สรุปผลการถอดบทเรียนการจัดการเรียนรู้ ภาควิชา การพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์
การนำเสนอสรุปผลการจัดการความรู้
ดูการนำเสนอ ที่นี่ —> แนวปฏิบัติ PBL
แนวปฏิบัติ : การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning : กระบวนการการเรียนรู้ โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem ? Based Learning : PBL)
[ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4 : 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559]
แนวปฏิบัติ : การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning : กระบวนการการเรียนรู้ โดยใช้ปัญหา เป็นหลัก (Problem ? based Learning : PBL) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4 ได้พัฒนาขึ้นจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคณาจารย์ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ภายใต้กระบวนการจัดการความรู้ (KM) อย่างต่อเนื่อง ภายหลังการนำไปใช้จริงในการจัดการเรียนการสอน ครั้งที่ 2 รายวิชา การพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 1 เรื่อง การพยาบาลบุคคลที่มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ สำหรับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โดยแนวปฏิบัติ ฉบับปรับปรุง มีรายละเอียด ดังนี้
การจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning คือ กระบวนการหรือรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเองอย่างกระตือรือร้นและใฝ่รู้ ทั้งคิด ทำ ค้นคว้า แก้ปัญหา และสร้างสรรค์การเรียนรู้อย่างอิสระ ฯลฯ โดยผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้ช่วยเหลือเพื่อให้ผู้เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่กำหนดไว้
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem?based Learning : PBL) คือ วิธีการเรียนการสอนที่ใช้ปัญหาหรือสถานการณ์เป็นจุดเริ่มต้นและกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการใฝ่หาความรู้เพื่อแก้ปัญหา ? ? ? ?โดยเน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้ตัดสินใจในสิ่งที่ต้องการแสวงหาและรู้จักการทำงานร่วมกันเป็นทีมภายในกลุ่มผู้เรียนโดยผู้สอนมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องน้อยที่สุด
ขั้นตอนการดำเนินการ
การดำเนินการจัดการเรียนรู้แบบ PBL แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 ? ? เตรียมการ
ขั้นเตรียมการนี้ถือว่าเป็นระยะที่มีความสำคัญ ซึ่งการเตรียมการที่ดีจะช่วยให้การเรียนการสอนแบบ PBL ประสบความสำเร็จ บรรลุตามเป้าหมายและผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ตั้งไว้ ?โดยการเตรียมการที่ต้องกระทำ ภายใต้การมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งของผู้สอน ได้แก่
1.? จัดทำคู่มือการเรียนการสอนแบบ PBL สำหรับครู/ผู้สอน/ผู้อำนวยความสะดวก (facilitator) และผู้เรียน โดยมีหลักการ ดังนี้
1.1 คู่มือการเรียนการสอนแบบ PBL
1) คู่มือสำหรับผู้เรียน ควรประกอบด้วย 1) ขั้นตอนการเรียนรู้แบบ PBL 2) โจทย์ปัญหา/สถานการณ์ (triggers) และ 3) แบบประเมินหรือเครื่องต่างๆ ที่สำหรับประเมินผลการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้รายบท และการเรียนรู้แบบ PBL
2) คู่มือสำหรับครู/ผู้สอน/ผู้อำนวยความสะดวก (facilitator)? ควรประกอบด้วย 1) ขั้นตอนการเรียนรู้แบบ PBL 2) โจทย์ปัญหา/สถานการณ์ (triggers) 3) แบบประเมินหรือเครื่องมือต่างๆ สำหรับประเมินผลการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้รายบท/เนื้อหา และการเรียนรู้แบบ PBL และ 4) เนื้อหาสาระหลัก/ที่จำเป็น สำหรับการอธิบายเชื่อมโยงหรือตอบโจทย์ปัญหา หรือ Triggers นั้นๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สอนทั้งนี้เพราะผู้สอนแต่ละคนมีความความรู้ ความเข้าใจ และลุ่มลึกในเนื้อหาสาระและประสบการณ์แตกต่างกัน ดังนั้น การที่ผู้สอนร่วมกันกำหนดเนื้อหาสาระที่จำเป็นอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และนำกลับไปทบทวนอย่างจริงจัง ย่อมสร้างความเข้าใจในเนื้อหาได้ชัดเจน เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง เมื่อเข้ากลุ่มกับนักศึกษา
1.2 กระบวนการให้ได้มาซึ่งคู่มือการเรียนการสอนแบบ PBLที่มีคุณภาพ ต้องมีจุดเน้นที่สำคัญ คือ กระบวนการจัดทำแบบมีส่วนร่วมของทีมผู้ร่วมสอน ทั้งนี้เพราะการมีส่วนร่วม????????????? จะช่วยสร้างความกระจ่างชัดในการกระทำ หรือเกิดความเข้าใจร่วมกันอย่างชัดแจ้ง มีทิศทาง/เข็มมุ่งเดียวกัน ????????????ทั้งแนวทางการปฏิบัติเชิงระบบและรายละเอียดปลีกย่อยในคู่มือ/การจัดการเรียนการสอนแบบ PBL ??????????????????ซึ่งเชื่อว่าเป็นวิธีทางหนึ่งที่นำครูเข้าสู่ความเชี่ยวชาญมีมาตรฐานในการสอน
2.? สร้างโจทย์ปัญหา/สถานการณ์ (triggers) โดย Triggers ที่ดี ควรมีลักษณะ/คำนึงความครบถ้วน ดังต่อไปนี้
2.1? สร้างมาจากวัตถุประสงค์การเรียนรู้ (objective learning) ที่จำเป็น หรือพิจารณาถึงความครอบคลุมของวัตถุประสงค์การเรียนรู้ สำหรับผู้เรียนของรายวิชานั้นๆ
2.2 ไม่เกินความสามารถด้านประสบการณ์ ความรู้ ทักษะที่เป็นพื้นฐานเดิมของผู้เรียน
2.3? มีความคล้ายคลึงหรือเสมือนจริงตามสถานการณ์ที่ต้องการ
2.4 มีเนื้อหา/เหตุการณ์ที่น่าสนใจ หรือกระตุ้น ดึงดูด หรือรุกเร้า ความสนใจใฝ่รู้ใฝ่เรียน เช่น เป็นเหตุการณ์ที่กำลังได้รับความสนใจในปัจจุบัน เหตุการณ์ร่วมสมัย เป็นต้น
2.5 ควรมีคำถามกระตุ้น (trigger question) เพื่อช่วยให้ tutor ใช้ในการถามกระตุ้นนักศึกษาให้คิดไปตามแนวทางหรือการอภิปรายดำเนินไปสู่วัตถุประสงค์ของโจทย์ปัญหาที่กำหนดไว้
2.6? ตรวจสอบคุณภาพของโจทย์ปัญหา/สถานการณ์ (triggers) โดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อสร้างมาตรฐานของเครื่องมือ สำหรับการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
3. การสร้างสื่อวีดีทัศน์ (VDO) หรือการเลือกใช้สื่อวีดีทัศน์เรื่องการเรียนรู้แบบ PBL ที่เหมาะสม สำหรับนักศึกษาเพื่อการเรียนรู้กระบวนการ ขั้นตอน หรือแนวทางการเรียนรู้แบบ PBL อันจะนำไปสู่การกำหนดบทบาทของตนเอง การเตรียมตนเอง หรือการพัฒนาตนเองสู่เส้นทางการเรียนรู้???????????? ตามกระบวนการ PBL ให้บรรลุผลลัพธ์ของการเรียนรู้ตามที่ตั้งไว้
4.? เตรียมครู/ผู้สอน ดังนี้
4.1 สร้างความเข้าใจในขั้นตอน PBL และบทบาทของครู/ผู้สอนตามเจตนารมณ์ของการเรียนรู้แบบ PBL คือ ครู/ผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้แก่นักศึกษา (facilitator) ดังแนวคิดที่ว่า ?Teach less learn more?
4.2 ฝึกทักษะการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิดอย่างต่อเนื่อง? รอบคอบ ต่อยอด เป็นระบบ
4.3 มีสัดส่วนครูต่อนักศึกษาที่เหมาะสม คือ 1 : 5-12 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ไม่มากหรือน้อยเกินไป
5.? เตรียมผู้เรียน ดังนี้
5.1? วางแผนแบ่งกลุ่มผู้เรียนให้เหมาะสม
1) ได้สัดส่วนครูต่อนักศึกษาที่เหมาะสม คือ 1 : 5-12 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ไม่มากหรือน้อยเกินไป
2) คละเด็กเรียนเก่ง-ปานกลาง-อ่อน ให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
5.2 ฝึกทักษะการอ่านและสรุปความจากเนื้อหาที่อ่าน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่ง และนักศึกษาต้องใช้ตลอดการเรียนรู้แบบ PBL
5.3? ประชุมทีมครูผู้สอนเพื่อสร้างความเข้าใจในขั้นตอนและบทบาทของผู้เรียนตามกระบวนการเรียนรู้แบบ PBL
5.4 สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู่แบบ PBL โดยการเน้นกระบวนการเสริมพลังการเรียนรู้ (Empowerment) แก่นักศึกษา ก่อนเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้แบบ PBL ทั้งนี้เพราะการ Empowerment จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และส่งเสริมให้นักศึกษามีอิสระในการปฏิบัติและเรียนรู้ หรือปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกคุกคามจากการบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ สิ่งที่น่าเบื่อ เป็นสิ่งที่ดึงดูด และน่าสนใจที่เข้าไปเรียนรู้
ขั้นที่2 ? การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (PBL)
ครู/ผู้สอนดำเนินการจัดการเรียนการสอนตามขั้นตอน PBL 3 ระยะ 7 ขั้นตอน ดังนี้
ระยะที่ 1 : เปิดโจทย์ปัญหา ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 ? 5 ของ PBL ดังนี้
Step 1 : ?Clarifying terms and concepts ผู้เรียนทั้งกลุ่มร่วมกันอ่านโจทย์หรือสถานการณ์ทำความเข้าใจกับศัพท์และแนวคิดให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน
Step 2 : ?Identify the problem ผู้เรียนระบุปัญหาของโจทย์หรือสถานการณ์
Step 3 : ?Analyze the problem เรียนวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาความเชื่อมโยงของปัญหา
Step 4 : ?Formulate hypotheses ผู้เรียนตั้งสมมติฐานที่เป็นสาเหตุของปัญหาและจัดลำดับความสำคัญ
Step 5 : ?Formulating learning objective ผู้เรียนตั้งวัตถุประสงค์การเรียนรู้เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหา
ระยะที่ 2 : ศึกษาหาความรู้ เป็นขั้นตอนที่ 6 ของ PBL คือ
Step 6 : ?Collect additional information outside the group ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลนอกกลุ่มโดยต่างคนต่างแยกย้ายกันหาความรู้จากแหล่งวิทยาการต่างๆ ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ตั้งไว้ โดยในขั้นตอนนี้ แม้จะเป็นการให้นักศึกษาได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง แต่ครู/ผู้สอนควรมีบทบาท????????????????? ที่สำคัญ คือ การกำกับและติดตามเพื่อให้นักศึกษาดำเนินการค้นคว้าอย่างเหมาะสม มีทิศทางการ??? หาคำตอบที่ถูกต้อง ตรงประเด็น จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายและน่าเชื่อถือ
ระยะที่ 3: ปิดโจทย์ปัญหาเป็นขั้นตอนที่ 7 ของ PBL คือ
Step 7 : Synthesize and test the newly acquired and identify information generalization and? principles derived from studying? this problem กลุ่มกลับมาพบกันใหม่สังเคราะห์ข้อมูล????????????? ที่ได้มา เพื่อพิสูจน์สมมติฐานและสรุปเป็นหลักการสำหรับการนำไปใช้ต่อไปในอนาคต
ขั้นที่3 ? ประเมินผล ประกอบด้วย
1. ปัจจัยที่จำเป็นต้องพิจารณาประเมิน เพื่อการปรับปรุง/พัฒนากระบวนการเรียนรู้ และควรพิจารณาประเมินให้ครอบคลุม 360 องศา โดยปัจจัยที่จำเป็นต้องพิจารณาประเมิน ประกอบด้วย
1.1 ด้านผู้เรียน อันจะนำไปสู่การบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ที่กำหนดไว้ ดังนี้
1.1.1 การประเมินผลระหว่างการเรียนการสอนเพื่อนำข้อมูลวางแผนพัฒนาผู้เรียนตามกระบวนการ PBL อย่างต่อเนื่อง (formative evaluation)
1.1.2 การประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ (summative evaluation) ตามที่กำหนด เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแบบ PBL ได้แก่ 1) ความรู้ 2) ความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการทำงานเป็นทีม และ 5) ความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
1.2 ด้านครู/ผู้สอน จะมุ่งเน้นการประเมินประสิทธิภาพและคุณภาพของครู/ผู้สอนในบทบาทที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
1.3 ด้านคู่มือการเรียนการสอนแบบ PBL
1.4 โจทย์ปัญหา/สถานการณ์ (Triggers)
2. วิธีการวัดและประเมินผล โดยทีมผู้ร่วมสอนต้องร่วมกำหนดวิธีการวัดและประเมินผลที่สอดคล้องกับรูปแบบ/กระบวนการเรียนรู้แบบ PBL ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยเฉพาะวิธีเชิงคุณภาพ : การสะท้อนคิด (Reflection) จากการมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้แบบ PBL ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการที่ควรนำมาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะรูปแบบการสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน หรือการเขียนการเรียนรู้ ภายใต้คำถามกระตุ้นหรือนำสู่กระบวนการสะท้อนคิด ทั้งนี้ วิธีการประเมินผลแบบการสะท้อนคิดนั้น จะช่วยให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงคุณภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุง/พัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบ PBLและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ผ่านการถ่ายทอดจากตัวผู้เรียนรายบุคคลสู่การรับรู้ของบุคคลอื่น ซึ่งการสะท้อนคิด???????????? ทั้งรูปแบบการเขียนและการพูด จะเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นให้นักศึกษา/อาจารย์/ผู้สอนได้ทบทวนและตระหนักรู้ในความรู้สึก ความคิดของตนเอง ต่อผู้อื่น ต่อเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการตระหนักรู้ดังกล่าว ????????????จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งในความเป็นไปของเหตุการณ์ ความเชื่อมโยงของเหตุการณ์ ระหว่างบุคคลกับสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การพัฒนา/ปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนแบบ PBL ให้มีคุณภาพต่อไป
ผลลัพธ์หลังเรียน PBL
การเรียนรู้ โดยใช้ปัญหาเป็นจุดเริ่มต้น ก่อให้เกิดผลลัพธ์การเรียนรู้ ดังนี้
ดูผลลัพธ์หลังเรียน PBL ที่นี่—>?ผลลัพธ์หลังเรียน PBL
คณาจารย์ประจำภาควิชา
การพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
ผู้ถอดบทเรียน
29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
วิธีการเรียนการสอนที่ใช้ปัญหาเป็นจุดเริ่มต้นนี้เป็นวิธีการที่ดี สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการหาความรู้/ หาคำตอบและเหตุผลเพื่อแก้ปัญหาได้จริง เป็นวิธีการที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้ตัดสินใจในสิ่งที่ต้องการหาความรู้ คำตอบ และส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ดี และมีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยทีมให้ประสบความสำเร็จ
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วม การร่วมมือของทีมผู้สอนในการเตรียมการที่สมบูรณ์แบบเพื่อที่จะทำงานให้บรรลุตามเป้าหมาย และเกิดผลลัพธ์กับผู้เรียนได้ตรงตามที่วางแผนไว้
การจัดการเรียนการสอนแบบ PBL ที่ได้ดำเนินการผ่านไป สิ่งที่สำคัญประการหนึ่งคือ การปฐมนิเทศนักศึกษาให้รู้จักวิธีการเรียน ที่ให้เข้าใจถึงวิธีการเรียนรู้อย่างแท้จริง นักศึกษาต้องเข้าใจวิธีการสืบค้นในแหล่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้งานที่ดี นักศึกษาควรมีความรู้วิธีการทำ mapping เพื่อเชื่อมโยงงานในการสรุปเป็นแก่นของความรู้ ในปีที่ 1 พ.ศ.2557 จัดให้นักศึกษาดูวิดีโอแต่ไม่ได้ให้ลองฝึกทำ ผลคือนักศึกษาไม่ค่อยเข้าใจกระบวนการ ทำให้อาจารย์ผู้สอนใช้เวลามากในการเชื่อมโยง สอนวิธีการทำ mapping ใช้เวลามากกว่าที่กำหนดไว้ตั้งแต่ 100-200% ในปีการศึกษา 2558 การเตรียมให้นักศึกษาดูวิดีทัศน์และลงมือทำจริงๆในโจทย์สั้นๆ ทำให้นักศึกษาทราบปัญหาที่ไม่เข้าใจ และสอบถามอาจารย์ การจัดการเรียนการสอนปีนี้นักศึกษาทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ยังคงมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนบางประการ จึงมีผู้เสนอให้ปรับวิธีการเตรียมนักศึกษาโดยให้ศึกษาวิดีโอก่อนการบรรยายแล้วให้อาจารย์สรุปให้นักศึกษาฟังอีกครั้ง ซึ่งน่าจะต้องมีการพัฒนาต่อไป
PBL เป็นอีกวิธีในการจัดการเรียนการสอนที่ใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้นักศึกษาเกิดการคิดอย่างเป็นระบบ มีวิจารณญาณ ไตร่ตรอง คิดรอบด้านมากขึ้น มีการหาเหตุผลมาสนับสนุนในการหาคำตอบ รู้สึกดีที่นักศึกษาเกิดการเรียนรู้และพยายามหาคำตอบโดยใช้กระบวนการทำงานเป็นทีม มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองและสมาชิกกลุ่ม ครูผู้สอนเป็นผู้ชี้แนะและคอยอำนวยความสะดวก และโดยส่วนตัวเองคิดว่าควรนำวิธีการสอนนี้ไปขยายผลและบูรณาการกับรายวิชาอื่นๆ เพื่อจะได้เกิดความเชื่อมโยง เห็นความสัมพันธ์ในศาสตร์ต่างๆ
อ.วาสนา ครุฑเมือง
PBL เป็นวิธีการศึกษาหรือเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ หรือ ?adult learning approach? เหมาะสำหรับนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาขึ้นไป ดังเช่นนักศึกษาพยาบาล ในการเรียนรู้ด้วยวิธีนี้กนักศึกษาต้องรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายไปศึกษาค้นคว้า ต้องมีภูมิความรู้ระดับหนึ่ง หรือมีประสบการณ์และกล้าแสดงความคิดเห็น การใช้ PBL จึงเป็นกระตุ้นศักยภาพที่มีอยู่ในตัวนักศึกษาแต่ละคนออกมา และทำให้เกิดการพัฒนาศักยภาพด้านการคิด การค้นคว้าด้วยตนเอง และการแสดงออกถึงความคิดและสิ่งที่ได้จากการค้นคว้า ครูจึงเป็นบุคคลสำคัญบุคคลหนึ่งที่จะช่วยให้การดำเนินการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ครูทุกคนได้พยายามพัฒนาการเรียนการสอนอยู่เสมอ คาดว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ
Problem ? based Learning เป็นวิธีการเรียนรู้วิธีหนึ่ง ที่มีรูปแบบการเรียนรู้ โดยการนำปัญหามาเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยให้ผู้เรียนสร้างความรู้ใหม่ จากการใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง เป็นบริบท ของการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์และคิดแก้ปัญหา รวมทั้งได้ความรู้ตามศาสตร์ในสาขาวิชาที่ตนศึกษา ไปพร้อมกันด้วย การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานจึงเป็นผลมาจากกระบวนการทำงานที่ต้องอาศัยความเข้าใจและการแก้ไขปัญหาเป็นหลัก การสอน PBL เป็นเทคนิคการสอน ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เผชิญหน้ากับปัญหาด้วยตนเอง จะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการคิดหลายรูปแบบ เช่น การคิดวิจารณญาณ คิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ
คู่มือสำหรับครู (facilitator) ควรประกอบด้วย ขั้นตอนการเรียนรู้แบบ PBL โจทย์ปัญหา/สถานการณ์ (triggers) แบบประเมินหรือเครื่องมือต่างๆ สำหรับประเมินผลการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้รายบท/เนื้อหา และการเรียนรู้แบบ PBL และ เนื้อหาสาระหลัก/ที่จำเป็น ควรมีการประชุมชี้แจง และทบทวนเพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนการสอนที่เป็นทิศทางเดียวกัน
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานจะสอดคล้องกับแนวคิดการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่(adult learning) ซึ่งผู้เรียนจะกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของตนเอง เรียนรู้เมื่อสิ่งนั้นมีความหมายหรือนำไปใช้ได้ (เนื่องจากโจทย์ปัญหาจะถูกใช้เป็นบริบทของการเรียนรู้)เรียนรู้ในสิ่งที่จำเป็นสำหรับใช้แก้ปัญหามากกว่าจะเรียนเพื่อท่องจำ เรียนรู้ตามความถนัดและศักยภาพของตนเอง และสามารถประเมินตนเองเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้และสิ่งที่เรียนรู้ได้ ซึ่งเหมาะสมกับนักศึกษาพยาบาลเพื่อให้นักศึกษานำไปใช้ในการฝึกปฏิบัติต่อไป
การสร้างสื่อ VDO เป็นเรื่องราว ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนได้มีความรู้สึกร่วม และเหนี่ยวนำสู่การมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ด้วยความเต็มใจ
การจัดการเรียนการสอนแบบ PBL จะประสบผลสำเร็จได้ดีมากน้อยเพียงใดขึ้นกับปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคือสื่อที่ใช้ในการเรียนการสอนที่ต้องมีเพียงพอ ทันสมัย อินเทอร์เน็ตสำหรับใช้ในการค้นคว้าข้อมูลประกอบต้องมีสัญญาณที่แรงพอสำหรับการค้นคว้าและดาว์นโหลดข้อมูลที่ต้องการ ทั้งนี้เพื่อลดการใช้เวลาสำหรับผู้เรียนในการค้นคว้าตอบโจทย์ปัญหาตามที่กำหนดอย่างรวดเร็วและรอบด้าน กว้างขวางและลึกซึ้งพอ
การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานเป้นกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญรูปแบบหนึ่งที่ฝึกกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม/ทีม โดยมีโจทย์ปัญหาเป็นตัวกระตุ้น ดังนั้นในการประเมินผลลัพธ์ควรครอบคลุมประเด็นเกี่ยวกับ ทักษะการคิด ตั้งคำถาม อภิปรายทางวิชาการ การให้เหตุผล การวางแผน ความรับผิดชอบในการทำงานกลุ่ม การสืบค้นจากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย การประมวล วิเคราะห์ ประเมินและตัดสินใจเลือกสาระความรู้จากการสืบค้นที่เกี่ยวข้องและการสังเคราห์ความรู้โดยผู้ประเมินควรประกอบด้วยอาจารย์ประจำกลุ่ม ตัวผู้เรียนที่ต้องประเมินทั้งตนเองและสมาชิกในกลุ่ม
การเรียนการสอนแบบ PBL ในด้านบทบาทและทักษะของครู ครูหรือผู้สอนยังมีบทบาทสาคัญในการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานแต่จะเปลี่ยนไปจากการสอนแบบบรรยาย คือไม่ได้เป็นผู้เอาความรู้มาบอกแต่มีบทบาทที่สาคัญในการออกแบบกิจกรรมและบริหารจัดการให้ผู้เรียนได้ทากิจกรรมการเรียนรู้ตามที่วางแผนไว้ เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และพัฒนาวิธีการเรียนรู้และความสามารถในการแก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้น การเตรียมครูก่อนการเรียนการสอนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนให้การสอนบรรลุตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้โดยการใช้ปัญหาเป็นหลักเป็นวิธีการกระตุ้นการคิดวิเคราะห์ของนักศึกษาและเป็นการส่่งเสริมให้นักศึกษามีการเรียนรู้ด้วยตนเองศึกษาและค้นคว้านอกห้องเรียนมากขึ้นซึ่งเหมาะสมกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
จากการดำเนินการเรียนการสอนโดยใช้ PBLมีข้อคิดที่น่าสนใจเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดังนี้
1. พื้นฐานและความแตกต่างของนักศึกษาแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน Tutor จะทำอย่างไรกับนักศึกษาที่มีความแตกต่างกัน เช่น บางคนพูดน้อย บางคนพูดมาก บทบาทของTutor คือใช้คำถามในการกระตุ้นนักศึกษาที่พูดน้อย หรือโยนคำถามกว้างๆ เช่น นักศึกษาทุกคนคิดอย่างไร
2. บทบาทระหว่างผู้นำกลุ่มกับผู้เป็นสมาชิกกลุ่มมีความเหมาะสมหรือไม่
3. ประสบการณ์เดิมของนักศึกษาแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน เช่น ประสบการณ์ในหอผู้ป่วย กลุ่มที่เคยเจอผู้ป่วยที่คล้ายคลึงกันมาก่อนจะสามารถมองภาพได้ชัดขึ้นแก้ปัญหาได้ดีขึ้น และสามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่พบให้กับเพื่อน และสามารถเชื่อมโยงความรู้เดิมมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนในกลุ่มได้ดี
4. เมื่อนักศึกษาแยกกันไปไปค้นหาข้อมูล แล้วกลับมาอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนในกลุ่ม นักศึกษาใช้วิธีการอ่านจากข้อมูลที่ตนเองหามา แต่เมื่อTutorสุ่มถาม นักศึกษากลับตอบสิ่งที่หาข้อมูลมาไม่ได้ ในกรณีเช่นนี้บทบาทของ Tutor คือควรตั้งคำถามในลักษณะของการนาไปใช้ นักศึกษาที่ตอบไม่ได้ก็จะถามเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน เพื่อให้นักศึกษาสามารถนาความรู้ที่หามาได้ไปประยุกต์ใช้ต่อไปได้
ถ้ามองในแง่ของยุทธศาสตร์การสอนใช้ปัญหาเป็นฐาน PBL เป็นเทคนิคการสอน ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เผชิญหน้ากับปัญหาด้วยตนเอง จะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในการคิดหลายรูปแบบ เช่น การคิดวิจารณญาณ คิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ #อาจารย์สืบตระกูล ตันตลานุกุล
การเรียนการสอนในปัจจุบันเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งหมายถึง ครูไม่ใช่ผู้จัดการทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้เรียนต้องได้ลงมือปฏิบัติเอง สร้างความรู้ที่เกิดจากความเข้าใจของตนเอง และมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้น ซึ่งหมายถึง Active learning ส่วนรูปแบบการเรียนรู้ ที่เกิดจากแนวคิดนี้ มีอยู่หลายอย่าง ได้แก่ การเรียนรู้แบบร่วมมือ เรียกว่า Cooperative learning การเรียนรู้แบบช่วยเหลือกัน เรียนกว่าCollaborative learning การเรียนรู้โดยการค้นคว้าอย่างอิสระ Independent investigation method รวมทั้งการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน Problem-based learning ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนแบบ Active learning เช่นกัน
สิ่งสำคัญในการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ให้มีประสิทธิภาพ เช่น
1. คุณภาพของโจทย์ปัญหา (Case/Scenario) ต้องชัดเจนและกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี
2. บทบาทของครูในกลุ่มย่อย (Tutor/Facilitator) ครูต้องตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ที่เปลี่ยนไป คือบทบาทของครูเปลี่ยนจากผู้ให้ข้อมูลหรือความรู้ (Information Provider/Instructor of Knowledge) มาเป็น ?พี่เลี้ยง? ช่วยสนับสนุนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ (Learning Facilitator)โดยไม่ได้ให้ข้อมูลโดยตรงแต่ช่วยชี้แนะทางอ้อมที่ทำให้ผู้เรียนรู้สึกว่าสามารถเรียนรู้ได้ด้วย ?ตนเอง? จริง ๆ
รูปแบบของการจัดการเรียนการสอนแบบ PBL ต้องมีการพัฒนาทักษะต่างๆ ของทั้งครูและผู้เรียน ครูอาจไม่มั่นใจตนเองในการที่ต้องเป็นครูในวิชาที่ตนไม่ชำนาญ ครูจะต้องได้รับการพัฒนาและฝึกทักษะต่างๆ ของการเป็นครูประจำกลุ่ม จะช่วยให้การเรียนการสอนประสบความสำเร็จมากขึ้น ผู้เรียนก็จะต้องได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานและการเตรียมความพร้อมก่อนการเรียนแบบ PBL
การเรียนรู้แบบ PBL เป็นการเรียนรู้ทีผู้เรียนต้อง active ครูผู้สอนมีความสำคัญมากที่จะกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจที่จะเรียนรู้ โดยเตรียมสถานการณ์ที่ดีที่จะกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจ แล้วยังต้องทำหน้าที่ให้เหมาะสม ไม่ชี้นำผู้เรียนมากหรือน้อยเกินใปเพราะจะทำให้ผู้เรียนไม่อยากเรียนรู้ ต้องกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าอย่างมีทิศทาง ดังนี้นครูผู้สอนจึงมีความสำคัญมาก สำหรับการเรียนรู้แบบ PBL
การจัดการเรียนการสอนแบบ Problem Base Learning เป็นวิธีการศึกษาหรือเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ ทำให้เกิดการพัฒนาศักยภาพด้านการคิด การค้นคว้าด้วยตนเอง และการแสดงออกถึงความคิดและสิ่งที่ได้จากการค้นคว้า ครูจึงเป็นบุคคลสำคัญบุคคลหนึ่งที่จะช่วยให้การดำเนินการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น
การเรียนการสอนแบบ PBL เป็นการเรียนที่สนุกและทำให้ผู้เรียนต้องคิดหาแนวทางการแข้ปัญหาที่เป็นขั้นเป็นตอน มรการสืบค้นข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ ทำให้เด็กเกิดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างเป็นระบบ ครับ
การเรียนการสอนแบบ PBL ควรเตรียม resources ให้พร้อม เพื่อให้นักศึกษาสามารถค้นคว้าและเตรียมตัวเองก่อนการเข้าชั้นเรียนหรือสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากการเข้าชั้นเรียน