การสังเคราะห์งานวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพ สำหรับครูก่อนเกษียณโดย ดร.อนัญญา คูอาริยะกุล และคณะ
การสังเคราะห์งานวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพ สำหรับครูก่อนเกษียณโดย ดร.อนัญญา? คูอาริยะกุล และคณะ?
จากการสังเคราะห์รายงานการวิจัยเรื่อง ?การพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับครูก่อนเกษียณ? ซึ่งดำเนินการโดย ดร.ประภาพร มโนรัตน์ นับว่า
เป็นงานวิจัยที่น่าสนใจและมีประโยชน์อย่างมากต่อข้าราชการครูก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ ในการเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพของตนเอง? เนื่องจากข้าราชการครู เปรียบเสมือนบัญชีทางทรัพย์สินของประเทศชาติ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์
ที่สังคมจะได้รับประโยชน์เมื่อเกษียณอายุราชการ อีกทั้งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมาก มีการกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย และเป็นที่ยอมรับว่า ครูคือผู้นำการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นข้าราชการครูจึงน่าจะมีบทบาทสำคัญให้สังคมผู้สูงอายุเป็นสังคมแห่งคุณภาพ ซึ่งการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพก่อนที่ครู
จะเกษียณอายุราชการจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ผลการวิจัย ยังทำให้ทีมสุขภาพสามารถนำรูปแบบนี้เป็นแนวทางในการส่งเสริมสุขภาพบุคลากรอื่นๆ ได้อีกด้วย?
????????????? ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยดำเนินการโดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา? ประกอบด้วย 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 ศึกษาพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของครูก่อนเกษียณ โดยศึกษาถึงสภาพพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของครูก่อนเกษียณ (ด้านความรับผิดชอบต่อสุขภาพ การมีกิจกรรมและการออกกำลังกาย โภชนาการ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การพัฒนาทางจิตวิญญาณและการจัดการกับความเครียด)? การศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพครูก่อนเกษียณ (ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ? ทัศนคติต่อพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ การได้รับการสนับสนุนทางสังคม และความต้องการเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพเพื่อการเกษียณอายุ) ซึ่งผลการวิจัยพบว่า ครูก่อนเกษียณมีพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ
โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง?? มีความรู้? ทัศนคติ แรงสนับสนุนทางสังคมและความต้องการการเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพก่อนเกษียณอายุในระดับสูง? แต่การปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพอยู่ในลักษณะขาดความต่อเนื่อง เนื่องจากครูให้ความสำคัญน้อยและคิดว่าทำได้ยาก? ขาดทักษะการบูรณาการพฤติกรรมสุขภาพในชีวิตประจำวัน
ระยะที่ 2 สร้างรูปแบบการส่งเสริมสุขภาพสำหรับครูก่อนเกษียณประกอบด้วย การวิเคราะห์สุขภาพตนเองจากผลกระทบของการสูงอายุและการเกษียณอายุราชการ? (การเรียนรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการสูงอายุและการเกษียณอายุราชการต่อสุขภาพ ?การทบทวนพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพเดิม และ??????????? การวิเคราะห์อันตรายที่จะเกิดกับสุขภาพ)? การประเมินความสามารถตนเองในการปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมผสานพฤติกรรมสุขภาพ (การฝึกประสบการณ์ด้านพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ และการตัดสินใจเลือกวิธีปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ)? การทดลองปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพและการส่งเสริมสุขภาพเข้ากับวิถีชีวิตปกติ (การปฎิบัติตามทางเลือก และการปรับช่องโหว่)????????
ระยะที่ 3 การทดสอบประสิทธิผลของรูปแบบ โดยประเมินจากพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ (ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ)? ภาวะสุขภาพของ
ครูก่อนเกษียณ (ระดับความดันโลหิต อัตราการเต้นของชีพจร ดัชนีมวลกาย) และ
ความพึงพอใจต่อรูปแบบการส่งเสริมสุขภาพของครูก่อนเกษียณ (ความเหมาะสมของรูปแบบและกิจกรรม? ผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ และการนำไปประยุกต์ใช้
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน)
จากผลการพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับครูก่อนเกษียณครั้งนี้ ในส่วนของผลการประเมินรูปแบบ พบว่า เป็นรูปแบบ
ที่เหมาะสมมีประสิทธิผลดีคือ สามารถส่งเสริมให้ครูก่อนเกษียณมีพลังอำนาจในการควบคุมชีวิต ส่งผลให้มีผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดี ได้แก่ ระดับความดันโลหิต? ค่าดัชนีมวลกาย โดยใช้มโนภาพในตัวบุคคลและระบบสนับสนุนทางสังคมเป็นพลังการขับเคลื่อนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ในตัวบุคคล?? ในการพัฒนาความรู้? ทัศนคติและพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของครูก่อนเกษียณอายุ
?
ข้อมูลจากการสังเคราะห์สามารถนำไปเป็นแนวทางในการเตรียมตนเองได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยค่ะ และสามารถนำความรู้ไปเผยแพร่แก่บุคคลอื่นที่รู้จักได้ด้วย
คิดว่าในระยะที่๑ ที่ผลการวิจัยออกมาลักษณะนี้น่าจะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ถ้ามองตามกรอบแนวคิดของ Pender น่าจะเกิดจากปัจจัยการรับรู้อุปสรรค ปัจจัยการรับรู้สมรรถนะแห่งตน หากต้องลงกิจกรรมการพยาบาลในระยะนี้โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่าน่าจะเสริมในปัจจัยดังกล่าวได้ค่ะ และเห็นว่ารูปแบบนี้น่าจะนำไปประยุกต์ใช้ในกลุ่มข้าราชการอื่นๆที่ใกล้เกษียณอายุราชการเพราะบางส่วนยังติดอยู่กับบทบาทหน้าที่ ภาระงานที่ปฏิบัติมานานหลายปี โดยเฉพาะด้านสังคมของผู้สูงอายุ
อ.วาสนา