การเตรียมนักศึกษาเพื่อเป็นพยาบาลวิชาชีพแนวปฏิบัติการเตรียมความพร้อมในการสอบขึ้นทะเบียน
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์
การเตรียมนักศึกษาเพื่อเป็นพยาบาลวิชาชีพ
แนวปฏิบัติการเตรียมความพร้อมในการสอบขึ้นทะเบียน
จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการค้นหาความรู้เพิ่มเติมในด้านการเตรียมนักศึกษาเพื่อเป็นพยาบาลที่ดีงานจัดการความรู้ได้สรุปออกมาเป็นแนวปฏิบัติดังนี้
ขั้นตอนการดำเนินงาน
๑.ปฐมนิเทศให้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ทราบเส้นทางการเรียนการสอนและการก้าวเข้าสู่วิชาชีพพยาบาลตั้งแต่เริ่มต้นเรียน จนสอบประมวลความรู้ความสามารถทางการพยาบาลและการสอบขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
๒.การจัดการเรียนการสอนภาคทฤษฎีใช้การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการกระตุ้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้สรุปเป็นความรู้ของตนเอง เช่น การทำแผนผังความคิดและการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติควรให้นักศึกษาสามารถเชื่อมโยงจากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ (ใช้สรุปแนวทางการปฏิบัติที่ดี (Best Practiceการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติในคลินิก สำหรับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต)
๓. ในระหว่างที่ฝึกปฏิบัติอาจารย์ที่นิเทศภาคปฏิบัติควรสามารถชี้ประเด็นที่สำคัญๆของการฝึกปฏิบัติที่เชื่อมโยงกับทฤษฎีและมีการเน้นย้ำให้นักศึกษามีกระบวนการจัดเก็บความรู้อย่างเป็นระบบ เช่นทำแผนผังความคิดแต่ละโรค หรือการบันทึกย่อสิ่งที่สำคัญสำหรับการฝึกในชั้นปี ๔ ควรมีการจัดให้มีการ Conference โดยเน้นการดูตาม Test Blue Print ของสภาการพยาบาลเพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ครบถ้วน
๔.สร้างขวัญและกำลังใจให้นักศึกษามีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพในแต่ละชั้นปีและบอกถึงเส้นทางความก้าวหน้าของการประกอบวิชาชีพพยาบาลโดยให้รุ่นพี่หรือศิษย์เก่ามีส่วนร่วม
๕.กระตุ้นให้นักศึกษามีความตั้งใจเรียนตั้งแต่ต้น คือ ชั้นปีที่ ๑ เพราะทุกรายวิชาสามารถนำมาเป็นพื้นฐานสำหรับวิชาในชั้นปีสูงๆ และให้แจกTest Blue Print ของสภาการพยาบาลให้กับนักศึกษา
๖. ในตอนปลายของชั้นปีที่ ๓ ควรมีการจัดสอบเพื่อประเมินความรู้ความสามารถทางการพยาบาลของนักศึกษาเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดกลุ่มนักศึกษาเพื่อเตรียมตัวในชั้นปีที่ ๔การแบ่งกลุ่มเพื่อเตรียมทบทวนความรู้ควรแบ่งตามความรู้ที่มีอยู่ทั้งนี้ฝ่ายวิชาการควรมีการอธิบายให้กับนักศึกษาทราบวัตถุประสงค์ของการแบ่งกลุ่มในขั้นนี้การตรวจข้อสอบแบ่งตามหัวข้อเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนักศึกษาและอาจารย์ทราบว่าเด็กแต่ละคนมีจุดบกพร่องด้านใด
๗. ในชั้นปีที่ ๔ การทบทวนความรู้ควรเริ่มจากให้นักศึกษามีการทบทวน Concept สำคัญก่อน โดยนักศึกษาสามารถทบทวนได้โดยการชี้ประเด็นโดยผู้สอนผ่านการประชุมปรึกษาทางการพยาบาล
๘. ในชั้นปีที่ ๔ นักศึกษาจะมีความเครียดมากขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะช่วงที่ใกล้สอบวิทยาลัยควรจัดกิจกรรมในการเสริมสร้างพลังใจให้กับนักศึกษาเป็นระยะพร้อมกับให้นักศึกฯวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของตนเองรวมทั้งหาแนวทางในการกำจัดจุดอ่อน เช่นการจัดให้ออกนอกสถานที่ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างพลังใจ
๙.ในช่วงสุดท้ายการทบทวนความรู้ที่จัดให้ควรมีการแนะแนวเกี่ยวกับเทคนิควิธีการทำข้อสอบแต่ละรายวิชาเนื่องจากพบว่าศิษย์เก่าบอกว่าปัญหาที่สำคัญคือไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับการทำข้อสอบแต่ละรายวิชาอย่างไร
๑๐.ในการทบทวนความรู้ควรให้นักศึกษามีส่วนร่วมโดยสอบถามความคิดเห็นถึงความต้องการการช่วยเหลือต่างๆ
๑๑. ผู้บริหารทุกระดับโดยเฉพาะระดับสูงของวิทยาลัยควรมีบทบาทในการสร้างขวัญและกำลังใจแก่นักศึกษา
๑๒.ใช้มาตรการหรือแนวทางการช่วยเหลือนักศึกษาที่มีปัญหาเรื่องการเรียนอย่างเคร่งครัด หากนักศึกษามีผลการเรียนในรายวิชาไม่เป็นไปตามเกณฑ์ควรดำเนินการตามมาตรการเพื่อเสริมสร้างความรู้ของนักศึกษาอย่างเคร่งครัดจนกว่าผลที่ออกมาจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
ซึ่งการจัดทำแนวปฏิบัติดังกล่าวต้องการการยืนยันถึงประสิทธิภาพของการนำแนวปฏิบัติไปใช้และต้องการเพิ่มเติมรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนหากภาควิชาใดนำไปปฏิบัติแล้วและมีข้อเสนอแนะ ช่วยเสนอให้ทราบเพื่อเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์
ศศิธร ชิดนายี
หัวหน้างานวิจัย การจัดการความรู้และวิเทศสัมพันธ์
สำหรับนศ.ปี4 ที่กำลังเตรียมสอบ อ.ควรให้คำแนะนำในการฝึกการคิดวิเคราะห์ของโจทย์ให้มากที่สุด เนื่องจากนศ.ส่วนใหญ่จะรวมรวบข้อสอบและใช้วิธีการจำคำตอบ เมื่อนศ.พบโจทย์ที่มีการเปลีย่นแปลงสถานการณ์ นศ.จะไม่สามารถวิเคราะห์ได้ ซึ่งข้อสอบส่วนใหญ่จะเน้นการนำไปใช้และการวิเคราะห์
การเตรียมความพร้อมที่ดีควรจัดการกระตุ้นในทุกชั้นปี และควรทำเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง ไมควรทำเฉพาะในชั้นปีที่ 4 เพราะจะทำให้เกิดความเครียดแก่นักศึกษามากเกินไป และควรกระตุ้นทั้งด้านวิชาการ และให้กำลังใจแก่นักศึกษาด้วย
แนวปฏิบัติการเตรียมความพร้อมในการสอบขึ้นทะเบียนนั้นถึงแม้ว่ามีความสำคัญ แต่ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าคือการนำหลักการ แนวคิด ทางทฤษฎีไปปฏิบัติกับสถานการณ์จริงได้อย่างเหมาะสม เพราะแม้ว่านักศึกษาที่สามารถสอบขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับใบประกอบวิชาชีพผ่านทุกรายวิชาก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นนักปฏิบัติการมืออาชีพได้ถ้าขาดการคิดวิเคราะห์และเชื่อมโยงจากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ