสนอให้ทราบ เพื่อเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์

ศศิธร ชิดนายี

หัวหน้างานวิจัย การจัดการความรู้และวิเทศสัมพันธ์

แนวทางการการทำวิจัยด้านการส่งเสริมสุขภาพทุกช่วงวัย

Categories: การจัดการความรู้ วพบ.อต.
Author: sasidhornunc
Time: 7:56 am
Reactions :14 comments

แนวทางการการทำวิจัยด้านการส่งเสริมสุขภาพทุกช่วงวัย

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์

จากการดำเนินการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการทำวิจัยด้านการส่งเสริมสุขภาพสามารถสรุปออกมาเป็นแนวปฏิบัติของวิทยาลัยได้ดังนี้

๑.ควรดำเนินการวิจัยให้ครบทุกกลุ่มได้แก่

๑) ในสถานพยาบาล? หมายถึง? โรงพยาบาล

และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล

๒) กลุ่มเป้าหมาย? คือ ผู้ป่วย? ญาติ? และ? care giver

๓) การสร้างเสริมสุขภาพควรคำนึงถึง? บริบทต่าง ๆ

๒.?? บูรณาการกับการเรียนการสอน? การพัฒนาบุคลากร? เช่น? การตรวจสุขภาพ

๓. การสร้างเสริมสุขภาพสามารถให้ทั้งความรู้? การปรับทศนคติ?? และการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ

๔. รายวิชาวิจัยควรให้นักศึกษาทำวิจัยเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ

จากการสรุปเป็นแนวทางเพื่อปฏิบัตินี้หากอาจารย์แต่ละสาขาวิชานำไปปฏิบัติแล้วค้นพบสิ่งที่เห็นว่าควรปรับปรุงหรือพัฒนาแนวทาง ขอให้แสดงความคิดเห็นร่วมด้วย หากมีเอกสารอ้างอิงด้วยจะทำให้สามารถพัฒนาเป็นแนวปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ศศิธร ชิดนายี

หัวหน้างานวิจัย การจัดการความรู้และวิเทศสัมพันธ์

หน้าก่อนหน้าหน้าต่อไป
Proudly powered by Wordpress 3.0.1 - Theme Triplets Id Band 2.0, the boyish style by neuro