วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์

การจัดการความรู้ (Knowledge Management) กลุ่มงานวิชาการ

เรื่อง การจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ ๒๑

…………………………………………………………..

จากการที่กลุ่มงานวิชาการได้ระบุประเด็นการจัดการความรู้ เรื่อง การจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ ๒๑ ตามกระบวนการจัดการความรู้ดังนี้

. การบ่งชี้ความรู้ (Knowledge Identification) โดยกลุ่มงานวิชาการได้กำหนดประเด็นบ่งชี้ความรู้ที่องค์กรจำเป็นต้องมี และวิเคราะห์รูปแบบและแหล่งความรู้ที่มีอยู่ โดยความรู้ที่จำเป็นขององค์กรเป็นเรื่องการจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ ๒๑ เนื่องจากเห็นว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะการเรียนรู้ทันกับกระแสการปรับเปลี่ยนทางสังคมที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ ๒๑ ส่งผลต่อวิถีการดำรงชีพของสังคม ผู้สอนจึงต้องมีความตื่นตัวและเตรียมพร้อมในการจัดการเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนมีทักษะสำหรับการออกไปดำรงชีวิตในโลกในศตวรรษที่ ๒๑ ที่เปลี่ยนไป โดยทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ที่สำคัญที่สุด คือ ทักษะการเรียนรู้ เพื่อผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ และทักษะจำเป็น ซึ่งเป็นผลจากการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ

๒. การสร้างและแสวงหาความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition) จากแหล่งต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ทั้งภายในและภายนอก เพื่อจัดทำเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการ โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับวิทยากร ในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๙

. การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ (Knowledge Organization) เป็นการแบ่งชนิดและประเภทของความรู้ เพื่อจัดทำระบบให้ง่ายและสะดวกต่อการค้นหาและใช้งาน โดยกลุ่มงานวิชาการได้มีการสังเคราะห์ความรู้ เรื่อง การจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ ๒๑ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนรายวิชากลุ่มวิชาชีพพยาบาล กลุ่มวิชาพื้นฐานวิชาชีพ ในบทบาทผู้สอน บทบาทผู้เรียน

. การประมวลและกลั่นกรองความรู้ (Knowledge Codification and Refinement) เป็นการจัดทำรูปแบบและ “ภาษา” ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งองค์กร รวมทั้งเรียบเรียงปรับปรุงเนื้อหาให้ทันสมัย และตรงกับความต้องการ

. การเข้าถึงความรู้ (Knowledge Access) คือ ความสามารถในการเข้าถึงความรู้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ในเวลาที่ต้องการ โดยการพิจารณาว่าเราสามารถนำความรู้มาใช้งานได้ง่ายหรือไม่ หรือทำอย่างไรเพื่อจะให้เข้าถึงความรู้ได้

๖. การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ (Knowledge Sharing) โดยเฉพาะความรู้ในรูปแบบ Tacit Knowledge ที่จะต้องทำให้มีการถ่ายทอดออกมา โดยมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใน web blog KM ของวิทยาลัยฯ

. การเรียนรู้ (Learning) เป็นการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจ ซึ่งเป็นการเรียนรู้โดย

อาจารย์ในวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์มีการแลกเปลี่ยน ในวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ ซึ่งสามารถสรุปแนวปฏิบัติเกี่ยวกับบทบาทและลักษณะครู/ผู้เรียน ในศตวรรษที่ ๒๑ ได้ดังนี้

บทบาทและลักษณะครูในศตวรรษที่ ๒๑

๑.      ครูผู้สอนต้องปรับเปลี่ยนตัวเองสู่การเป็นครูยุคThailand ๔.๐ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็น active learner  โดยอาจใช้แนวคิดการเรียนแบบร่วมมือ เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

๒.      ครูต้องรู้บทบาทและมีคุณลักษณะที่ส่งเสริมและกระตุ้นให้ผู้เรียนแสดงบทบาทที่เหมาะสม และ
ได้เรียนรู้จริง โดยจัดรูปแบบการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้จากการปฏิบัติ เรียนรู้จากชีวิตจริง  มีการให้กำลังใจและกล่าวชื่นชมนักศึกษาเพื่อเสริมพลังบวก

๓.      ครูต้องเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจ เพราะแรงบันดาลใจนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เรียนในยุคปัจจุบันที่จะนำพาไปสู่การเรียนรู้ การคิด การออกแบบ การสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้ดี

๔.      ครูต้องมีการสร้างบรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างรอบด้าน เพื่อให้ผู้เรียน
เกิดความสนใจและรู้สึกผ่อนคลายซึ่งจะส่งผลต่อการรับรู้

๕.      ครูต้องเปลี่ยนจากการสอนไปสู่การเป็น coach จากถ่ายทอดความรู้ไปเป็นผู้อำนวยการสร้างความรู้ เปลี่ยนจากการเป็นผู้รู้เป็นผู้เรียนรู้ และเปลี่ยนจากครูผู้รอบรู้วิชาเป็นผู้กำกับการเรียนรู้ของศิษย์

๖. ครูควรจัดการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบ เพื่อกระตุ้นการคิดและให้นักศึกษาสร้างความรู้ด้วยตนเองได้ เช่น การจัดการเรียนสอนแบบสะท้อนคิด การจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการทางพยาบาลในคิดค้นนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพ การจัดการเรียนการสอนตามสภาพจริง  การจัดการเรียนการสอนที่มีการใช้สื่อ หรือการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนที่เน้นเทคโนโลยีซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเข้าใจและเข้าถึงการเรียนมากขึ้น ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับครูรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล

บทบาทและลักษณะผู้เรียน ในศตวรรษที่ ๒๑

๑.      มีทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)

๒.      เป็นผู้สร้างความรู้ด้วยตนเอง  ซึ่งการที่นักศึกษาจะสามารถสร้างความรู้ได้ นักศึกษาต้องมีความรู้พื้นฐานมากพอสมควร

๓.      ทบทวนประสบการณ์ตนเองและพัฒนาตนเองให้ต่อเนื่อง

อดุลย์ วุฒิจูรีพันธุ์

ผู้สรุปแนวปฏิบัติ