สรุปการจัดการความรู้

ประเด็น “การตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับชาติและนานาชาติ”

กลุ่มงานวิจัย บริการวิชาการ และวิเทศสัมพันธ์

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์

วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ เวลา  ๑๓.๐๐ – ๑๓.๓๐ น

………………………………………………………………………………………………………………..

๑.รายชื่อผู้เข้าร่วมการประชุม

๑.      ดร.อนัญญา           คูอาริยะกุล       รองฯ กลุ่มงานวิจัยฯ    (ประธาน)

๒.      ดร.ดุจเดือน           เขียวเหลือง       รองฯ กลุ่มงานวิชาการ

๓.      นายไพทูรย์            มาผิว             รองฯ กลุ่มงานอำนวยการฯ

๔.      ดร.สุดารัตน์           ไชยประสิทธิ์

๕.      นางวิมล               อ่อนเส็ง

๖.      นางสาวนัยนา         อินธิโชติ

๗.      ดร.ศศิธร              ชิดนายี

๘.      ดร.ปฐพร              แสงเขียว

๙.      นางมณฑา            อุดมเลิศ

๑๐.  ดร.ประภาพร         มโนรัตน์

๑๑.  นายนภดล            เลือดนักรบ

๑๒.  นางภิญญารัช         บรรเจิดพงศ์ชัย

๑๓.  นายอดุลย์             วุฒิจูรีพันธุ์

๑๔.  ดร.นิศารัตน์           นาคทั่ง

๑๕.  นางสาววิไลวรรณ     บุญเรือง

๑๖.  นางสาวอัญชรี        เข็มเพชร

๑๗.  นางสาวดวงดาว       เทพทองคำ

๑๘.  ดร.เสาวลักษณ์        เนตรชัง

๑๙.  นายบุญฤทธิ์          ประสิทธิ์นราพันธุ์

๒๐.  นางวาสนา            ครุฑเมือง

๒๑.  ดร.สิตานันท์          ศรีใจวงศ์

๒๒.  นางสาวนัยนา         แก้วคง

๒๓.  นางสาวจิราพร        วิศิษฎ์โกศล

๒๔.  นายสืบตระกูล        ตันตลานุกุล

๒๕.  นางอรุณรัตน์          พรมมา

๒๖.  นางสาวสุปราณี       หมื่นยา

๒๗.  นายภราดร            ล้อธรรมมา

๒๘.  นางจิราพร            ศรีพลากิจ

๒๙.  นางสาวพัชชา         สุวรรณรอด

๓๐.  นางสายฝน            วรรณขาว

๓๑.  นางผ่องศรี             พุทธรักษ์

๓๒.  นางสาวนันทกาญจน์ ปักษี

๓๓.  นางสาวอลิษา         ทรัพย์สังข์

๓๔.  นางสาวดาราวรรณ   ดีพร้อม

๓๕.  นางสาววิภาวรรณ    นวลทอง

๓๖.  นายวีรยุทธ            อินพะเนา

๓๗.  นางสาวจิระภา        สุมาลี

๓๘.  นายทิฎฐิ              ศรีวิสัย

๓๙.  นายนพรัตน์           สวนปาน

รายชื่อผู้ไม่เข้าร่วมการประชุม ไม่มี

เริ่มประชุม ๑๓. ๐๐ น.

๒. วาระเรื่องแจ้ง

ประธานแจ้งว่า ให้นำเสนอแนวปฏิบัติที่ได้นำไปใช้ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่ข้อสรุปสู่แนวปฏิบัติที่ดี

ดร.ประภาพร มโนรัตน์ ได้นำเสนอแนวปฏิบัติในการดำเนินงานการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับชาติและนานาชาติในการประชุมจัดการความรู้ที่ผ่านมาในวันที่27 ธันวาคม รวม ๙ แนวปฏิบัติเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ และทำการแลกเปลี่ยนเรียนรู้รอบ๒ หลังการนำไปใช้ในวันที่ ๑๗กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ได้ข้อสรุปดังเดิมนำขึ้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขยายผลในWeb Blog ของKM สู่ทั้งองค์กร แล้ว เกิดการนำไปประยุกต์ใช้ในวงกว้าง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับชาติและนานาชาติ

วัตถุประสงค์

๑. เพื่อให้คณาจารย์เกิดการทบทวนองค์ความรู้เกี่ยวกับการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับชาติและนานาชาติจากการประยุกต์ใช้แนวปฏิบัติ9ประการ

๒.เพื่อให้คณาจารย์ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับชาติและนานาชาติจากการประยุกต์ใช้ตามแนวปฏิบัติ9ประการ

๓. เพื่อสร้างข้อสรุปเป็นแนวปฏิบัติที่ดีจากการประยุกต์ใช้แนวปฏิบัติ9ประการ สู่การนำไปประยุกต์ใช้ในปีถัดไป ปีงบประมาณ๒๕๖๑

๔.สำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้มีดังนี้

๑. ดร.ศศิธร ชิดนายี ได้ให้ความเห็นว่า การตีพิมพ์นานาชาติ ต้องปฏิบัติตามข้อคอมเม้นอย่างเคร่งครัดเพรามีประสบการณ์ไม่ทำตามที่วารสารให้ดำเนินการส่งIRBเลยปรับไม่รับผลงาน ต้องเปลี่ยนไปลงวารสารใหม่

๒. ดร.ปฐพร แสงเขียว ได้ให้ความเห็นว่าทำให้เกิดการเริ่มต้นงานตีพิมพ์เผยแพร่ได้ง่ายขึ้นและกำลังดำเนินการระหว่างกระบวนการเขียนเพื่อตีพิมพ์เผยแพร่

๓. ดร.ประภาพร เห็นด้วยและสามารถใช้แนวปฏิบัติดังกล่าวจนได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร

๔ . อ.สืบตระกูล ตันตลานุกูล ให้เน้นเรื่องIRB ต้องผ่านไม่งั้นจะวารสารจะไม่รับตีพิมพ์

๕.อ.อลิษา ทรัพย์สังข์ ให้เน้นการCitationวารสารที่จะตีพิมพ์ด้วยเพื่อเพิ่มImpact factorให้วารสารที่เราจะตีพิมพ์ เขาจะรับของเราสูงถ้าCitationวารสารของเขา

ทุกคนเห็นด้วยกับการใช้แนวปฏิบัติที่สรุปไว้ในการKM ครั้งที่1 ให้เพิ่มเติม 2ข้อคือ ต้องมีการCitationงานของวารสารที่จะนำไปลงตีพิมพ์ จะทำให้ได้ตอบรับตีพิมพ์สูง  และ ต้องผ่านIRB และดังนั้นจึงเสนอแนวปฏิบัตินี้เผยแพร่ต่อไป

สรุปองค์ความรู้ที่ได้รับและนำมาสรุปเป็นแนวปฏิบัติในการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับชาติและนานาชาติ ได้ดังนี้

การตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสารระดับชาติและนานาชาติ

๑.วางแผนการตีพิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ได้รับทุนวิจัย โดยคาดการณ์ว่าจะตีพิมพ์เผยแพร่ระดับชาติหรือนานาชาติในวารสารใด หรือเมื่อต้องการตีพิมพ์ผลงานวิจัยให้เลือกลงวาสารที่ต้องการงานวิจัยประเภทเดียวกับของเรา

๒. ศึกษารูปแบบการเขียนบทความวิจัย/บทความวิชาการตามที่วารสารนั้นๆกำหนด (บทนิพนธ์ต้นฉบับ)

๓. ให้ผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับงานนั้นๆอ่าน วิพากษ์ให้ก่อนเป็นการส่วนตัว (หากมีผู้ยินดีอ่านให้ฟรีและเป็นผู้ใกล้ชิดหรือเครือข่ายงาน) จะได้มุมมองในการปรับเขียนงานให้ดียิ่งขึ้นก่อนส่งบทนิพนธ์ต้นฉบับไปให้บรรณาธิการของวารสารที่ต้องการตีพิมพ์

๔. ให้มีการตรวจสอบหรือปรับการเขียนบทคัดย่อและบทความวิจัยที่เป็นภาษาอังกฤษโดยผู้เชียวชาญก่อน เพื่อให้มีความชัดเจนด้านภาษาอังกฤษถูกต้อง

๕. ทำการส่งบทนิพนธ์ต้นฉบับตามหลักเกณฑ์ ระเบียบของวารสารนั้นๆอย่างเคร่งครัด เช่น ต้องเป็นสมาชิกวารสารก่อน หรือ ส่งต้นฉบับให้ครบทุกชุดและตามเงื่อนไขที่ระบุ

๖. กรณีส่งแล้วและให้ปรับปรุงแก้ไขนั้น ให้รีบดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามที่เสนอแนะ และส่งกลับคืนภายในเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด  และแสดงให้เห็นว่ามีการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะโดยการขีดเส้นใต้หรือใส่แถบสี  ให้ทางวารสารเห็นได้ชัดว่าได้ดำเนินการแล้ว   สำหรับในประเด็นที่ไม่สามารถแก้ได้ให้เขียนชี้แจงไปว่าทำไม่ไม่แก้ไข ติดขัดในประเด็นใด นักวิจัยสามารถอธิบายแนวคิดของตนเองได้

๗. ส่งผลงานตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารได้ครั้งละ1วารสารเท่านั้น หากไม่ได้รับการตอบรับในวารสารฉบับนั้นแล้ว จึงจะสามารถส่งวารสารไปลงยังวารสารอื่นต่อไปได้

๘. นักวิจัยต้องถือปฏิบัติในจริยธรรมของนักวิจัยอย่างเคร่งครัด ได้แก่ ไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่น และไม่ไม่ส่งบทนิพนธ์ต้นฉบับไปหลายๆวารสารในเวลาเดียวกัน

๙. หาแหล่งตีพิมพ์ผลงานในวารสารได้โดยเข้าร่วมประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยในการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติที่มีการคัดเลือกผลงานไปตีพิมพ์ในวารสารด้วย

๑๐. ให้มีการCitationวารสารที่จะนำไปขอตีพิมพ์ จะทำให้โอกาสรับตีพิมพ์สูง

๑๑.ให้งานวิจัยที่ตีพิมพ์ผ่านคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ (IRB)เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของวารสารและได้ตีพิมพ์

…………………………………………………….

ดร.ประภาพร มโนรัตน์

ผู้บันทึกและรับผิดชอบการจัดการความรู้กลุ่มงานวิจัยฯ

๑๖ สิงหาคม  ๒๕๖๐