แนวปฏิบัติที่ดีเรื่อง กระบวนการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบ Didactic Method ที่ใช้เทคนิคการสอนโดยใช้การแสดงละคร เป็นรูปแบบในการจัดการเรียนการสอน
สรุปการถอดบทเรียนการจัดการความรู้
ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์
แนวปฏิบัติที่ดีเรื่อง กระบวนการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบ Didactic Method ที่ใช้เทคนิคการสอนโดยใช้การแสดงละคร เป็นรูปแบบในการจัดการเรียนการสอน
ขั้นเตรียมการ
๑.? มอบหมายคณาจารย์ในภาควิชาฯ ทุกคนทบทวนแนวปฏิบัติที่ดีเรื่อง ?การจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติสำหรับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต? และลักษณะรายวิชาปฏิบัติที่ภาควิชารับผิดชอบได้แก่ปฏิบัติการพยาบาลมารดา ทารกและผดุงครรภ์ ๑ และผลการดำเนินงานที่ผ่านมาทั้งจุดเด่นและอุปสรรคของการจัดกิจกรรมการเรียนในภาคปฏิบัติ เพื่อนำมาเป็นแนวทางและปรับปรุงพัฒนาและประยุกต์ใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
๒. คณาจารย์ในภาควิชาฯ รับฟังการบรรยาย การจัดการความรู้การเรียนการสอนแบบ Didactic Method เรื่องเทคนิคการสอนโดยใช้การแสดงละคร บรรยายโดย คุณชาล สร้อยสุวรรณ และคุณทองแสง ไชยแก้ว จากสำนักกิจกรรมกิ่งก้านใบ ในวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๘ โดยสรุปแนวคิดรวบยอดเกี่ยวกับการเรียนรู้แบบละคร (Drama) ได้ดังนี้
คำนิยาม
เทคนิคการสอนโดยใช้การแสดงคือกระบวนการที่ผู้สอนช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์โดยการให้ผู้เรียนแสดงละคร ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามเนื้อหาและบทละครที่ ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ทำให้เรื่องราวนั้นมีชีวิตขึ้นมาและสามารถทำให้ผู้แสดงและผู้ชมเกิดความเข้าใจและจดจำเรื่องนั้นได้นานทั้งนี้การสอนโดยใช้ละครมีความเชื่อว่า ผู้เรียนทุกคนมีศักยภาพในการเรียนรู้ ละครเป็นงานสัญลักษณ์ที่เน้นการตีความจากสิ่งที่ได้เห็น ได้ยิน ได้รู้สึก ได้สัมผัส และได้ลงมือแสดง ???? หรืออาจอนุมานได้ว่า การสอนโดยใช้การแสดงนั้นมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับการเรียนการสอนแบบPBL (Problem-based Learning)?ซึ่งการเรียนในลักษณะนี้จะเป็นการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน หรือ เป็นการเรียนรู้ที่ใช้ลักษณะของการตั้งปัญหาเป็นประเด็นนำ อันจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการที่จะค้นคว้าหาความรู้มาเพื่อขบคิดแก้ไขปัญหา หรือเรียนรู้จากปัญหาเป็นรูปแบบการเรียนอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และรู้จักการทำงานร่วมกันเป็นทีมของผู้เรียน โดยผู้สอนมีส่วนร่วมน้อยแต่ก็ท้าทายผู้สอนมากที่สุด
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เรียนเห็นภาพเรื่องราวที่ชัดเจนและสามารถจดจำเรื่องราวได้นาน
2. ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอน และฝึกทักษะต่าง ๆ
องค์ประกอบสำคัญ
องค์ประกอบสำคัญ (ที่ขาดไม่ได้) ของเทคนิคการสอนคือ
1. มีผู้สอนและผู้เรียน
2. มีบทละคร คือเรื่องที่มีเนื้อหาและบทพูดกำหนดไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ต้นจนจบ
3. มีการแสดงตามบทบาทที่กำหนด หรือการชมและสังเกตการแสดง
4. มีการอภิปรายเรื่องราวเกี่ยวกับเนื้อหาการของผู้รับบทบาทต่างๆ
5. มีการสรุปการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ได้จากการแดงและชมการแสดง
6. มีผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
กิจกรรมที่ดำเนินการประกอบการบรรยายแลกเปลี่ยนเรียนรู้
- การละลายพฤติกรรมเพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างผู้สอนและผู้เรียน โดยมีกิจกรรมดังนี้ คือ
1.1?? ให้ผู้เข้าร่วมการฟังบรรยายยืนเป็นรูปทรงเลขาคณิตต่างๆ เช่น วงกลม, สี่เหลี่ยม, สามเหลี่ยม
1.2?? ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมออกมาแนะนำตัวพร้อมท่าทางประกอบ
1.3?? ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเดินตามคำสั่ง เช่น เดินเร็ว, เดินช้า, เดินปานกลาง,
1.4?? ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเลียนแบบลักษณะท่าทางการเดินของบุคคลอาชีพต่างๆ เช่น ทหาร, ครู, ชาวนา ฯลฯ
1.5?? ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมบอกข่าวตามอารมณ์ เช่น โกรธ, ดีใจ, เสียใจ
1.6?? ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฝึกสมาธิโดยการจับคู่จ้องตา และเล่นเกมส่องกระจกโดยให้จับคู่กัน คนหนึ่งเป็นกระจก อีกคนหนึ่งเป็นคนส่องโดยที่ทั้งคู่ต้องทำท่าทางเหมือนกัน
- ให้ผู้เข้าร่วมเขียนความต้องการของตนเองลงในกระดาษ จากนั้นให้จับคู่กันแสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกับความต้องการของตนเองคู่ละ 1 นาที เพื่อนำเข้าสู่ทักษะกระบวนการของการสอนโดยใช้ละคร
- สรุป เทคนิคการสร้างละคร ได้แก่ การกำหนดโครงเรื่อง และ แก่นเรื่อง (Theme)
- พูดคุยซักถามข้อสงสัยระหว่างวิทยากรและผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์
สรุปความรู้ที่ได้รับ
ทักษะการทำละครแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ
1.? ทักษะภายในได้แก่ สมาธิ? จินตนาการ และความเชื่อ
2.? ทักษะภายนอก? ได้แก่
-? ร่างกายคือ? กิริยาท่าทางที่แสดงออก
-? เสียงคือ? การเปล่งเสียง, การใช้ภาษาในการสื่อสาร
โครงเรื่อง
เป็นการเล่าเรื่องลำดับเหตุการณ์อย่างมีเหตุผล เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์จะต้องส่งเสริมประเด็นหลักของเรื่องได้ชัดเจน ไม่ให้หลงประเด็น
แก่นเรื่อง(Theme)
คือประเด็นเนื้อหาสำคัญหรือแกนหลักของเรื่องที่จะนำเสนอ? ซึ่งแก่นเรื่องจะเป็นส่วนสำคัญมากในการแสดงละคร
การเขียนบทละคร
การเขียนบทนั้นให้แบ่งเป็นภาพ (ดังแสดงในภาพที่ 1)? ดังต่อไปนี้คือ
ภาพที่ 1? จุดเริ่มต้น (Start) ช่วงของการเปิดเรื่อง แนะนำเรื่องราว ปูเนื้อเรื่อง
ภาพที่ 2? การพัฒนาเรื่อง (Story) การดำเนินเรื่อง ผ่านเหตุการณ์เดียวหรือหลายเหตุการณ์ เนื้อเรื่องจะมีความซับซ้อนมากขึ้น
ภาพที่ 3? จุดสิ้นสุด (Stop) จุดจบของเรื่อง แบ่งออกเป็นแบบสมหวัง ทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจ และแบบผิดหวัง) ทำให้รู้สึกสะเทือนใจ
หมายเหตุ ทั้งนี้ในการเขียนบทละครนั้น อาจมีมากกว่า 3 ภาพ ยกตัวอย่างเช่น ภาพที่? 4 (ต้องทำอย่างไร)? ภาพที่ 5 (ภาพฝัน)
ภาพที่1 แสดงวิธีการสร้างโครงเรื่องละคร
ข้อดีและข้อจำกัดของวิธีสอนโดยใช้การแสดงละคร
ข้อดี
1.? เป็นวิธีสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เห็นสิ่งที่เรียนมีชีวิตขึ้นมา ทำให้การเรียนรู้มีความเป็นจริง และมีความหมายสำหรับผู้เรียน
2.? เป็นวิธีสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างสนุกสนาน มีส่วนร่วมในการเรียนรู้สูง
3.? เป็นวิธีสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะต่าง ๆ จำนวนมาก เช่น ทักษะการพูด การเขียน การแสดงออก การจัดการ การแสวงหาข้อมูลความรู้ และการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม เป็นต้น
ข้อจำกัด
1.? เป็นวิธีสอนที่ใช้เวลามาก ต้องมีการจัดเตรียมบทละคร และการแสดงที่ยุ่งยาก
2.? เป็นวิธีสอนที่ต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย ประกอบการแสดง ซึ่งอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
3.? เป็นวิธีสอนที่ต้องอาศัยการแสวงหาข้อมูลที่ถูกต้องมาใช้ในการเขียนบท หากผู้สอนไม่มีข้อมูลเพียงพอ หรือไม่สามารถแสวงหาข้อมูลที่ต้องการได้ จะทำให้เรื่องราวหรือการแสดงไม่สมบูรณ์
การวัดผลประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้
วัดผลสะท้อนจากการเขียน การตอบคำถาม การแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด และทัศนคติ ฯลฯ
การนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาพยาบาล
เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการแสดง มุ่งที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่แสดง โดยที่การแสดงเป็นวิธีการที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เรื่องราวนั้น ๆ ได้เห็นเป็นภาพและการกระทำจริง ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจและจดจำเรื่องนั้นได้อย่างดีและจดจำได้นาน ดังนั้นละครที่แสดงออกมา จึงควรสะท้อนเรื่องราวความเป็นจริงนั้นให้เห็นชัดและอย่างสร้างสรรค์ แต่อย่างไรก็ตามการสร้างสรรค์นั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและความเป็นจริง
๓. คณาจารย์ในภาควิชา ฯ ร่วมกันออกแบบการเรียนการสอนภาคปฏิบัติโดยจัดทำแบบฟอร์มคำชี้แจงนักศึกษาที่แสดงบทบาทเป็นหญิงตั้งครรภ์รายใหม่? แบบฟอร์มคำชี้แจงนักศึกษาที่แสดงบทบาทเป็นพยาบาลผู้ซักประวัติ ข้อมูลหญิงตั้งครรภ์รายใหม่ และบัตรอนามัยมารดา เพื่อมอบให้นักศึกษาที่ฝึกปฏิบัติที่แผนกฝากครรภ์
๔. ผู้รับผิดชอบรายวิชานำผลการออกแบบการเรียนการสอนร่วมกันของคณาจารย์ในภาควิชาฯ ลงในรายละเอียดประสบการณ์ภาคสนาม (มคอ. ๓) และ Course outline ของรายวิชาอย่างครบถ้วน
ขั้นดำเนินการ
โดยการเตรียมความพร้อมนักศึกษาตามแนวปฏิบัติที่ดีและคณาจารย์ที่สอนภาคปฏิบัติ
วางแผนการดำเนินการสอนแบบละครในวันแรกของการขึ้นฝึกภาคปฏิบัติ ณ แผนกฝากครรภ์ โดยแจกบทบาทให้นักศึกษาทุกคนได้แสดงทั้งบทบาทการเป็นหญิงตั้งครรภ์ และบทบาทการเป็นพยาบาลผู้ซักประวัติ ชุดตั้งครรภ์เสมือนจริง บัตรอนามัยมารดา ภายหลังสิ้นสุดการแสดงในแต่ละบทบาทอาจารย์ตรวจการลงบันทึกข้อมูลในบัตรอนามัยมารดา และตั้งคำถามสะท้อนคิดกับนักศึกษาในการแสดงแต่ละบทบาท
ขั้นสรุปและประเมินผล
การประเมินผลการแสดงบทบาทจากการสะท้อนคิดความรู้สึกที่ได้แสดงบทบาทการเป็นหญิงตั้งครรภ์และพยาบาลผู้ซักประวัติ ความถูกต้องในการลงบันทึกข้อมูลในบัตรอนามัยมารดา
คณาจารย์ประจำภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์
ผู้ถอดบทเรียน
๓๐ มกราคม ๕๘
การได้เข้าร่วมการประชุม แนวปฏิบัติที่ดีเรื่อง กระบวนการเรียนการสอนแบบ Active Learning โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบ Didactic Method ที่ใช้เทคนิคการสอนโดยใช้การแสดงละคร เป็นรูปแบบในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งทำให้ได้เทคนิคในการสอนนักศึกษาเพื่มมากขึ้นเพื่อนำมาปรับใช้ทั่งการสอนในภาคทฤฎีและภาคปฏิบัติ การแสดงละครนั้นจะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ผสมผสานความรู้ร่วมกับอารมณ์ที่จะแสดงออกมาให้ผู้อื่นได้รับทราบ เป็นอีกเทคนิคที่ไม่น่าเบื่อในการสอนนักศึกษา การแสดงละครนั้นไม่ยากอย่างที่คิดอยู่ที่เรากำหนดโจทย์ในการเรียนรู้ว่าผู้สอนต้องการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในเรื่องใด สุดท้ายนี้ก็จะนำเทคนิคการเรียนแบบ Didactic Method ที่ใช้เทคนิคการสอนโดยใช้การแสดงละคร มาปรับใช้ในการเรียนการสอนครั้งต่อไปคะ
วิธีการสอนแบบละคร จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง เป็นการให้นักศึกษาสร้างสรรค์บทบาทในการเป็นพยาบาล หญิงตั้งครรภ์ ทำให้นักศึกษาได้เข้าใจในความรู้สึกและเกิดการเรียนรู้ในบทบาทนั้นๆ นักศึกษาเกิดความเข้าใจและจดจำเรื่องราวหรือเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น
วิธีการสอนโดยใช้การแสดงละคร เป็นวิธีที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน โดยมุ่งให้ผู้เรียนได้เข้าใจเกี่ยวกับสาระสำคัญหรือแก่นของเนื้อหาที่ผู้สอนต้องการจะสื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจ ส่งเสริมทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจและจดจำเนื้อหาได้มากขึ้นและจดจำได้นาน โดยผ่านการมีส่วนร่วมในการแสดงในบทบาทต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกทักษะการพูด การอ่าน และการแสดงออกของผู้เรียน เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสำคัญของเนื้อหา กลุ่มผู้เรียนไม่ควรมีจำนวนมากเกินไป เพื่อให้ผู้สอนสามารถประเมินผู้เรียนได้อย่างทั่วถึงทุกคน และผู้สอนควรมีการสะท้อนคิด สรุปประเด็น และประเมินผลภายหลังส้ินสุดการเรียนการสอน เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาได้มากขึ้น
วิธีการสอนโดยใช้การแสดงละคร เป็นวิธีการสอนที่น่าสนใจ เพราะทำให้เห็นภาพของกิจกรรมต่างๆได้ชัดเจน ช่วยให้นักศึกษามีความเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นและมุมมองของสังคมมากขึ้น ทำให้นักศึกษาสามารถให้ความหมายต่อกิจกรรมหรือการเรียนรู้ที่ผู้สอนต้องการ หลักการจะเหมือนกับบทบาทสมมติ สิ่งที่จะช่วยให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งน่าจะอยู่ในช่วงสรุปการเรียนรู้และให้อภิปรายผล เพราะจะช่วยให้นักศึกษาสะท้อนคิดในตนเองว่าเข้าใจอะไร อย่างไร โดยมีผู้สอนช่วยกระตุ้น
วิธีการสอนโดยการแสดงละครนับเป็นวิธีการสอนที่ทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ มีการสะท้อนความคิด ความรู้สึก จึงทำให้ผู้เรียมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มีความรู้สึกร่วมกับบทเรียน จึงไม่ทำให้ผู้เรียนเบื่อหน่าย ได้เรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นวิธีการสอนที่เข้าถึงผู้เรียนได้อย่างแท้จริงวิธีหนึ่ง
วิธีการสอนโดยการแสดงละครนับเป็นวิธีการสอนที่ทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ มีการสะท้อนความคิด ความรู้สึก จึงทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มีความรู้สึกร่วมกับบทเรียน จึงไม่ทำให้ผู้เรียนรู้สึกเบื่อหน่ายได้เรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นวิธีการสอนที่เข้าถึงผู้เรียนอย่างแท้จริงวิธีหนึ่ง
การจัดการเรียนรู้แบบไดแดคติกโดยใช้เทคนิคสื่อ แบบ”ละคร” อาจเป็นวิดิทัศน์ที่ทำขึ้นแบบง่ายๆ หรือ การแสดงบทบาทสมมุติของผู้เรียน โดยครูกำหนดบทบาทให้ ” โดยมุ่งหวังว่าจะให้เกิดการคิด ชวนให้ผู้เรียนคิดจากประเด็นอันเป็นปมปัญหาของเรื่อง และร่วมกันหาเหตุแห่งปัญหาในหลายๆทางที่อาจเป็นไปได้ ดังนั้นการสร้างบทละครหรือบทบาทสมมุติ จึงต้องสั้นมาประมาณ2-5นาทีก็กำลังพอดี เจาะเอาประเด็นปัญหาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นขัดแย้ง เพื่อจุดประกายค้นหาคำตอบ ดังนั้นผู้สอนจึงต้องออกแบบให้เกิดปม ดังกล่าวจริงๆ และควรใช้ภาษากายเป็นส่วนใหญ่จะกระตุ้นชวนคิดชวนคุยได้ดี
การจัดการเรียนรู้แบบ didactic method ใช้เทคนิคการสอนโดยการแสดงละครโดยกลุ่มผู้เรียนเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ที่น่าสนใจและช่วยให้ผู้เรียนจดจำเข้าใจิเรื่องราวได้ดี ฉะนั้นการกำหนดประเด็นที่เกิดจากการดูละครจะช่วยให้ผู้เรียนฝึกการคิดที่เป็นระบบและเกิดการเชื่อมโยงความรู้จากละครเปรียบเทียบกับตำราได้ และผู้เรียนเองต้องร่วมแสดงความคิดเห็น อภิปรายพร้อมกับฝึกให้ผู้เรียนยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น
การเรียนการสอนแบบ Didactic Method โดยการใช้เทคนิคการสอนโดยใช้การแสดงละคร เหมาะสมในการจัดการเรียนการสอนทางการพยาบาล เพราะนอกจากนักศึกษาจะเกิดการเรียนรู้ตามผลลัพธ์การเรียนรู้รายวิชาแล้ว นักศึกษายังเกิดความเข้าใจถึงความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ของตัวละครในสถานการณ์ที่ตนเองได้รับบทบาทจากการสะท้อนคิดได้อย่างลึกซึ้ง
วิธีการสอน โดยใช้ละคร มาเป็นตัวนำ ในการเรียนรู้ของนักศึกษา เป็นเรื่องที่น่าสนใจ มากกว่าการบรรยาย เพียงอย่างเดียว จากการอบรม เทคนิคการสอนโดยใช้การแสดงละคร บรรยายโดย คุณชาล สร้อยสุวรรณ และคุณทองแสง ไชยแก้ว จากสำนักกิจกรรมกิ่งก้านใบ ทำให้รู้ว่าการทำละคร เพื่อการเรียนรู้ ไม่จำเป็นต้องมีบทละครให้ ที่แต่ละคนต้องท่องจำเหมือนเราเห็นในทีวี และแต่ละคน ก็เล่นตามบทที่ตนเองท่อง ละครเพื่อการเรียนรู้ นั้น อาจเรี่ม ขึ้นจากที่ผู้เล่น ต้องการเสนอความต้องการของตนเอง อาจจะแสดงท่าท่าง หรือสีหน้า แล้วให้นักศึกษา อธิบาย สิ่งที่เกิดขึ้น ว่ามีความหมายว่าอย่างไร ทำให้นักศึกษา เกิดการ ทักษะการพูด การแสดงออก การคิดเชิงเปรียบเทียบ และการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม อาจนำไปใช้แทนการบรรยายกรณีศึกษา แล้วให้นักศึกษาวิเคราะห์
การเรียนการสอนแบบ Didactic Methodทำให้เรื่องราวนั้นมีชีวิตขึ้นมาและสามารถทำให้ผู้แสดงและผู้ชมเกิดความเข้าใจและจดจำเรื่องนั้นได้นานแต่อาจเป็นวิธีสอนที่ใช้เวลามาก ในบทบาทผู้สอนต้องช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์โดยการให้ผู้เรียนแสดงละคร ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามเนื้อหาและบทละครที่ได้ ในระยะเวลาที่สอนด้วยซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนอย่างมาก
การสอนโดยใช้ละครเป็นทักษะที่ต้องอาศัยผู้สอนที่รู้สึกสบายใจที่จะออกแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีนี้ เพราะไม่ใช่ผู้สอนทุกคนที่จะใช้วิธีการสอนดังกล่าวแล้วประสบความสำเร็จ ผู้สอนต้องวิเคราะห์ว่าตนเองใช้วิธีดังกล่าวแล้วเป็น comfort zone _หรือไม่ หากใช่ก็จะทำให้การออกแบบการสอนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา สนุกสนานแต่หากผู้สอนฝืนใช้วิธีดังกล่าวโดยตนเองไม่ถนัด ก็จะทำให้ไม่บรรลุวตป.การเรียนรู้
เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการแสดง มุ่งที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่แสดง ผู้สอนใช้การแสดงเป็นวิธีการที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เรื่องราวนั้น ๆ โดยได้เห็นเป็นภาพและการกระทำจริง ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจและจดจำเรื่องนั้นได้อย่างดีและจดจำได้นาน
การจัดการเรียนการสอนด้วยการแสดงละคร สามารถกระดุ้นการใช้สมองทัี้้งซีกซ้ายและซีกขวา ทำให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองทั้งด้านความรู้ และกระบวนการคิด และฝึกการยอมรับความคิดเห็นที่หลากหลาย มีพฤติกรรมกล้าแสดงออก และพัฒนาบุคลิกภาพผู้เรียนและทำให้เกิดความสนุกสนานในการเรียนด้วยค่ะ
การเรียนการสอนแบบ Didactic Method โดยใช้เทคนิคการแสดงละคร เป็นการเรียนการสอนที่ทำให้ผู้เรียนสามารถจดจำและมองเห็นภาพมากขึ้น เป็นการฝึกสมาธิและจินตนาการของนักศึกษาและสามารถทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
วิธีการสอนโดยใช้การแสดงละคร เป็นการสอนที่น่าสนใจที่ทำให้นักศึกษาได้มองเห็นภาพจากการแสดง และสามารถจดจำรายละเอียดนั้นได้เป็นอย่างดี เปรียบเสมือนการดูละครในทีวีที่นักแสดงได้แสดงบทบาทออกมา ทำให้คนดูสามารถเล่าสู่คนอื่นฟังได้ เหมือนกับได้ดูด้วยตนเอง ซึ่งถ้านักศึกษาได้มองเห็นภาพและจดจำเรื่องราวในเนื้อหาที่เห็น สามารถเข้าใจอย่างไร ทำให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ โดยมีอาจารย์เป็นผู้ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้อีกครั้งหนึ้ง
การสอนโดยการใช้ละคร เป็นกระบวนการที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ โดยการให้ผู้เรียนแสดงละคร ทำให้ทั้งผู้แสดงและผู้ชมเกิดความเข้าใจและจดจำเรื่องนั้นได้นาน นับว่าเป็นการเรียนการสอนที่สนุกอีกวิธีหนึ่งทำให้ผู้เรียนไม่เบื่อกับการเรียน แต่ที่สำคัญผู้สอนจะต้องกำหนดโจทย์ที่ชัดเจน
การสอนโดยการแสดงละคร เป็นรูปแบบที่ทำให้ผู้เรียนจดจำเรื่องราวได้เพราะการแสดงจะผ่านประสาทสัมผัสหลายอย่างตั้้งแต่คิด พูด ได้ยิน มองเห็น เป็นวิธีการที่จะทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้มากขึ้นกว่าการอ่านแบบท่องจำ
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ละครเป็นสื่อถือว่าเป็นการกระตุ้นความคิดในตัวผู้เรียนให้เกิดการตกผลึกความรู้และถ่ายทอดออกเป็นสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์เป็นการจัดการเรียนที่สอนที่ได้ความรู้และได้ความสนุกสนานเพลิพเพลิน ซึ่งการจัดการเรียนการสอนลักษณะนี้เป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้เรียนสามารถจำจดองค์ความรู้โดยผ่านรูปภาพในจิตนาการ ผ่านประสบการณ์หรือสถานการณืที่ตนเองได้กลั่นกรองและถ่ายทอดออกมาด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และจดจำได้ดี
การจัดการเรียนการสอนแบบ Didactic Method โดยการใช้ละครจะช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีการรับรู้ทางการมองเห็น การได้ยิน และการประมวลความคิด ช่วยผู้เรียนให้เกิดภาพการเรียนรู้ภายในตัวบุคคล เห็นสภาพการณ์ที่เสมือนจริง ทำให้เกิดการเรียนรู้แบบมีเป้าหมาย นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเพลิดเพลินและผ่อนคลาย ไม่ติดยึดอยู่กับการสอนที่เน้นเนื้อหา