• Accessibility

    • normal big bigger

Last posts

Last Comments

Most active posts

ค้นหา

หมวดหมู่

11/09/2013

การส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนกับการนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน

การจัดการความรู้ เรื่อง การบูรณาการด้านการส่งเสริมสุขภาพมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน

การส่งเสริมและดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลเด็กวัยเรียน

????????? การดูสุขวิทยาเด็กและการจัดบริการทางสุขภาพให้แก่เด็กในวัยเรียน โดยมากจะเน้นการส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการในทุกๆด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจอารมณ์ สังคม สติปัญญา ศีลธรรมและจิตวิญญาณ ดังนั้น การให้บริการดูแลสุขภาพเด็กในช่วงอายุต่างๆจึงควรพิจารณาถึงการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กเป็นสำคัญ แนวทางให้บริการดูแลสุขภาพเด็ก โรเบอร์ตา (Roberta K. O? Shea, 2009 : 39-44) กล่าวถึงการให้บริการดูแลสุขภาพเด็กจำเป็นต้องมีบุคลากรหลายสาขาวิชาชีพและมีแนวทางให้บริการสุขภาพแก่เด็ก ซึ่งในยุคแรกๆมีรูปแบบการให้บริการภายในหน่วยงานทางด้านสาธารณสุขในประเทศทางตะวันตกได้บุกเบิกและทดลองให้บริการวิชาการในรูปแบบต่างๆกันไปตามบริบทและการจัดการ อาทิ ทีมแพทย์ จะมีแพทย์เป็นผู้ดำเนินการโดยรูปแบบการให้บริการวิชาการจะอิงตามแนวทางการรักษาพยาบาลผู้ป่วย เรียกว่ารูปแบบการให้บริการทางการแพทย์ (Medical Model) มีกิจกรรมการให้บริการที่จัดทำเป็นระบบมีคู่มือปฏิบัติงาน (The Guide to Physical Therapy Practice) ทีมสุขภาพประกอบด้วยทีมแพทย์ เภสัชกร นักโภชนาการ พยาบาล นักอาชีวะบำบัดและผู้ให้บริการเป็นนักปฏิบัติการวิชาชีพแต่ละสาขามาร่วมกันให้กิจกรรมบริการ ต่อมามีการจัดกิจกรรมและมีรูปแบบเชิงรุกมายิ่งขึ้น ขยายงานออกไปสู่การจัดกิจกรรมบริการสุขภาพเด็กไปตามโรงเรียน เรียกว่า โครงการสุขภาพในโรงเรียน (School Model) เพื่อให้การบริการเข้าถึงเด็กวัยเรียน มีนักวิชาชีพทำงานร่วมกับครูในโรงเรียน จากนั้นเริ่มให้บริการเชิงรุกเข้าไปสู่ชุมชน ครัวเรือนและศูนย์เลี้ยงเด็กในชุมชน เพื่อให้บริการแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและมีประสิทธิภาพสูงสุด

แนวทางให้บริการดูแลสุขภาพเด็กจะขอแบ่ง ดังนี้

๑.?ระยะก่อนเกิด (Prenatal Visit)

๒.?ระยะแรกเกิด (ในโรงพยาบาล)

๓.?วัยทารกระยะต้น (๒ สัปดาห์ ถึง ๖ เดือน)

๔.?วัยทารกระยะท้าย (๖ เดือน ถึง ๒๔ เดือน)

๕.?วัยก่อนเข้าเรียน วัยเดกระยะต้น (อายุ ๒-๕ ปี)

๖.?วัยเรียนหรือวัยเด็กระยะสุดท้าย (อายุ ๕-๑๒ ปี)

การดูแลสุขวิทยานั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สุขวิทยาส่วนบุคคล (Personal Hygiene) บุคคลนั้นจะขาดความสมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ขาดความกระตือรือร้นหรือละเลยที่จะดูแลตนเองให้มีสุขวิทยาส่วนบุคคลที่ดีจึงเป็นเหตุเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น การส่งเสริมความสุขสบายให้กับบุคคลในเรื่องสุขวิทยาส่วนบุคคลเพื่อให้บุคคลที่มีภาวะเจ็บป่วยได้รับความสุขสบาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้หายเจ็บป่วยเร็วขึ้น

สุขวิทยาส่วนบุคคล หมายถึง การที่บุคคลมีร่างกายที่สะอาดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่งกายเรียบร้อย ซึ่งโดยทั่วไปในภาวะปกติแต่ละบุคคลจะสามารถดูแลรักษาความสะอาดร่างกายได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าไม่สามารถปฏิบัติได้เอง เช่น อยู่ในภาวะเจ็บป่วย มีอายุมากขึ้น อาจต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือจากบุคคลเพื่อช่วยทำให้สุขวิทยาส่วนบุคคลของบุคคลนั้นๆอยู่ในสภาวะที่ดี ได้แก่ การดูแลความสะอาดของร่างกาย เช่น ผม ความสะอาดในช่องปาก ฟัน ผิวหนังทั่วร่างกาย อวัยวะสืบพันธุ์ เล็บมือ และเท้าให้สะอาดปราศจากสิ่งที่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกาย

การส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะเด็กวัยเรียนเป็นวัยที่เริ่มต้นเรียนรูปจริงจัง มีพัฒนาความคิดเชิงวิเคราะห์และเปรียบเทียบได้โดยมีหลักการและเหตุผล พัฒนาการของเด็กวัยเรียนจะมีลักษณะอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง อยากเก่ง อยากให้ความร่วมมือ ต้องการทราบเหตุผลในเรื่องต่างๆว่าเกิดขึ้นอย่างไร นักวิชาการด้านการศึกษามีความเชื่อว่า วัยนี้เป็นวัยที่อยู่ในช่วงวิกฤตช่วงหนึ่งในการเรียนรู้เพราะเด็กจะเริ่มมีพัฒนาการความต้องการใฝ่สัมฤทธิ์ สร้างความสามารถในการเป็นผู้ประสบความสำเร็จมากกว่าการล้มเหลว (กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข,2553)

ภาควิชาพื้นฐานการพยาบาลและพัฒนาวิชาชีพได้ทำการศึกษาการส่งเสริมและการดูแลสุขภาพเด็กวัยเรียนโดยให้การบริการการส่งเสริมการดูแลสุขภาพเด็กวัยเรียนหรือวัยเด็กระยะสุดท้าย (อายุ ๕-๑๒ ปี) โดยร่วมกับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ ๒ ในการร่วมกันให้บริการวิชาการทั้ง ๓ หัวข้อ คือ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โรคติดต่อทั่วไปที่ควรรู้และสุขวิทยาส่วนบุคคลซึ่งทุกหัวข้อมีความสำคัญ ในกระบวนการจัดกิจกรรมอาจารย์ได้ดำเนินการสำรวจความต้องการของครูประจำโรงเรียนเพื่อสอบถามความต้องการที่ตรงตามเป้า หมายในการให้บริการวิชาการแก่สังคม จากนั้นนำมาวางแผนการจัดกิจกรรมเพื่อให้ได้ตรงกับประเด็นที่ต้องการและนำไปบริการวิชาการ หัวข้อในการจัดกิจกรรมมีความสำคัญต่อครู ผู้ดูแลนักเรียนและตัวนักเรียนเป็นอย่างมากซึ่งจะสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ ๒ ได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ได้จากประสบการณ์จริง จากนั้นนำความรู้มาประยุกต์ใช้ร่วมกับทฤษฎีที่จัดการเรียนการสอนไปแล้วและเพื่อการเชื่อมโยงในอนาคตต่อไป มีความคาดหวังว่าการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ประสบการณ์จริงจะทำให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่อเด็กวัยเรียนและนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ ๒ได้มากที่สุด

ผลกระทบเมื้อสิ้นสุดการดำเนินงาน

๑.??กลุ่มเป้าหมาย (เด็กวัยเรียนและครู)

-?พึงพอใจในการจัดกิจกรรมบริการวิชาการเกี่ยวกับการดูแลและส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนโดยกิจกรรมมีการดำเนินการแบบต่อเนื่องเป็นเวลา ๓ ปี

-?นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลของตนเองมากยิ่งขึ้น

-?ครูมีความเข้าใจในการส่งเสริมสุขภาพและการดูแลสุขวิทยาที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเรียน

-?รู้สึกมีคุณค่าในตนเองที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและการส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนให้ดีขึ้น

-?ครูได้รับแนวทางความรู้ในการส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียน

-?การจัดกิจกรรมของวิทยาลัยฯส่งผลให้โรงเรียนเทศบาลหัวดงได้รับรางวัลเด็กสุขภาพฟันดีระดับอำเภอจากการประกวดสุขภาพดี สร้างความภาคภูมิใจให้กับบุคลากรภายในโรงเรียน

๒.?กลุ่มนักศึกษาพยาบาลศาสตร์

-?พึงพอใจในกิจกรรมบริการวิชาการและเกิดทักษะในกระบวนการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลในการส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียน

-?มีความมั่นใจในการดูแลและส่งเสริมสุขวิทยาส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นมากยิ่งขึ้น จากการได้รับประสบการณ์จริง

-??มีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานในการให้บริการแก่ชุมชนและสามารถร่วมงานกับเครือข่ายภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

-?ได้รับประสบการณ์จริงในการให้บริการวิชาการทำให้นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ ๒ มีการพัฒนาทางด้านความคิด การทำงานเป็นทีมและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้

๓.???? กลุ่มอาจารย์

-????????? พึงพอใจในการจัดกิจกรรมบริการวิชาการที่ได้จัดและเกิดทักษะในกระบวนการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลในการส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนที่เกิดจากการเรียนรู้กับนักศึกษา

-?มีเครือข่ายในการดูแลและส่งเสริมสุขวิทยาส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น

-?เกิดการพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญการทำงานจากประสบการณ์ที่ได้รับจริงของการบริการวิชาการร่วมกับภาคีเครือข่ายมากยิ่งขึ้น

-?ได้ประเด็นความรู้ในการบริการวิชาการการส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนมาพัฒนาการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนให้กับนักศึกษาและยังเป็นแนวทางการพัฒนาการจัดการบริการวิชาการในครั้งต่อไป

แนวทางการปฏิบัติที่ดี

๑.?การให้บริการวิชาการสามารถทำได้กับบุคคลทุกช่วงวัย ทุกเวลาและทุกสถานที่

๒.?การส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนควรมีการจัดกิจกรรมที่ดึงความสนใจเด็กวัยนี้เนื่องจากเด็กวัยนี้มีความสนใจใฝ่รู้มาก

๓.?ควรนำผลการจัดกิจกรรมไปเผยแพร่ที่อื่นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ปฏิบัติเช่นกัน

๔.?นำประสบการณ์ที่ได้รับไปเผยแพร่เพื่อให้ผู้อื่นรับทราบและปฏิบัติตามจนเกิดเป็นความเคยชิน

๕.?ปฏิบัติทุกครั้งตามความเหมาะสมเพื่อให้มีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่อไป

๖.?การนำไปใช้กับการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาลและรายวิชาอื่นๆที่ในภาคสอนและรับผิดชอบ จะทำให้นักศึกษาได้รับฟังความรู้ที่ได้จากการจัดประสบการณ์จริงของอาจารย์ทำให้ภาพของการเรียนมีชีวิตคือสามารถทำให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจารย์ควรนำแนวคิดดังกล่าวมาพัฒนาในการสอนให้มีคุณภาพต่อไป

วิภาวรรณ นวลทองและคณาจารย์ภาควิชาพื้นฐานการพยาบาล? (๒ กันยายน ๒๕๕๖)

02/03/2012

โทรทัศน์มีผลกระทบต่อพัฒนาการลูกจริงหรือ

Categories: สุขภาพกับวัยเด็ก
Author: admin
Time: 3:41 am
Reactions :1 comment

โทรทัศน์มีผลกระทบต่อพัฒนาการลูกจริงหรือ

ผู้เขียน? นางสุธีรา? งามวาสีนนท์

สื่อโทรทัศน์ที่เผยแพร่อยู่ทุกวันนี้ มีความหลากหลายของรูปแบบการนำเสนอ มีความสนุกสนาน เพลิดเพลิน เหมือนมีเพื่อนอยู่ใกล้ๆ? คลายเหงาได้? สำหรับผู้ปกครองบางคน ใช้โทรทัศน์เป็นเพื่อนให้กับลูกของท่าน ผู้เขียนเคยได้ยินจากคุณแม่ท่านหนึ่งบอกว่าต้องดูแลลูกคนเดียว กิจกรรมในบ้านก็ต้องทำทั้งหมด ลูกก็ตื่นบ่อย? ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ให้โทรทัศน์เป็นเพื่อนลูกก็ดีนะคะ เพราะลูกสงบได้ แต่ในอนาตตไม่รู้ว่าจะมีผลต่อลูกหรือเปล่า

สื่อโทรทัศน์มีผลกระทบต่อเด็กในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านพฤติกรรม ทัศนคติ และความเชื่อ ?ผู้ปกครองจึงจำเป็นต้องมีความรู้ และเข้าใจถึงผลกระทบของโทรทัศน์ที่จะมีต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการและพฤติกรรมของเด็ก
ผลกระทบต่ออารมณ์และพฤติกรรม

เด็กที่ดูโทรทัศน์ตั้งแต่เล็ก ๆ จะเรียนรู้ สังเกต จดจำ และซึมซับความรุนแรง และใช้ความก้าวร้าวรุนแรงต่อคนอื่นในการแก้ปัญหา แทนที่จะใช้การควบคุมตนเองหรือใช้วิธีการอื่น ???? การรับรู้ความรุนแรงผ่านทางสื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานานๆ จะทำให้เด็กชาชินไปกับความรุนแรง และขาดความเอื้ออาทรต่อบุคคลอื่นในชีวิตจริง

ผลกระทบต่อพฤติกรรมทางเพศ

เด็กๆ ได้เห็นพฤติกรรมทางเพศของผู้ใหญ่ผ่านสื่อโทรทัศน์ ซึ่งแสดงออกถึงความสนุกสนาน ตื่นเต้น และถือเป็นเรื่องปกติโดยไม่ได้สอดแทรกถึงผลเสียที่จะตามมาจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัย ซึ่งเด็กอาจเข้าใจผิด อยากลอง อยากรู้ หรืออยากทำตามเพื่อให้ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ใหญ่

ผลต่อพัฒนาการด้านการมองและการฟัง

ขณะดูโทรทัศน์ ลูกตาจะมีการเคลื่อนไหวน้อยมาก ซึ่งการกลอกตาและให้ลูกตาได้มีการเคลื่อนไหวมองสำรวจ สังเกตสิ่งต่างๆ จำเป็นสำหรับการมองเห็น? ส่วนในเรื่องของทักษะการฟังนั้น การเปิดโทรทัศน์ตลอดเวลาจะรบกวนสมาธิในการฟังของเด็ก? และอาจมีปัญหาเรื่องสมาธิสั้น
ผลทางโภชนาการ
เด็กที่ดูโทรทัศน์มากมักจะอ้วน เพราะเวลาส่วนใหญ่ถูกใช้ไปในการดูโทรทัศน์ จึงไม่มีเวลาเหลือในการออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหว และขณะดูโทรทัศน์เด็กมักกินเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอาหาร เครื่องดื่มหรือขนมขบเคี้ยวที่มีแคลลอรี่สูงที่โฆษณาในโทรทัศน์

ผลกระทบต่อการเสพสื่อต่างๆทำให้เกิดผลกระทบต่อเด็กทั้งแง่บวกและแง่ลบ? ดั้งนั้นผู้ปกครองควรมีความรู้เกี่ยวกับสื่อ? เพื่อให้เข้าใจและรู้ทันสื่อ สามารถเลือกใช้โทรทัศน์ให้เกิดประโยชน์แก่เด็กและหลีกเลี่ยงผลเสียที่จะตามมา? ผู้ปกครองต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการดูโทรทัศน์ สนับสนุนให้เด็กได้ทำกิจกรรมอื่น

เลือกรายการที่มีสาระ สร้างกฎ กติกาในการดูโทรทัศน์กับลูก
ถ้าผู้ปกครองมีความเข้าใจ? ให้เวลากับเด็ก ให้ความสนใจในการใฝ่รู้ของเด็กแล้วก็สามารถเป็นเกาะ

ป้องกันอันตรายที่จะเข้ามาสู่เด็กได้

-? www. Dekdee.com.

มุมความรู้สำหรับวัยใส เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพด้านอนามัยเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นหญิง

Categories: สุขภาพกับวัยเด็ก
Author: admin
Time: 3:28 am
Reactions :4 comments

มุมความรู้สำหรับวัยใส

เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพด้านอนามัยเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นหญิง

ตอนที่ 1 หนูเป็นสาวแล้วหรือยังคะ?

ดร.วรรณวดี เนียมสกุล*

ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเด็กผู้หญิงโตเป็นสาวเร็วขึ้น บางคนอายุเพียง เก้าขวบ ก็เป็นประจำเดือนแล้ว ซึ่งหมายความว่าเริ่มมีไข่ตก และพร้อมที่จะมีบุตรได้ถ้ามีเพศสัมพันธ์? เด็กผู้หญิงหลายๆ คนมีความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างรวดเร็ว ไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นสาวแล้วหรือยัง และจะดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อมีประจำเดือนครั้งแรก

การที่เต้านมเริ่มขยายและเป็นไต พร้อมกับบ่นเจ็บๆ ที่เต้านม ของเด็กหญิง การเริ่มมีขนที่อวัยวะเพศ หรือการมีไข่ตกและเป็นประจำเดือน เป็นอาการที่จะสื่อให้ผู้ปกครองหรือตัวเด็กหญิงเองได้ตระหนักว่าลูกหลานเป็นสาวแล้ว การมีประจำเดือนครั้งแรกนอกจากจะทำให้เด็กรู้สึกตกใจและกลัวแล้ว การขาดความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองที่เหมาะสมอาจทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตได้

ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเป็นเด็กหญิงจึงควรเตรียมความพร้อมให้เด็กได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงและการดูแลตนเอง ดังนี้? อธิบายให้เด็กเข้าใจว่าการเป็นสาวเป็นอย่างไร? อาทิ การมีประจำเดือนครั้งแรกไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว เพราะนั่นเป็นธรรมชาติของผู้หญิงทุกคนที่แสดงถึงการมีไข่ตก และมดลูกจะเริ่มสร้างเยื่อบุให้หนาขึ้นเพื่อรองรับการฝังตัวของไข่และอสุจิที่มีการปฏิสนธิและตั้งครรภ์ขึ้น แต่ เมื่อไข่สุกและไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ เยื่อบุนั้นก็จะสลายกลายเป็นเลือดหรือประจำเดือนออกจากช่องคลอดนั่นเอง

การสอนให้เด็กๆ ได้ดูแลตนเองขณะมีประจำเดือนเป็นสิ่งสำคัญ ได้แก่

  1. การเลือกซื้อผ้าอนามัย ซึ่งปัจจุบันมีหลายแบบ ทั้งแบบเป็นแผ่น แบบห่วง หรือแบบสอด ที่นิยมได้แก่ แบบแผ่น ซึ่งมีหลายลักษณะ เช่น ชนิดมีปีก ไม่มีปีก ชนิดนุ่ม สำหรับวันมามากถึงวันมาน้อย ชนิดสำหรับใส่เวลากลางคืนเพื่อไม่ให้มีการเปื้อนเปรอะของเลือดบนที่นอนขณะนอนหลับ? ผ้าอนามัยชนิดสอดในช่องคลอดก็มีจำหน่ายแต่ไม่เหมาะสำหรับเด็กที่เริ่มเป็นประจำเดือน เพราะต้องระมัดระวังในเรื่องความสะอาดในการสวมใส่ ซึ่งถ้าดูแลความสะอาดไม่ดีพอก็อาจเกิดการติดเชื้อได้
  2. การใส่ผ้าอนามัย ควรล้างมือให้สะอาดก่อนสวมใส่? โดยจับด้านที่สัมผัสกับการเกงชั้นใน หลีกเลี่ยงที่จะจับด้านที่สัมผัสกับช่องคลอด และหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ เมื่อรู้สึกชุ่ม ล้างช่องคลอดให้สะอาด และซักกางเกงชั้นใน ผึ่งแดดให้แห้งเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
  3. ควรห่อผ้าอนามัยที่ใช้แล้วอย่างมิดชิดและทิ้งลงในถังขยะ ล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังจับผ้าอนามัย

การสอนสุขนิสัยรักความสะอาดแก่วัยรุ่นหญิงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง

การเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเป็นสาว จะทำให้วัยรุ่นมีสามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ?ปรับตัว ตลอดจนดูแลตนเองได้เป็นอย่างดี

อ้างอิง

วรรณวดี เนียมสกุล. (2551). การตั้งครรภ์ที่ไม่ได้ตั้งใจของวัยรุ่นหญิงไทย: การสร้างทฤษฎีรากฐาน. วิทยานิพนธ์ ระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก

* พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการพิเศษ ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์

มุมความรู้สำหรับวัยใส

เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพด้านอนามัยเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นหญิง

ตอนที่ 2 หนูจะท้องไหม?

ดร.วรรณวดี เนียมสกุล*

วัยรุ่นหญิงหลายคน สับสนว่าตัวเองจะท้องได้ไหมหลังจากมีประจำเดือนแล้ว? และมีความวิตกกังวลจนทำให้กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เมื่อพบว่าตัวเองไม่เป็นประจำเดือนในวันที่ครบกำหนดประมาณหนึ่งเดือน ดังคำถามของเด็กซึ่งยังไม่มีแฟนและไม่เคยมีเพศสัมพันธ์? ที่แสดงให้เห็นว่าเธอเหล่านี้ยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น หนูจะท้องได้มั้ยคะถ้าเข้าห้องน้ำรวม?? เมนส์หนูขาดไปหนึ่งเดือนแล้วหนูท้องใช่มั้ยคะ?

การให้ความรู้ที่ถูกต้องหรือเสริมความรู้ปัญญาเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้วัยรุ่นเข้าใจและระมัดระวังตัวเองให้ปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ได้ โดยให้คำแนะนำดังนี้? การจะตั้งครรภ์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีไข่ตกและมีเพศสัมพันธ์ โดยอสุจิของฝ่ายชายเข้าสู่ช่องคลอด และผ่านปากมดลูก เดินทางไปยังไข่ที่ตกจากรังไข่ ปฏิสนธิที่ท่อนำไข่และเคลื่อนมาฝังตัวที่มดลูก

เมื่อเป็นประจำเดือนแล้วแสดงถึงการมีไข่ตกและแสดงถึงว่าเป็นสาวเต็มตัวพร้อมที่จะตั้งครรภ์ได้ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน นอกจากนี้ ในรายที่ประจำเดือนยังมาไม่สม่ำเสมอ คิดว่าถ้ามีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวและไม่ได้ป้องกันด้วยการคุมกำเนิดวิธีใดๆ ก็ตาม ไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ นั่นเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะมีวัยรุ่นหลายรายที่ตั้งครรภ์จากความเชื่อดังกล่าว

เมื่อวัยรุ่นเข้าใจถึงการตั้งครรภ์เกิดขึ้นมาได้อย่างไรแล้ว คำถามสองคำถามข้างบนควรนำมาอธิบายให้ชัดเจนต่อว่า การเข้าห้องน้ำรวมไม่สามารถทำให้เธอตั้งท้องได้ถ้าเธอไม่ไปมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนชายที่นั่น แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ ความสะอาดของห้องน้ำเป็นหลักด้วย เพราะห้องน้ำที่สกปรกอาจมีเชื้อโรคที่ทำให้เธอสามารถติดเชื้อที่ช่องคลอดได้ ถ้ารักษาความสะอาดของอวัยวะเพศไม่ดีพอ? การล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้งที่ปัสสาวะหรืออุจจาระ และการดูแลชั้นในให้สะอาดอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญมาก การล้างมือบ่อยๆ ดูแลตัดเล็บให้สั้นและสะอาดก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี

การที่วัยรุ่นประจำเดือนยังไม่สม่ำเสมอเป็นเรื่องปกติที่พบได้ เนื่องจากการหลั่งของฮอร์โมนยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ แต่ถ้าพบว่ามีเลือดออกผิดปกติ เช่น เป็นประจำเดือนๆ ละสองครั้ง หรือเป็นแล้วไม่เป็นอีกเลยนานถึงสามสี่เดือน ควรจะมาปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและให้การรักษาแต่เนิ่นๆ

อ้างอิง

วรรณวดี เนียมสกุล. (2551). การตั้งครรภ์ที่ไม่ได้ตั้งใจของวัยรุ่นหญิงไทย: การสร้างทฤษฎีรากฐาน. วิทยานิพนธ์ ระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก

* พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการพิเศษ ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์

มุมความรู้สำหรับวัยใส

เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพด้านอนามัยเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นหญิง

ตอนที่ 3 หนูไม่อยากท้องในวัยเรียน จะทำยังไงดีคะ?

ดร.วรรณวดี เนียมสกุล*

ค่านิยมทางเพศที่เปลี่ยนแปลงในสังคมไทยจากการรักนวลสงวนตัวในหญิงไทยโบราณ ไปสู่ความรู้สึกธรรมดาที่จะมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ทำให้วัยรุ่นยุคนี้มีการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์มากขึ้นทุกปี แผนกฝากครรภ์ในโรงพยาบาลของรัฐในทุกวันนี้ มีวัยรุ่นในชุดนักเรียน นักศึกษามาฝากครรภ์ทุกวัน ทั้งๆ ที่วัยรุ่นเหล่านี้บอกว่า หนูไม่อยากท้องในวัยเรียน วัยรุ่นท้องเป็นปัญหาต่อทางจิตใจ ร่างกาย เศรษฐกิจและ สังคมรอบด้าน

การท้องในวัยเรียนทำให้วัยรุ่นต้องหยุดเรียนกลางคัน เสียอนาคต ถูกฝ่ายชายที่ไม่รับผิดชอบทอดทิ้งต้องท้องเพียงลำพัง ทำให้สภาพจิตใจบอบช้ำ ถูกสังคมรอบข้างมองด้วยสายตาที่แปลกๆ เป็นตราบาปเพราะท้องไม่มีพ่อ ไม่มีเงินเลี้ยงลูก โลหิตจางหรือครรภ์เป็นพิษได้ง่าย ซึ่งเป็นภาวะเสี่ยงต่อทั้งแม่วัยรุ่นและลูก ผลกระทบที่รุนแรงเหล่านี้อาจส่งผลต่อสุขภาพได้

ทำอย่างไรที่วัยรุ่นหญิงจะหลีกเลี่ยงในการที่จะต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ยากลำบากดังกล่าว?? มีหลายวิธีที่จะป้องกันตัวเองจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ทั้งนี้วัยรุ่นต้องเตือนตนเองเสมอว่า ถ้าไม่อยากท้องในวัยเรียน? สิ่งที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์

ทำอย่างไรจะหลีกเลียงการมีเพศสัมพันธ์ได้ ??ก่อนอื่นวัยรุ่นหญิงต้องเรียนรู้ถึงความรู้สึกที่แตกต่างระหว่างหญิงชาย? ฝ่ายชายสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้โดยไม่มีความรัก ในขณะที่ฝ่ายหญิงมองการมีเพศสัมพันธ์ว่าเป็นความรักและผูกมัดได้ โดยฝ่ายชายไม่ได้นึกถึงความผูกพันและความรักใดๆ การเรียนรู้ถึงความแตกต่างนี้จะทำให้ฝ่ายหญิงไม่หลวมตัวง่ายๆ เพราะผู้ชายที่รักจริง จะให้เกียรติและไม่นำการมีเพศสัมพันธ์มาเป็นข้ออ้าง

นอกจากนี้วัยรุ่นหญิงไม่ควรอยู่ลำพังสองต่อสองกับเพื่อนชาย หรือทำตัวสนิทสนมใกล้ชิดจนเกินไป การแต่งกายต้องไม่ล่อแหลม เสื้อสายเดี่ยว เกาะอก กางเกงกระโปรงสั้นไม่ควรสวมใส่ เพราะจะเป็นการยั่วยุอารมณ์เพศของฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างดี

การวางตัวที่เหมาะสม ไม่ถูกเนื้อต้องตัว ไม่นัดหมายเพื่อนชายในเวลากลางคืน? หลีกเลี่ยงการไปสถานเริงรมณ์หรือที่ลับตาคน การไม่ดูหนังโป๊ หนังโรแมนติกตามลำพัง หรือการไปกับเพื่อนๆ หลายๆ คน จะช่วยให้ปลอดภัยจากการมีเพศสัมพันธ์ที่จะนำไปสู่การตั้งครรภ์ได้ ???การมีสติและรู้จักเหตุผลไม่นำพาตัวเองไปสู่สถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเสียตัว จะทำให้วัยรุ่นหญิงอยู่รอดปลอดภัย และตั้งครรภ์เมื่อมีความพร้อม

อ้างอิง

วรรณวดี เนียมสกุล. (2551). การตั้งครรภ์ที่ไม่ได้ตั้งใจของวัยรุ่นหญิงไทย: การสร้างทฤษฎีรากฐาน. วิทยานิพนธ์ ระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก

* พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการพิเศษ ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์

Proudly powered by Wordpress 3.0.1 - Theme Triplets Id Band 2.0, the boyish style by neuro