การสังเคราะห์งานวิจัย เรื่อง การเรียนแบบทีม: ผลสัมฤทธิ์ การคิดวิจารณญาณ และทักษะการแก้ปัญหาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ ดร.อนัญญา คูอาริยะกุล และคณะ
การสังเคราะห์งานวิจัย เรื่อง การเรียนแบบทีม: ผลสัมฤทธิ์ การคิดวิจารณญาณ และทักษะการแก้ปัญหาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ ดร.อนัญญา? คูอาริยะกุล และคณะ
จากการสังเคราะห์งานวิจัยเรื่อง ?การเรียนแบบทีม: ผลสัมฤทธิ์ การคิดวิจารณญาณและทักษะการแก้ปัญหาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ?? ซึ่งดำเนินการโดย นางศศิธร ชิดนายี และนายภราดร ล้อธรรมมา นับว่าเป็นงานวิจัย
ที่ประโยชน์อย่างมากต่อการจัดการเรียนการสอนทางการพยาบาล เนื่องจากในวิชาชีพการพยาบาล เนื้อหาที่นักศึกษาจำเป็นต้องรู้ในแต่ละรายวิชามีจำนวนมาก ในขณะที่เวลามีจำกัด ครูต้องการถ่ายทอดให้ครอบคลุม เพราะต้องเกี่ยวข้องกับการสอบ
ขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของผู้สำเร็จการศึกษาและบุคคลเหล่านี้จะต้องออกไปให้การดูแลสุขภาพประชาชนต่อไป? ดังนั้นในการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาการพยาบาลโดยทั่วไปส่วนใหญ่จะยังคงเน้นใช้การบรรยายเป็นหลักถึงแม้ว่าจะมีความพยายามในการนำวิธีการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการอื่นๆ มาใช้
แต่ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญคือ จำนวนอัตราส่วนของอาจารย์ต่อนักศึกษามีมาก
ทำให้การเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการกลุ่มเล็กทำได้ยาก ซึ่งจากการทบทวนวรรณกรรมของผู้วิจัย พบว่า การจัดการเรียนการสอนแบบทีมสามารถช่วยลดปัญหาจำนวนผู้สอนที่มีจำนวนน้อยได้ ?โดยมีการแบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มย่อยประมาณ 5-7 คนต่อกลุ่ม ?สมาชิกกลุ่มจะมีความรับผิดชอบร่วมกันในงานของตนเองและงานกลุ่ม ผู้เรียนจะมีการอ่านเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเรียน และในขณะที่มีการทำกลุ่มทุกคน
จะแสดงความคิดเห็นตามที่อ่านทบทวนมาเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ตนเองอ่านมานั้นมีความเข้าใจอย่างไร การที่ผู้เรียนมีความรับผิดชอบอ่านมาล่วงหน้าจะช่วยให้กลุ่มหรือทีมสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างราบรื่น สมาชิกแต่ละคนในทีมจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ซึ่งกันและกัน มีการประเมินและให้กำลังใจจากสมาชิกทีม ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์
ที่เหนียวแน่นและยั่งยืนและเกิดสมรรถนะในการทำงานเป็นทีม นอกจากนี้การเรียน
การสอนแบบทีมยังช่วยส่งเสริมทำให้เกิดคุณภาพของผู้เรียน ดังนี้ 1) พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา 2) ลดเวลาในการบรรยาย 3) ทำให้เกิดความมั่นใจว่าผู้เรียนมีการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน 4) ทำให้เกิดการเรียนการสอนที่มีความกระตือรือร้น 5) ส่งเสริมการทำงานแบบทีม 6) สนับสนุนพัฒนาการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลและทักษะการแก้ไขความขัดแย้ง 7) พัฒนาทักษะการรู้คิดของผู้เรียนในห้องเรียนขนาดใหญ่ให้มีระดับระดับสูงขึ้น เป็นการช่วยเหลือทางสังคมสำหรับผู้เรียนที่มีความเสี่ยง และ 9) เป็นการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมความคิดอย่างมีวิจารณญาณ? รวมถึงผลด้านบวกของการเรียนแบบทีม คือ การทำงานแบบทีมช่วยทำให้เกิดการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน การทำงานเป็นทีมทำให้ได้คำตอบที่ถูกต้องมากกว่าการทำงานโดยคนเดียว เกิดความรู้ความเข้าใจในปัญหาและเห็นความแตกต่าง คุณค่าของการอภิปรายกันคือ การที่มีการรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน ตรวจสอบเหตุผลของตนเองให้มีน้ำหนักมากขึ้น และช่วยทำให้มีความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนมากขึ้น และการให้เหตุผลระหว่างกลุ่มทำให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับเหตุผลมากขึ้น ?
??????????? สำหรับการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ทดลองใช้การเรียนแบบทีมกับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 1? ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 83 ราย และดำเนินการขณะเรียนในบทการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่และสูงอายุที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร โดยมีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้
??????????? 1. ในชั่วโมงแรกของการเปิดการเรียนวิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 1 ผู้สอนจะชี้แจงวัตถุประสงค์ของการเรียนแบบทีม เป้าหมายของการเรียน เกณฑ์การจัดตั้งกลุ่มการเรียน ระบบการให้คะแนน และแจกคู่มือการเรียนแบบทีม พร้อมกับให้นักศึกษาประเมินการคิดแบบมีวิจารณญาณตามแบบของสถาบันพระบรมราชชนก โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
2. จัดกลุ่มนักศึกษาโดยแบ่งจากเกรดเฉลี่ยสะสมของชั้นปีที่ 1 ให้นักศึกษาที่มีผลการเรียนสูงสุดเรียงลำดับลงมาจัดจำนวน 5 คนต่อกลุ่ม จะได้จำนวนกลุ่ม 16 กลุ่ม ดังนั้นในแต่ละกลุ่มจะมีนักศึกษาที่มีผลการเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อนอย่างละเท่าๆกัน??
3. ก่อนการเรียน 2 สัปดาห์ผู้สอนได้แจกเอกสารประกอบการสอนในหน่วยการเรียน พร้อมกับเน้นย้ำให้นักศึกษาค้นคว้าตามรายหัวข้อมาล่วงหน้าก่อนเข้าชั้นเรียน
??????????????????????? 4. กิจกรรมแรกในห้องเรียนของการสอน คือ การสอบรายบุคคลเพื่อเป็นการวัดความรับผิดชอบในการค้นคว้าและความพร้อมในการเรียน โดยใช้แบบทดสอบปรนัย จำนวน 4 ตัวเลือก จำนวน? 15 ข้อ กำหนดให้ระยะเวลาในการทำแบบทดสอบ 1 ข้อต่อ 1 นาที รวม 20 นาที
??????????????????????? 5. ภายหลังนักศึกษาทำแบบทดสอบปรนัยรายบุคคลเสร็จ และส่งคำตอบแล้ว? ให้นักศึกษาเข้ากลุ่มย่อยเพื่อร่วมกันทำแบบทดสอบฉบับเดิมซ้ำโดยทำเป็นกลุ่ม ?สมาชิกจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ที่ตนเตรียมมาก่อนเข้าเรียน การทำแบบทดสอบจะต้องมีการวิเคราะห์และอธิบายเหตุผลของการเลือกและไม่เลือกแต่ละตัวเลือก สมาชิกทุกคนต้องเห็นชอบกับคำตอบของแต่ละคำถาม ใช้เวลาร้อยละ 50 ของจำนวนชั่วโมงในแต่ละหัวข้อ? ประมาณ 3 ชั่วโมง
6. กลุ่มทำแบบทดสอบเสร็จและส่งคำตอบอาจารย์ตรวจให้คะแนนทันที แต่ละทีมจะทราบคำตอบที่ทีมตอบมาว่าถูกหรือผิด และประกาศให้ทราบ และประกาศคะแนนรายบุคคลให้ทราบ
??????????????????????? 7. นักศึกษาจะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างทีมโดยมีการอภิปรายเกี่ยวกับ
ข้อคำถามและคำตอบของแบบทดสอบในแต่ละข้อ โดยเฉพาะข้อที่มีความแตกต่างกัน
หากพบว่าไม่สามารถสรุปความถูกต้องหรือเหตุผลที่มีไม่ครบถ้วนผู้สอนจะมีอธิบายและขยายความเพิ่มเติม ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
??????????????????????? 8. ภายหลังการอภิปรายระหว่างทีม ผู้สอนให้แบบทดสอบเป็นสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนเพื่อนักศึกษาประยุกต์ใช้แนวคิดกับสถานการณ์เน้นการแก้ปัญหาตามสถานการณ์ จำนวน 18 ข้อ และมีการแลกเปลี่ยนภายในกลุ่มและระหว่างทีม ใช้เวลา
ในการอภิปรายภายในทีม 60 นาที และระหว่างทีม? 2 ชั่วโมง
??????????? ??????????? 9. ภายหลังสิ้นสุดแต่ละหน่วยการเรียน มีการสรุปบทเรียนเพื่อนำไปปรับใช้กับหน่วยการเรียนต่อไป
10. ชั่วโมงสุดท้ายของการเรียนรายวิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 1 ให้นักศึกษาตอบแบบสอบสอบถามความพึงพอใจในการเรียนแบบทีม และให้ประเมินการคิดแบบมีวิจารณญาณโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
??????????????????????? 11. เมื่อได้รับแบบสอบถามคืน ผู้สอนได้นำแบบสอบถามตรวจสอบความสมบูรณ์ของการตอบแบบสอบถาม ก่อนนำไปวิเคราะห์ทางสถิติต่อไป
ซึ่งผลจากการวิจัยสามารถตอบวัตถุประสงค์การวิจัยดังนี้
1. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของการเรียนการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพระบบทางเดินอาหาร วิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 1 ก่อนและหลังใช้การเรียนแบบทีม พบว่า คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบทีม ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 หลังการเรียนสูงกว่าก่อนการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (p<.05)
2. เปรียบเทียบความคิดวิจารณญาณของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ก่อนและหลังการเรียนการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพระบบทางเดินอาหารศึกษา พบว่าคะแนนเฉลี่ยความความคิดอย่างมีวิจารณญาณก่อนและหลังการเรียนแบบทีมโดยรวม ไม่มีความแตกต่างกัน แต่ด้านที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 ได้แก่ การลงข้อสรุป ด้านที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ได้แก่ การระบุประเด็นปัญหา
3. ทักษะการแก้ปัญหาของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ภายหลังการเรียนโดยใช้การเรียนแบบทีม พบว่า นักศึกษามีทักษะการแก้ปัญหาภายหลังการเรียนแบบทีมอยู่ในระดับปานกลางมีจำนวนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 63.86
จากผลการสังเคราะห์งานวิจัยครั้งนี้ จะพบว่า การเรียนแบบทีมสามารถช่วยให้นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น นักศึกษามีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการลงข้อสรุป และการระบุประเด็นปัญหา นอกจากนี้ยังพบว่า
การเรียนแบบทีมยังทำให้เกิดคุณภาพทางการเรียนกับผู้เรียนอีกด้วย? ซึ่งนักศึกษา
ส่วนใหญ่ประเมินการเรียนแบบทีมว่า การเรียนในขั้นตอนการประยุกต์ใช้มีประโยชน์ต่อนักศึกษามาก เพราะทำให้มีการคิดวิเคราะห์ที่กว้างขวางมากขึ้น ทำให้สามารถเชื่อมโยงประเด็นต่างๆ ได้ และมีความเข้าใจต่อการเรียนมากขึ้น และช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในการเรียนวิชาชีพพยาบาล เพราะเป็นวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ ดังนั้นจึงควรมีการนำการเรียนแบบทีม
ไปใช้ในระยะเวลาที่เหมาะสม เช่น จัดการเรียนการสอนทั้งภาคการศึกษา ทั้งรายวิชา โดยปรับกระบวนการสอนแบบทีมในการให้ความรู้หัวข้อที่สอน อาจสรุปภาพรวมทั้งหมดอีกครั้ง หรือมีการสร้างสื่อการเรียนรู้เพื่อให้นักศึกษาได้ศึกษานอกเวลาเรียนร่วมด้วย
?
คิดว่าเป็นทางเลือกของรูปแบบหนึ่งในการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ อย่างก็ตาม แม้รูปแบบหรือ design จะดี ถ้าครู/ผู้สอนมีพฤติกรรมที่คุกคามต่อผูู้เรียนไม่ว่าจะกรนีใดๆ อาทิเช่น การดุ ตำหนิผู้เรียนต่อหน้าผู้อื่น การแสดงกิริยา/สีหน้า ท่าทาง ที่สะท้อนถึงความไม่พอใจ รำคาญ ตำหนิ เป็นต้น จะทำให้ผู้เรียนพยายามจะหลีกหนีการเรียนรู้ ด้วยวิธีต่างๆ ได้ เช่น เงียบ ไม่มีส่วนร่วมในกิจกรรมเท่าที่ควร พยายามหาวิธีเลี่ยงจากห้อง/กิจกรรมที่ดำเนินอยู่ ส่งผลให้ขาดประสบการณ์การเรียนรู้ทควรได้รับได้
การจัดการเรียนการสอนแบบทีมถือว่าเป็นวิธีการสอนอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้การเรียนแบบเป็นกลุ่ม รู้จักบทบาทหน้าที่ในการเป็นผู้นำและผู้ตามมที่เหมาะสม รู้จักความเสียสละและความเห็นออกเห็นใจ วึ่งจะเพิ่มคุณธรรมจริยธรรมกับตัวนักศึกษาเองเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการกระตุ้นให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นอาจารย์ผู้สอนสามารถนำวิธีการมาปรับปรุงและนำมาจัดการเรียนการสอนในรายวิชาอื่นได้ตามความเหมาะสมเพื่อเป็นการพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป
กระบวนการเรียนแบบทีมเน้นให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ และพัฒนาความรู้ได้ด้วยตนเอง และได้มีการช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ มีการจัดกิจกรรมและกระบวนการให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าความรู้ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ได้มากขึ้น และเกิดกระบวนการคิดรวมถึงประเด็นความรู้ใหม่ๆขึ้นด้วยตนเอง ไม่ได้เรียนรู้จากการท่องจำที่จำกัดอยู่ในตำราเพียงเท่านั้น แต่เรียนรู้ได้อย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ความรู้อยู่กับตัวผู้เรียนได้ถาวร คือไม่ลืมความรู้เหมือนเช่นกับการเรียนรู้จากการท่องจำ แต่เป็นการเพิ่มและพัฒนาศักยภาพของความใส่ใจและแรงผลักดันของผู้เรียน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ดี และมีประโยชน์ต่อผู้เรียนเป็นอย่างยิ่ง
การเรียนแบบทีม เป็นกระบวนการศึกษาที่สามารถกระตุ้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะการแก้ปัญหา เหมาะสำหรับรายวิชาทางการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ เพราะทำให้นักศึกษาได้แลกเปลี่ยนพูดคุยแสดงความคิดเห็น ทำให้เกิดมุมมองการมองปัญหาลักษณะเป็นองค์รวม เกิดกระบวนการแก้ไขอย่างเป็นขั้นตอน และมีหลักวิชาการทางการพยาบาลสนับสนุน
เป็นงานวิจัยที่ทำให้เห็นความสำคัญของการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนในการทำงานเป็นทีม การคิดอย่างมีวิจารณญาณ รวมทั้งการคำนึงถึงความสุขของผู้เรียน ดังที่เห็นความสำเร็จในระดับหนึ่งของงานวิจัยโดจากข้อจำกัดโดยเฉพาะด้านระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์ซึ่งสั้นเกินไปในการประเมินด้านการคิดแบบมีวิจารณญาณ ดังนั้นหากมีการขยายระยะเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น จะทำให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้เพื่อให้เกิดทักษะการคิดแบบมีวิจารณญาณ
เป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ดีมาก ๆ เลยครับ ทำให้นักศึกษามีการเตรียมความพร้อมและสร้างความเชื่อมั่นให้ตนเอง ก่อนที่จะไปสู่การปฎิบัติจริง เป็นการสร้างสมรรถนะผู้เรียนในการทำงานเป็นทีมและความรู้ไปด้วย ทำให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยความสนใจและกระตือรือร้น แต่ระยะเวลาในการทำวิจัยครั้งนี้ ระยะเวลาน่าจะสักประมาณ 4 สัปดาห์คงจะทำให้นักศึกษาได้พัฒนาศักยภาพของตนเองมากกว่านี้ครับ และทำให้นักศึกษาได้เกิดกระบวนการการเรียนรู้ที่ดีมาก ๆ อีกด้วย
อยากให้อาจารย์จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับอาจารย์ท่านอื่นๆในวิทยาลัย น่าจะช่วยกระตุ้นบรรยาการให้มีบรรยากาศทางวิชาการดีนะคะ
เป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่น่าจะนำมาเล่าสู่กันฟังอย่างแพร่หลายให้กับคณาจารย์ในวิทยาลัยได้รับฟังเพื่อเป็นทางเลือก และเห็นว่าควรขยายผลไปสู่การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างเทคนิคและวิธีการสอนให้กับอาจารย์ค่ะ
อ.วาสนา
การเรียนแบบทีม เป็นสิ่งที่ดีมากคะ ทำให้นักศึกษามีความคิดอย่างมีวิจารณญาณเพิ่มขึ้น
แต่ก็อาจมีข้อจำกัดในการจัดการเรียนการสอน เช่น จำนวนอาจารย์ไม่เพียงพอ ประสบการณ์ของอาจารย์แต่ละท่านแตกต่างกัน