รายงานการประชุมการจัดการความรู้เรื่อง แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบ ACTIVE LEARNING ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
รายงานการประชุมการจัดการความรู้เรื่อง แนวทางการจัดการเรียนการสอน
แบบ ACTIVE LEARNING
วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๐๐ ? ๑๕.๐๐ น.
ณ ห้อง ๑๑๓ ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์
รายชื่อผู้เข้าร่วมการประชุม
๑. นางนิศารัตน์ นาคทั่ง หัวหน้าภาควิชาฯ
๒. นางศศิธร ชิดนายี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
๓. นางอนัญญา คูอาริยะกุล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
๔. นางมณฑา อุดมเลิศ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
๕. นางสาววราภรณ์ ยศทวี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
๖. นางสาวเสาวลักษณ์ เนตรชัง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
๗. นางสาวนัยนา อินธิโชติ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
๘. นายไพทูรย์ มาผิว พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
๙. นางวาสนา ครุฑเมือง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
๑๐. นางสาวนัยนา แก้วคง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ
๑๑. นางสาวศิริกาญจน์ จินาวิน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
๑๒. นายสืบตระกูล ตันตลานุกุล พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
๑๓. นายเสน่ห์ ขุนแก้ว พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
๑๔. นางอรุณรัตน์ พรมมา พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
๑๕. นายภราดร ล้อธรรมมา พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
๑๖. นางสาวอลิษา ทรัพย์สังข์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
๑๗. นายวีระยุทธ อินพะเนา พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
๑๘. นางจิราพร ศรีพลากิจ พยาบาลวิชาชีพ
ผู้เข้าร่วมประชุมคิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
ประธานที่ประชุม นายไพทูรย์ มาผิว
เปิดประชุมเวลา ๑๓.๑๕ น.
ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
ประธานแจ้งว่า จาการประชุมของคณะกรรมการบริหาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ ได้กำหนดหัวข้อในการจัดการความรู้(KM)ของวิทยาลัยฯในหัวข้อการจัดการเรียนการสอนแบบ ACTIVE LEARNING และเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ ในการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธี ACTIVE LEARNING และขอความร่วมมือให้อาจารย์แต่ล่ะท่านช่วยเล่าประสบการณ์การจัดการเรียนการสอนแบบ ACTIVE LEARNING เพื่อรวบรวมวิธีการสอน กระบวนการสอน ผลการสอน ข้อดี และข้อจำกัดในการสอนแต่ล่ะวิธี และเพื่อให้เกิดการจัดการเรียนการสอนแบบ ACTIVE LEARNING ที่มีประสิทธิภาพ แก่นักศึกษา
จึงแจ้งที่ประชุมทราบ
มติที่ประชุม รับทราบ
ระเบียบวาระที่ ๒ รับรองรายงานการประชุม
ไม่มี
ระเบียบวาระที่ ๓ เรื่องเพื่อพิจารณา
จากประธานแจ้งเรื่องหัวข้อการจัดการความรู้ เรื่อง การจัดการเรียนการสอนแบบ ACTIVE LEARNING และให้อาจารย์ในภาควิชาฯ เล่าประสบการณ์การจัดการเรียนการสอนแบบ ACTIVE LEARNING เพื่อรวบรวมวิธีการสอน กระบวนการสอน ผลการสอน ข้อดี และข้อจำกัดในการสอนแต่ล่ะวิธี และเพื่อให้เกิดการจัดการเรียนการสอนแบบ ACTIVE LEARNING ที่มีประสิทธิภาพ แก่นักศึกษา
๑. อาจารย์นิศารัตน์ นาคทั่ง สอนโดยวิธีการบรรยายจบแล้ว ๑ หัวข้อ ก็ตัวแทนให้เล่าประสบการณ์ที่นักศึกษาเคยเจอมาเกี่ยวกับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับตา คอ หู จมูก ว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง หลังจากนั้น อาจารย์จะยกตัวอย่างกรณีศึกษา โดยอาจารย์จะสมมติว่าตัวเองเป็นผู้ป่วย และให้นักศึกษา ช่วยกันซักประวัติ และช่วยกันวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคอะไร และให้ช่วยกันให้การรักษา และจะต้องปฏิบัติอย่างไรต่อไปในผู้ป่วยรายนี้ ซึ่งจะใช้วิธีนี้ในทุกหัวข้อที่สอน หลังจากเสร็จสิ้นทุกหัวข้อจะเหลือเวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง จะให้นักศึกษาทำแบบฝึกหัดทุกหัวข้อ จำนวน ๑๐ ข้อ โดยแบ่งนักศึกษาออกเป็นกลุ่ม และส่งตัวแทนกลุ่มออกมาตอบคำถามชิงรางวัล โดยกลุ่มไหนที่ได้คะแนนสูงสุด จะได้รับรางวัล ผลของการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการนี้พบว่า นักศึกษาบอกว่าดี ทำให้สามารถซักประวัติ และวินิจฉัยแยกโรค ของผู้ป่วยได้ และนักศึกษามีความสนใจมากขึ้น และมีผลการสอบปลายภาคผ่านมากขึ้นกว่าปีการศึกษาที่ผ่านมา
๒. อาจารย์มณฑา อุดมเลิศ สอนโดยให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม และใช้สถานการณ์สมมติ ให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์สถานการณ์ และนำเสนอหน้าชั้นเรียน ขณะจัดการการเรียนการสอนนักศึกษาให้ความสนใจมาก ไม่ง่วง ผลการสอนด้วยวิธีนี้พบว่านักศึกษา สอบผ่านมากขึ้นกว่าปีการศึกษาที่ผ่านมา และวิธีการจัดการเรียนการสอนแบบนี้อาจารย์ผู้สอนต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวค่อนข้างมาก และมีความกังวลเรื่องของเนื้อหาการเรียนอาจไม่ครอบคลุม
ประธานสรุปจากท่านอาจารย์ทั้ง ๒ ท่านที่ได้เล่าประสอบการณ์การจัดการเรียนการจัดการเรียนการสอนที่เป็นแบบ ACTIVE LEARNING ได้แก่ การเล่าประสบการณ์ การเล่นเกมส์ แบบฝึกหัด การใช้สถานการณ์สมมติ จะทำให้เกิดบรรยากาศการเรียนรู้ที่ไม่อยู่นิ่ง ไม่ง่วง ทำให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้และการคิดที่ต่อเนื่องเชื่อมโยง จากกิกรรมที่อาจารย์จัดให้ ส่งผลให้นักศึกษามีความสนใจมากขึ้น และมีผลการสอบปลายภาคผ่านมากขึ้นกว่าปีการศึกษาที่ผ่านมา แต่มีข้อกำกัดคืออาจารย์ผู้สอนต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวค่อนข้างมาก และมีความกังวลเรื่องของเนื้อหาการเรียนอาจไม่ครอบคลุม
๓. อาจารย์ไพทูรย์ มาผิว สอนโดยการใช้สถานการณ์ ๖ สถานการณ์ แต่แบ่งกลุ่มนักศึกษาออกเป็นหลายกลุ่ม และกำหนดโจทย์ให้นักศึกษาค้นหาคำตอบ จากเอกสารประกอบการสอน หรือการค้นทางด้วยอินเตอร์เน็ต หลังจากนั้นให้ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน ผลพบว่านักศึกษาสามารถหาคำตอบได้ตรงประเด็นและสนใจการเรียนมากเนื่องจากได้รับผิดชอบ และต้องค้นหาคำตอบ แต่ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ในการอ่าน การค้นหาคำตอบ และต้องเตรียมตัวออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน ซึ่งการนำเสนอหน้าขั้นเรียนจะเป็นตัวที่จะสะท้อนในเห็นว่านักศึกษาเข้าใจถูกต้องหรือไม่ และจะทำให้นักศึกษาทราบว่าที่ตนเองคนหาคำตอบมานั้นผิดประเด็นอย่างไร โดยอาจารย์จะเป็นผู้ให้คำชี้แนะเพิ่มเติม
๔. อาจารย์วาสนา ครุฑเมือง สอนโดยการใช้สถานการณ์ไปพร้อมๆกับการบรรยาย ร่วมการให้ทำกิจกรรม แบบฝึกหัด ในแต่ละหัวข้อการสอน นักศึกษาจะมีส่วนร่วมในการเรียนค่อนข้างมาก ซึ่งกิจกรรมคล้ายกับอาจารย์มณฑาและอาจารย์ไพทูรย์ และเห็นว่าการจัดการเรียนการสอนแบบนี้อาจารย์ผู้สอนจะเหนื่อยและใช้เวลามากในการเตรียมการสอนเพื่อให้รัดกุมกับเนื้อหาที่จะสอน
๕. อาจารย์เสน่ห์ ขุนแก้ว ยกตัวอย่างการสอนเรื่องการต่อท่อระบายทรวงอก(ICD) โดยการใช้สถานการณ์ และให้นักศึกษาบอกบทบาทของพยาบาล ในการช่วยเหลือผู้ป่วย โดยให้ตัวแทนนักศึกษาออกมาต่อท่อระบายทรวงอก ชนิด ๓ ขวด โดยต่อกับขวด ICD ที่ใช้จริงกับผู้ป่วย ในโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ข้อดีของการจัดการสอนแบบนี้คือ นักศึกษามีความมั่นใจในการใช้ ICD มากขึ้น และเข้าใจบทบาทของพยาบาลในการช่วยเหลือ ดูแลผู้ป่วยที่ใส่ ICD ข้อจำกัดคือ นักศึกษามีจำนวนมากจึงไม่สามารถจัดให้นักศึกษาทุกคนได้ต่อ ICD
๖. อาจารย์จิราพร ศรีพลากิจ การสอนขณะฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วย ขณะประชุมปรึกษาทางการพยาบาล(nursing conference)รู้สึกว่านักศึกษาเกิดความเบื่อหน่าย จึงให้นักศึกษา ๑ คน แจ้งข้อมูลผู้ป่วย และให้สมาชิกภายในกลุ่ม อธิบายว่าคนที่ ๑ แจ้งข้อมูลว่าอย่างไร ประเด็นสำคัญคืออะไร เพื่อให้เกิดความตื่นตัว อยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ conference เรียบร้อยแล้ว อาจารย์จะนำข้อการรวบยอดมาให้นักศึกษาทำเป็นตัวอย่าง และชี้ว่านี่คือประเด็นสำคัญ ที่ต้องรู้ และต้องปฏิบัติ การจัดกานสอนแบบนี้จะเป็นการสะท้อนเนื้อหา จากเพื่อน จากอาจารย์ และจากข้อสอบ
๗. อาจารย์นัยนา แก้วคง สอนโดยการบรรยายกว้างๆก่อน แล้วให้สถานการณ์ ๗ สถานการณ์ และให้นักศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ว่าผู้ป่วยที่ตนเองรับผิดชอบป่วยด้วยโรคอะไร โดยมีอาจารย์คอยให้คำชี้แนะ และชี้ประเด็น เมื่อนักศึกษาทุกกลุ่มวิเคราะห์ได้แล้ว ให้นักศึกษาเตรียมข้อมูลและเตรียมนำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยส่งตัวแทนออกมานำเสนอ และอาจารย์จะมีคำถามหลังจากที่แต่ละกลุ่มนำเสนอเสร็จเรียบร้อย โดยให้ยกมือตอบตามความสมัครใจ ซึ่งคำถามจะมาจากเนื้อหาที่กลุ่มนำเสนอเสนอเสร็จถามเลย นักศึกษาสนใจมาก และสรุปเนื้อหาทั้งหมดให้นักศึกษาอีกครั้ง ข้อจำกัด คือไม่เห็นกระบวนการกลุ่ม ซึ่งจะปรับโดยการให้ทำกระบวนการกลุ่มในชั้นเรียน และอาจารย์อยู่ภายในห้องด้วย
๘. อาจารย์อลิษา ทรัพย์สังข์ จากการสอนแบบบรรยาย เกี่ยวกับทารกคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อยพบว่าสอนไม่ทันเวลา เนื่องจากเนื้อหาเยอะมาก จึงเปลี่ยนวิธีการสอนโดยการสรุปเนื้อหาทั้งหมด และดึงเอาเนื้อหาที่สำคัญโดยกำหนดโรคให้ และมอบหมายงานกลุ่มให้นักศึกษาคิดสถานการณ์เอง และออกมาแสดงบทบาทสมมติว่าเด็กที่มีปัญหาโรคนั้นๆ จะมาด้วยสถานการณ์แบบไหน หลังจากที่นำเสนอเสร็จเรียบร้อยอาจารย์จะจับฉลากให้มีกลุ่มตัวแทนถามคำถาม กลุ่มที่นำเสนอก็จะทำให้นักศึกษามีความสนใจและตื่นตัวมากเพราะต้องคอยฟังสิ่งที่เพื่อนนำเสนอ ผลคือนักศึกษาสอบผ่านมากขึ้น ข้อจำกัดคือใช้เวลามาก ห้องเรียนเป็นอุปสรรคในการเข้ากลุ่มเนื่องจากเป็นห้อง SLOPE จึงทำให้เข้ากลุ่มค่อนข้างยาก การจัดกลุ่มมีปัญหามาก
๙. อาจารย์วีระยุทธ อินพะเนา ใช้วิธีการสอนแบบจิ๊กซอร์ โดยแบ่งกลุ่มนักศึกษาออกเป็นกลุ่มและให้ส่งตัวแทนในกลุ่มไปเรียนรู้ในแต่ละหัวข้อโดยสมาชิก ๑ คน จะมีความรู้ ๑ หัวข้อ และกลับเข้ากลุ่มใหญ่ เพื่อนำความรู้ที่ตนเองได้รับมาไปอธิบายให้สมาชิกในกลุ่มฟัง เพื่อให้สมาชิกทั้งหมดมีความรู้ในทุกหัวข้อที่สมาชิกทุกคนได้รับถ่ายทอดมา หลังจากนั้นอาจารย์จะมีแบบฝึกหัดให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาตอบคำถามแข่งขันกัน และอีกวิธีก็คือการให้สถานการณ์สมมติกับนักศึกษา และให้นักศึกษาวิเคราะห์ สาเหตุ การติดต่อ อาการและอาการแสดง พยาธิสภาพ การพยาบาล และนำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยไม่จำกัดวิธีการนำเสนอ ผลคือนักศึกษาตื่นตัวมาก และวิธีการที่นำเสนอหลากหลายวิธีเป็นการเปิดโอกาสทางความคิด การคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างต่อเนื่อง
การสอนขณะฝึกปฏิบัติบนหอผู้ป่วย ปัญหาของการ pre-conference พบว่านักศึกษาไม่สนใจฟังเพื่อนขณะที่เพื่อนนำเสนอ จึงใช้วิธีการให้เพื่อนเล่าอาการปัจจุบันของผู้ป่วยที่ได้รับผิดชอบแล้วให้เพื่อนช่วยกันซักข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อหาปัญหาที่สำคัญที่สุด และกิจกรรมที่สำคัญที่สุด พบว่านักศึกษาตื่นตัวมากขึ้น สนใจฟังมากขึ้น และร่วมให้การพยาบาลผู้ป่วยที่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของตนเองได้ด้วย ข้อจำกัด ใช้เวลาในค่อนข้างมาก
๑๐. อาจารย์นัยนา อินธิโชติ จัดการสอนแบบจิ๊กซอร์คล้ายกับอาจารย์วีระยุทธ และใช้ข้อสอบมาใช้ประเมินผล การจัดการสอนแบบนี้ทำให้นักศึกษามีความรับผิดชอบมากเพื่อที่จะนำความรู้จากกลุ่มหนึ่งไปยังอีกกลุ่มหนึ่งให้ได้ ทำให้นักศึกษามีความกระตือรือร้นเพิ่มมากขึ้น ข้อจำกัดคือใช้เวลามากในการเตรียมตัว ในกิจกรรมการสอน การออกข้อสอบ และการเตรียมเอกสาร และการฝึกภาคปฏิบัติ การใช้ Nursing Round ได้ผลดี เพราะทำให้นักศึกษาเข้าใจผู้ป่วยมากขึ้น อย่างองค์รวม ควรปรับใช้ตั้งแต่ การฝึกปฏิบัติการปัญหาสุขภาพ ๑ จะทำให้นักศึกษาเข้าใจผู้ป่วยอย่างครบถ้วน
๑๑. อาจารย์อรุณรัตน์ พรมมา สอนโดยการบรรยายเนื้อหา และแจกสถานการณ์ให้นักศึกษาศึกษาด้วยตนเอง ว่าผู้ป่วยมีปัญหาอะไรบ้าง และนำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยให้เวลา ๑ สัปดาห์ ปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษา ค้นคว้าจากห้องสมุด เพื่อเตรียมตัวในการนำเสนอหน้าชั้นเรียน อาจารย์สรุปเนื้อหาสาระสำคัญให้กับนักศึกษาอีกรอบ
๑๒. อาจารย์ ดร. อนัญญา คูอาริยะกุล ให้นักศึกษาอ่านรายงานวิจัย และอภิปรายในกลุ่มและมานำเสนอตามประเด็นหัวข้อที่กำหนด และสอดแทรกเนื้อหาให้กับนักศึกษา การสุ่มโดยการจับสลากให้ตอบคำถามและให้เพื่อนตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ ผลคือนักศึกษาสอบผ่านมากขึ้น
๑๓. อาจารย์ภาราดร ล้อธรรมมา ใช้วิธีการสอนแบบ Team base learning ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มทำข้อสอบประมาณ ๒๐ ข้อ และให้นักศึกษาแข่งกันตอบภายในห้อง และมาสรุปเนื้อหาและเฉลยข้อสอบโดยละเอียด ข้อจำกัดคือใช้เวลาค่อนข้างมาก
นัดประชุมครั้งต่อไป วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ โดยให้อาจารย์แต่ละท่านเล่ากระบวนการการจัดการเรียนการสอน ลำดับการสอน ตั่งแต่เริ่มต้นการสอน จนขั้นสรุปผล ใช้เวลาไม่เกิน ๕ นาที เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning ของภาควิชาต่อไป
ลงชื่อ………………………………………………..
(นายวีระยุทธ อินพะเนา)
ผู้บันทึก
ลงชื่อ………………………………………………..
(นายไพทูรย์ มาผิว)
ผู้ตรวจสอบ
ลงชื่อ………………………………………………..
(นางนิศารัตน์ นาคทั่ง)
หัวหน้าภาควิชาการพยาบาลเด็กผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
จากการประชุมแลกเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการสอน พบว่ามีวิธีการสอนที่น่าสนใจ และน่าจะสามารถนำมาใช้ในการสอนในส่วนของตนเองได้ ซึ่งจะนำไปทดลองใช้และนำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไป
การเรียนการสอนแบบ Active learning มีอยู่ในทุกวิชาที่จัดการเรียนการสอน การได้มีโอกาสมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันในที่ประชุม ทำให้เกิดแนวความคิดในการนำไปพัฒนาปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนของตนเองให้หลากหลาย และมีความน่าสนใจ รวมทั้งได้รับทราบถึงประโยชน์และอุปสรรคที่ต้องแก้ไขในการจัดการเรียนการสอนในแต่ละกิจกรรมมากยิ่งขึ้น
ผลการร่วมกันนำเสนอและอภิปรายมีประโยชน์ในการปรับวิธีการจัดการเรียนการสอนของตนเองและพัฒนาในส่วนที่ต้องปรับปรุง รวมทั้งสามารถนำวิธีการใหม่ๆมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการสอนในครั้งต่อๆไปด้วย
ที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทาง และวิธีให้เหมาะสมซึ่งเคยเริ่มจากการมอบหมายงานนำเสนอโดยยังไม่มีการบรรยาย พบว่า
ผู้เรียนมีข้อจำกัดในการค้นคว้า เนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์ จึงได้มีการปรับเป็นการบรรยายสรุปเนื้อหาภาพรวมโดยย่อ แล้วมอบหมายผู้เรียนศึกษาค้นคว้าต่อ ผลปรากฎว่า มีการพัฒนางานที่ค้นคว้ามากขึ้น และมีความชัดเจนในเนื้อหามากขึ้น และผลสอบพบว่าจำนวนนักศึกษาที่สอบผ่านมีมากขึ้น
-
เทคนิคการกำหนดข้อตกลงร่วมในชั้นเรียน หรือข้อตกลงกลุ่ม ก่อนการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้นักศึกษาทำกิจกรรมการเรียนการสอน ตามกติกา ตรงเวลา เนื่องจากเป็นการควบคุมโดยส่วนรวม เมื่อคนส่วนใหญ่ปฏิบัติ คนส่วนน้อยกลัวการถูกจับผิดจึงปฏิบัติตาม
จากการประชุมแลกเปลี่ยนวิธีการ และเทคนิคการเรียนการสอน แบบ Active Learning ช่วยให้ผู้เรียนเกิดกระตือรือร้น ในการเรียน รับผิดชอบในการหาความรู้ ทบทวนความรู้มากยิ่งขึ้น
จากการเข้าร่วมประชุมได้เรียนรู้รูปแบบการเรียนการสอนที่หลากหลายจากพี่ๆ ซึ่งมีประโยชน์มาก และจะนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนคะ
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นเทคนิคที่ดีมากคะ ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทํางาน และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบและช่วยให้นักศึกษาคิดวิเคราะห์ จากการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้พบว่่าก็มีอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอน เช่น จำนวนนักศึกษามีมากเกิน ระยะเวลาในการทำมีน้อย เป็นต้น
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ไม่เฉพาะแต่นักศึกษาเท่านั้นที่ active ครูต้อง activeกว่า เพราะต้องออกแบบกิจกรรมที่รัดกุม ในขั้นตอนของการวางแผนการเตรียมสื่อ ขั้นสอนและขั้นสรุป ตลอดจนวิธีการประเมินผู้เรียนในระหว่างการสอนต้องออกแบบให้ชัดเจน
การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปการศึกษาตามพรบ.การศึกษาแห่งชาติพศ.2542 ซึ่งในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญสามารถจัดได้หลายอย่างสิ่งที่เป็นทฤษฎีการเรียนรู้ที่นิยมในปัจจุบัน คือ การสร้างความรู้ (constructivism) ซึ่งเน้นให้ผู้เรียนมีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ครูมีหน้าที่ในการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ สร้างบรรยากาศการเรียนรู้และเสริมศักยภาพผู้เรียน วิธีที่ใช้มีหลายแบบ เช่น cooperative learning, collaborative learning, jigsaw,PBL, Project based learning
ที่ผ่านมาได้ลองใช้วิธีการ Team based learning ผลพบว่านักศึกษาให้ความสนใจ เพิ่มให้เกิดการคิด และเรียนรู้
Active Learning เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สูงสุด ในระดับทักษะการคิดขั้นสูง (Higher Order Learning Level) ซึ่งประกอบด้วย การวิเคราะห์ การสังเคราะห์และการประเมินค่า การได้แลกเปลี่ยนความรู้ ทำให้เห็น เทคนิคการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย ซึ่งอาจารย์สามารถนำมาประยุกต์ ใช้กับกิจกรรมการเรีนการสอนของอาจารย์ได้ทุกรายวิชา ซึ่งผลดีจะเกิดกับตัวผู้เรียนจะเกิดการตกผลึกทางความรู้เพิ่มขึ้น(Crystallization)
Active learning เป็นการจัดการเรียนการสอนที่พัฒนาผู้เรียนให้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างมาก และสามารถสร้างองค์ความรู้ และจ้ดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ และพัฒนาการคิดขั้นสูง Higher Order Learning Level ผู้สอนควรจัดการเรียนการสอนเพือให้ผู้เรียน ซึ่ง ประกอบด้วย การ วิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่า ดังนั้นผู้สอนควรวางแผนการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างเต็มที่
เป็นเทคนิคการจัดการเรียนการสอนที่น่าสนใจครับ ซึ่งรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้แบบ Active Learning มีหลายรูปแบบ เช่น การเรียนรู้แบบใช้เกม (Games)(McKenney,2008) ซึ่งใช้ได้ทั้งขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน,การสอน,การมอบหมายงาน และหรือขั้นการประเมินผล
การเรียนรู้แบบ AL ที่น่าจะเหมาะกับการเรียนการสอนทางการพยาบาลอีกรูปแบบหนึ่งคือ การเรียนรู้แบบกรณีศึกษา (Analyze Case Studies)(McKinney,2008)คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้อ่านกรณีตัวอย่างที่ต้องการศึกษา จากนั้นให้ผู้เรียนวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแนวทางแก้ปัญหาภายในกลุ่ม
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning หรือ การเรียนการสอนเชิงรุก เป็นรูปแบบที่น่าสนใจและน่าจะเหมาะสมกับบริบทของการศึกษาทางการพยาบาล เพราะเป็นลักษณะการเรียนการสอนที่นักศึกษามีอิสระในการเรียน โดยมีครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก แบบนี้นักศึกษาพยาบาลน่าจะเข้าถึงได้มากกว่าแบบอื่น เพราะนักศึกษาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ควรจะเรียนรู้แบบลงมือกระทำเองและได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป (Bonwell, 1993)
การสะท้อนคิด เป็นส่วนหนึ่ง ของ Active Learning โดย ครูควรสร้างสรรค์กิจกรรมที่ให้นักศึกษาสะท้อนความคิดเป็นระยะๆ ตลอดเวลาของการสอน ไม่ใช่ยึดการสอนแบบบรรยายเป็นหลัก การให้นักศึกษาสะท้อนคิดเพื่อสร้างความหมายของความรู้ให้เกิดขึ้นในใจของผู้ เรียน อาจให้ผู้เรียนร่วมทำกิจกรรมเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่ม แล้วให้นักศึกษาแบ่งปันความรู้ที่เกิดขึ้นในจิตใจของนักศึกษา ให้เพื่อนในชั้นเรียนได้ร่วมเรียนรู้ด้วย สิ่งที่ผู้สอนสามารถนำมาใช้กระตุ้นการสะท้อนคิดได้ ได้แก่ คำถามสำคัญ การใช้อินเตอร์เน็ต การเรียนแบบโมดูล การเรียนแบบ problem-based learning การเล่าเรื่อง (narrative pedagogies) การอ่านเพื่อตอบคำถามที่กำหนด การใช้ unfolding case studies ที่ครูค่อยๆ ให้ข้อมูลให้ผู้เรียนคิดเป็นลำดับต่อเนื่องเป็นชุดไป สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักศึกษาตื่นตัวตลอดเวลา
จากรูปแบบของ McKinney,2008 ที่น่าสนใจอีกรูปแบบหนึ่งคือ การเรียนรู้แบบใช้เกม (Games) เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนนำเกมเข้าบูรณาการในการเรียนการสอนซึ่งใช้ได้ทั้งในขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน,การสอน,การมอบหมายงาน และหรือการประเมินผล ทำให้ผู้เรียนเกิดความสนุกสนานไปกับการเรียนรู้
การจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุก(Active Learning)เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้นักเรียนรู้จากประสบการณ์ การลงมือกระทำ และการแก้ปัญหาที่เกิดจากสถานการณ์ที่ชวนสงสัย กิจกรรมการเรียนรู้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับข้อมูล เกิดความคิดรวบยอด หรือทักษะใหม่ๆจากการเรียนรู้ (Meyers and Jones, 1993, อ้างใน วทัญญู วุฒิวรรณ์, 2552 :19)
ซึ่งจากการให้ความหมายข้างต้น ดิฉันเห็นด้วยกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ที่มีการจัดการเรียนรู็แบบเชิงรุกที่หลากหลาย แต่ผลลัพธ์คือ “นักเรียนได้รับข้อมูล เกิดความคิดรวบยอด หรือทักษะใหม่ๆจากการเรียนรู้”
องค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ AL คือการประเมินผล ต้องใช้การประเมินผลที่หลากหลายและครอบคลุม เช่น ประเมินความสามารถในการคิด ประเมินความสามารถในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งเหล่านี้ยังมีความจำกัดเรื่องแบบประเมิน ใครมีแบบประเมินที่น่าสนใจช่วยเอามาแลกเปลี่ยนกันหน่อยนะคะ
การจัดการสอนแบบ AL กระบวนการหนึ่งที่สามารถสรุปองค์ความรู้จากการเรียนการสอนของนักศึกษาที่สามารถทำได้ง่ายคือ การเรียนรู้แบบผังความคิดรวบยอด(Concept Mapping)ที่ครูสามารถจัดกิจกรรมเพื่อเชื่อมโยงความคิดของนักศึกษาสู่เนื้อหาทางวิชาการอาจจัดทำเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้ ซึ่งจากประสบการณ์จัดการเรียนการสอนที่ผ่านมานักศึกษาส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และครูสามารถบูรณาการความคิดสร้างสรรค์เข้าในการจัดรูปแบบผังความคิดรวบยอดก็ได้
ลักษณะสำคัญของ AL คือ เป็นการเรียนกาสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด กรแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการกรเรียนรู้สูงสุด ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดบรรยากาศการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรู้ความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย การแบ่งหน้าที่การทำงาน
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning เป็นเทคนิคการสอนที่ทำให้ผู้เรียนและผู้สอนมีความตื่นตัว ไม่น่าเบื่อ และเป็นกิจกรรมที่สามารถสะท้อนคิดได้ และเชื่อว่าหากเรานำเทคนิคนี้มาใช้จะช่วยให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น