รายงานการประชุมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง Simulation Based Learning : SBL
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์
รายงานการประชุมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง Simulation Based Learning : SBL
วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๓๐ น.
ณ ห้องประชุมศูนย์การเรียนรู้ทางการพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์
รายนามผู้เข้าประชุม
๑. นายสืบตระกูล ตันตลานุกูล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
๒. นางสาวสุปราณี หมื่นยา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
๓. นายภราดร ล้อธรรมมา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
๔. นายทิฐิ ศรีวิสัย พยาบาลวิชาชีพ (พกส.)
๕. นางสายฝน วรรณขาว พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
ผู้เข้าร่วมการประชุม คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
เปิดประชุมเวลา ๑๓.๐๐ น.
ประธานการประชุม นายสืบตระกูล ตันตลานุกูล
วาระที่ ๑ เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
๑. สรุปสาระสำคัญจากการประชุมโครงการการจัดการความรู้ด้านการจัดการเรียนการสอนโดยการใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง (Simulation Based Learning : SBL) ของวิทยาลัยเครือข่ายภาคเหนือ ในวันที่ ๒๖ – ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ มีรายละเอียดดังนี้
๑.๑ ความสำคัญและความเป็นมาของการจัดการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง
ความสำคัญของการจัดการเรียนการสอนด้วยการใช้สถานการณ์เสมือนจริง (SBL) นั้น เนื่องจากใน ปี ค.ศ. 1920 มีการสร้างสถานการณ์เพื่อจำลองสถานการณ์ ในการฝึกฝนนักเรียนหลักสูตรการบิน และในช่วงปี ค.ศ. 1950จึงมีการนำแนวคิดนี้นำมาประยุกต์ใช้ในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพเพื่อใช้ในการฝึกฝนทักษะในการปฏิบัติงาน และต่อมาในปี ค.ศ. 1980 แนวคิดนี้จึงได้รับการพัฒนามากขึ้น เช่น การประดิษฐ์หุ่นคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการฝึกทักษะ การดูแลระบบทางเดินหายใจและการช่วยฟื้นคืนชีพ ซึ่งการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีนี้ สามารถเพิ่มสมรรถนะ (self-efficacy) ทางคลินิกของนักศึกษาในการดูแลผู้ป่วยเสมือนจริงในสถานการณ์จำลองต่างๆอย่างถูกวิธีภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย สามารถช่วยลดความวิตกกังวลของนักศึกษาก่อนการลงมือปฏิบัติงานจริงในหอผู้ป่วยได้
๑.๒. การเตรียมการจัดการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง
ขั้นตอนของการเตรียมการ หรือ Preparing process เป็นการเตรียมความพร้อมในด้านอาจารย์ผู้สอน ผู้เรียน ทีมสนับสนุน สื่อวัสดุ/อุปกรณ์เครื่องมือและเวชภัณฑ์ ให้สอดคล้องในการจัดการเรียนรู้ ดังนี้
๑.๒.๑ ผู้สอน (Facilitator)
ผู้สอน หมายถึง ผู้ที่มีความรู้ ประสบการณ์ในศาสตร์สาขาที่จัดการเรียนการสอน และมีทักษะการจัดการ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การสื่อสาร โดยผู้สอนจะควบคุมสถานการณ์ในการฝึกปฏิบัติ และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ของผู้เรียนในสถานการณ์จำลอง โดยผู้สอนต้องเตรียม ดังนี้
๑) ผู้สอนมีบทบาทในการพิจารณาวัตถุประสงค์การเรียน จากความต้องการจำเป็นพื้นฐาน เอกสารหลักสูตร สมรรถนะ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ แล้วนำผลการวิเคราะห์มาใช้ในการจัดกิจกรรมการสอน และออกแบบการจัดการเรียนรู้ด้วย SBL และวางแผนจัดตารางหมุนเวียนกิจกรรมของผู้เรียนในแต่ละกลุ่มให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์
๒) ผู้สอนต้องเลือกใช้สถานการณ์จำลอง หรือสร้างสถานการณ์จำลองใหม่ให้มีความเสมือนจริงให้มากที่สุดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเนื้อหาการเรียนรู้ rพร้อมทั้งเขียนข้อมูลในโปรแกรมควบคุมหุ่น
๓) ผู้สอนต้องพิจารณาเลือกหรือสร้างแบบประเมินผลการเรียนรู้
๔) ผู้สอนต้องเตรียมการชี้แจง/อธิบายกระบวนการดำเนินการสอนแก่ผู้เรียน บทบาทหน้าที่ของผู้เรียน ได้แก่ ผู้ดำเนินสถานการณ์ในห้องเรียนสถานการณ์จำลองและผู้สังเกตการณ์ รวมถึงการบอกวัตถุประสงค์และหัวข้อการเรียนรู้ด้วยสถานการณ์จำลอง
๑.๒.๒ ผู้เรียน (Student)
ผู้เรียน หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จำลอง โดยผู้เรียนมีบทบาทหน้าที่ในการศึกษาวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของรายวิชาที่ศึกษา แบ่งกลุ่มปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
๑.๒.๓ ทีมสนับสนุน (facilitator assistant)
ทีมสนับสนุน หมายถึง ผู้ที่ช่วยผู้สอนในการจัดเตรียมสถานการณ์ วัสดุอุปกรณ์ สถานที่ในการฝึกปฏิบัติสถานการณ์จำลอง โดยทีมนี้จะมีบทบาทในการช่วยในการจัดเตรียมและตกแต่งหุ่นจำลองให้เสมือนจริงมากที่สุด จัดสถานที่ สิ่งแวดล้อมให้เสมือนจริงมากที่สุดตามสถานการณ์ รวมถึงการช่วยผู้สอนนำข้อมูลจากสถานการณ์จำลองลงโปรแกรมควบคุมหุ่นจัดเตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ ให้สอดคล้องตามสถานการณ์ และมีความพร้อมใช้งาน
๑.๒.๔ การเตรียม สื่อวัสดุ/อุปกรณ์เครื่องมือ และเวชภัณฑ์
การจัดการเรียนรู้โดยสถานการณ์จำลอง จะต้องเตรียมความพร้อม ดังนี้
1). หุ่นมนุษย์จำลอง เป็นหุ่นที่มีสมรรถนะสูงที่สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จำลองได้
2). Computer, Internet และ Monitor เป็นเครื่องมือในการควบคุมหุ่นมนุษย์จำลองให้เป็นไปตามสถานการณ์จำลองที่กำหนด และจอ Monitor สำหรับการแสดงข้อมูลของหุ่นมนุษย์จำลอง เพื่อให้ผู้เรียนอ่าน แปลผลและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย
3). อุปกรณ์ วัสดุและครุภัณฑ์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินสภาพและดูแลรักษาผู้ป่วย เช่น อุปกรณ์เปิดทางเดินหายใจ อุปกรณ์ใส่ท่อช่วยหายใจ อุปกรณ์ดูแลการหายใจ อุปกรณ์ช่วยหายใจขั้นสูง อุปกรณ์ดูแลระบบไหลเวียนและกระตุ้นหัวใจ อุปกรณ์ห้ามเลือด อุปกรณ์ยกและเคลื่อนย้าย และเครื่องมือตรวจอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์จำลองที่กำหนดขึ้น
4). วัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ใช้ทำหัตถการต่างๆ ในการดูแลรักษาผู้ป่วย เช่น Syringe เข็ม Alcohol 70 % ขวดเก็บ Specimen ชุดสวนปัสสาวะ ชุดเจาะปวด ชุด ICD ชุดล้างท้อง เป็นต้น
5). เวชภัณฑ์ ประกอบด้วย ยากิน ยาฉีด ยาพ่น ฯลฯ ซึ่งใช้ในการรักษาผู้ป่วยในแต่ละโรค
6). เวชระเบียนผู้ป่วย โดยจัดชุดเวชระเบียนให้ครบถ้วนและเสมือนจริงมากที่สุด
7). อุปกรณ์ เครื่องเขียน ควรจัดหาให้เพียงพอและเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ปากกาสีต่าง ๆ กระดาษ
๑.๓. ขั้นตอนการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง
การสอนสถานการณ์จำลองเสมือนจริง ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังนี้
1) ขั้นนำ (Pre – Brief)
เป็นขั้นตอนการเตรียมการผู้เรียนก่อนเข้าสู่สถานการณ์จำลอง ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที ดังนี้
ผู้สอน | ผู้เรียน |
1.บอกวัตถุประสงค์ในหัวข้อที่เรียนรู้ | 1. ศึกษาวัตถุประสงค์การเรียนรู้ |
2. ปฐมนิเทศสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ การใช้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องการสื่อสารระหว่างผู้ป่วย ญาติ ทีมแพทย์ หรือ ทีมสหสาขาวิชาชีพ | 2. ศึกษาสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ และสิ่งแวดล้อมในห้องเรียนสถานการณ์จำลอง |
3. แนะนำคุณสมบัติและข้อจำกัดของหุ่นจำลองเสมือนจริง สมาชิกในสถานการณ์จำลอง และทีมผู้สอน | 3. ศึกษาการทำงานของหุ่น และซักถามข้อสงสัย |
4.เน้นย้ำให้ผู้เรียนนำความรู้ที่ได้เรียนมาใช้ในการปฏิบัติการพยาบาล/การดูแลผู้ป่วยการทำงานเป็นทีม และหน้าที่ที่ตนเองได้รับมอบหมาย โดยให้ตระหนักเสมอว่าขณะที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยผู้เรียนมีบทบาทของพยาบาลวิชาชีพการเคารพหุ่นจำลองเสมือนเป็นผู้ป่วยจริง และผู้แสดงอื่นๆในบทบาทที่กำหนด เช่น ญาติผู้ป่วย แพทย์ และเพื่อนร่วมทีม โดยให้เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ | |
5. ชี้แจงให้ผู้เรียนแบ่งบทบาทหน้าที่ต่างๆ ที่ได้รับมอบ หมายในสถานการณ์จำลอง ข้อตกลงเบื้องต้น และการประเมินผล | 5.ผู้เรียนในสถานการณ์แบ่งบทบาทหน้าที่ตามบทบาทในสถานการณ์ เช่น หัวหน้าเวร หัวหน้าทีม สมาชิกทีม |
6.ให้ข้อมูลพื้นฐานของผู้ป่วยกับผู้เรียน | 6. ศึกษาสถานการณ์ |
2). ขั้นปฏิบัติตามสถานการณ์ (Scenario running)
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 20-30 นาที ผู้เรียนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้เรียน และผู้สังเกตการณ์ ดังนี้
ผู้สอน | ผู้เรียน | ผู้สังเกตการณ์ |
1. สังเกต และบันทึกพฤติกรรมผู้เรียนในสถานการณ์ | 1. ปฏิบัติตามบทบาทตามสถานการณ์จำลอง หรือกระบวนการให้การดูแลรักษาผู้ป่วย | 1. สังเกตและบันทึกพฤติกรรมผู้เรียนในสถานการณ์ |
2. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้เรียนในสถานการณ์ต้องการตามความเหมาะสม เช่น ประวัติการเจ็บป่วย การรักษาเป็นต้น | 2.มีการสื่อสารด้วยวัจนภาษาหรือ
อวัจนภาษาและการทำงาน |
2. สังเกต บันทึก การสื่อสารของผู้เรียนในสถานการณ์ต่อผู้ป่วย ญาติและทีมสุขภาพ ด้วยวัจนภาษาหรือ อวัจนภาษาด้วยการเคารพศักดิ์ศรีและหัวใจความเป็นมนุษย์ |
3.ปรับบทบาท/ข้อมูลตามสถานการณ์ที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มากขึ้น | 3. นำความรู้ของกระบวนการพยาบาล มาใช้ในการปฏิบัติการพยาบาล การตัดสินใจ และการแก้ปัญหา การมีภาวะผู้นำและหัวหน้าทีม อย่างถูกต้อง เหมาะสม | 3. สังเกต บันทึกกระบวนการแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจของทีมสุขภาพ |
4.กรณีผู้เรียนไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม ผู้สอนควรหยุดการดำเนินสถานการณ์ชั่วคราว (Time out) เพื่อเข้าไปชี้แนะถึงแนวทางในการให้การพยาบาลที่ถูกต้อง เช่น ผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นแต่ผู้เรียนยังไม่ดำเนินช่วยฟื้นคืนชีพ หรือทำไมถึงเปลี่ยนการให้ Oxygen cannula เป็น Oxygenmask หากผู้เรียนไม่สามารถบอกได้ ต้องเสริมความรู้ให้กับผู้เรียน และที่สำคัญควรไม่ให้ผู้เรียนรู้สึกผิด และหากสถานการณ์นั้นมีการตามแพทย์แล้วแพทย์ไม่มา พยาบาลควรใช้คำถามที่ชี้นำหรือให้ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา (Proactive) | 4. ปฏิบัติทักษะหรือกิจกรรมการพยาบาล/การดูแลผู้ป่วยตามสอดคล้องกับปัญหาที่พบในสถานการณ์จำลองอย่างถูกต้อง เหมาะสม โดยเคารพศักดิ์ศรีและคำนึงถึงหัวใจความเป็นมนุษย์ของผู้ป่วย และทีมการพยาบาล
5. ประเมินผลการพยาบาล หรือการให้การดูแลรักษา หรือมีการรายงานทางการแพทย์อย่างเหมาะสม |
4.สังเกตบันทึก พฤติกรรมทักษะปฏิบัติการพยาบาล/ดูแลช่วยเหลือตามบทบาทที่ได้รับมอบหมายเช่น Incharge nurse,Leader nurse, Medication nurse เป็นต้น |
5.กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการตระหนักรู้ถึงอาการแสดงที่เปลี่ยนไปของผู้ป่วยในสถานการณ์ที่แย่ลง | 6. สะท้อนความคิดภายหลังการแสดงสถานการณ์จำลอง | 5. สะท้อนความคิดภายหลังการแสดงสถานการณ์จำลอง |
3). ขั้นสรุปการเรียนรู้ (Debrief)
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 30-45นาที เป็นขั้นตอนที่ให้ผู้เรียนสะท้อนคิด (Gibb’s Model) และตระหนักถึงความสำคัญของวิธีการตัดสินใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเชื่อมโยงความรู้สู่การปฏิบัติในสถานการณ์จำลอง และสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์จริง
๑.๔. เครื่องมือที่ใช้ในการวัดและประเมินผล การจัดการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง
การประเมินการเรียนรู้มีหลายวิธี เช่น โมเดลของ Steinwachs, GAS และ 5’S เป็นต้น ซึ่งแต่ละวิธีมีจุดเน้นหรือจุดเด่นที่แตกต่างกัน ผู้สอนควรพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสม สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ในครั้งนั้นๆโดยให้เล่าประสบการณ์ในสถานการณ์ แสดงความรู้สึกต่อประสบการณ์ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนคิด
วาระที่ ๒ เรื่องสืบเนื่อง
๑. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง ภายในวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์
ความคิดเห็น : อ.สืบตระกูล ตันตลานุกูล ผ่านการอบรมหลักสูตรระยะสั้น SBL จากประเทศอังกฤษ เป็นวิทยากรด้าน SBL เป็นประธานคณะกรรมการศูนย์การเรียนรู้ทางการพยาบาล เป็นผู้ออกแบบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ SBL มีผลงานวิจัยและบทความวิชาการรองรับเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน โดยใช้สถานการณ์จำลอง เช่น วิจัยเรื่อง ผลของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองต่อการพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติการรักษาพยาบาลเบื้องต้นของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ ปีที่ ๘ ฉบับที่ ๑ ประจำเดือน มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๙ และบทความวิชาการ เรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเพื่อเพิ่มความสามารถในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นของนักศึกษาพยาบาล ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ ฉบับพิเศษ ประจำเดือนสิงหาคม – ตุลาคม ๒๕๖๑ ซึ่งพบว่า ๑. รูปแบบการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเพื่อเพิ่มความสามารถในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นของ นักศึกษาพยาบาล ประกอบด้วยหลักการ จุดมุ่งหมาย การเรียนการสอนและการวัดผลประเมินผล ๒. กลุ่มทดลอง มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นหลังได้รับการสอนโดนใช้ รูปแบบการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเพื่อเพิ่มความสามารถในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นของนักศึกษา พยาบาลหลังการสอนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ๓. กลุ่มทดลอง มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นภายหลังได้รับการสอนโดยใช้ รูปแบบการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเพื่อเพิ่มความสามารถในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นของนักศึกษา พยาบาลสูงกว่าก่อนการสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
อ.สุปราณี หมื่นยา ผ่านการอบรมหลักสูตรระยะสั้น SBL จากประเทศอังกฤษ เป็นคณะกรรมการศูนย์การเรียนรู้ทางการพยาบาล และเป็นผู้ออกแบบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ SBL ในรายวิชา ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน
อ.ภราดร ล้อธรรมมา เป็นคณะกรรมการศูนย์การเรียนรู้ทางการพยาบาล และเป็นอาจารย์ผู้สอนที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ SBL
อ.ทิฏฐิ ศรีวิสัย เป็นอาจารย์ผู้สอนที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ SBL
อ.สายฝน วรรณขาว เป็นคณะกรรมการศูนย์การเรียนรู้ทางการพยาบาล และเป็นอาจารย์ผู้สอนที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ SBL
๒. ผลของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง
ความคิดเห็น : อ.สืบตระกูล ตันตลานุกูล พบว่า ผลของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองต่อการพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติการรักษาพยาบาลเบื้องต้นของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ พบว่า 1. นักศึกษามีความสามารถในการปฏิบัติการรักษาพยาบาลเบื้องต้นมากขึ้นหลังจากได้รับการใช้สถานการณ์จำลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 2. นักศึกษามีความสามารถในการปฏิบัติการรักษาพยาบาลเบื้องต้นมากขึ้นกว่านักศึกษาที่ไม่ได้รับการใช้สถานการณ์จำลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
วาระที่ ๓ เรื่องเพื่อพิจารณา
- ไม่มี
ปิดประชุมเวลา ๑๖.๓๐ น.
นัดประชุมครั้งต่อไป
ลงชื่อ…………………………………………….ผู้บันทึกรายงานการประชุม
(นางสายฝน วรรณขาว)
พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
ลงชื่อ………………………………………….ผู้ตรวจสอบรายงานการประชุม
(นายสืบตระกูล ตันตลานุกูล)
พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
SBL เป็นการจัดการเรียนการสอนที่น่าสนใจมาก ซึ่งอาจจะต้องค่อยๆพัฒนาในส่วนของทั้งตัวอาจารย์ อุปกรณ์ สถานที่ ต่างๆ ขณะนี้ วพบ.อต.ได้ก้าวหน้ามามากแล้ว พบว่าได้ประโยชน์จาก SBL เป็นอย่างมากในการพัฒนานักศึกษาให้เป็นผู้ที่พร้อมทั้งด้านทฤษฎีและการปฏิบัติการพยาบาลทุกสาขาต่อไป
SBL มีความเหมาะสมต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ทางการพยาบาล เพราะเป็นการบูรณาการความรู้ทางทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้เอื้ออำนวยให้ผู้เรียนได้พัฒนา หากผู้สอนสามารถออกแบบสถานการณ์หรือโจทย์ได้เหมาะสมและมีความชัดเจน จะนำไปสู่การประเมินผู้เรียนชัดเจนขึ้น โดยสามารถประเมินได้ทั้งการประเมินเพื่อการพัฒนาผู้เรียนและการประเมินผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้เพื่อวัดผลลัพธ์การเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของรายวิชา ดังนั้นผู้สอนจึงเป็นบุคคลที่สำคัญในการส่งเสริมให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้
การใช้สถานการณ์เสมือนจริง (SBL) เป็นกระบวนการที่ผู้สอนสามารถทำให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเองให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงได้ ถ้าหากผู้สอนได้นำสื่อหรือสถานการณ์จำลองเสมือนจริง มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาผู้เรียนท้ั้งทฤษฎีและการปฏิบัติก็จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงสู่่การนำไปปฏิบัติได้
การจัดการเรียนรู้ทางการพยาบาลจากห้องเรียนสู่การปฏิบัติจริงนั้นอาจเกิดผลกระทบทางลบต่อผู้ป่วยหรือผู้รับบริการได้ ดังนั้นจำเป็นต้องมีการจัดการเรียนรู้ผ่านการฝึกทดลองทำกับหุ่นในห้องปฏิบัติการก่อน SBL การจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองนั้นเป็นการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาความสามารถผู้เรียนในการปฏิบัติการพยาบาลได้อย่างเฉพาะเจาะจงและเสมือนจริงมากที่สุดหากผู้สอนสามารถออกแบบสถานการณ์หรือโจทย์ได้เหมาะสมและมีความชัดเจน จะนำไปสู่ประสิทธิผลการเรียนรู้ที่ดีตามสมรรถนะที่ต้องการ ดังนั้นผู้สอนจึงเป็นบุคคลที่สำคัญในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่ดี
การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์เสมือนจริง(Simulation Based Learning) เป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนที่สำคัญทางพยาบาลศาสตร์ศึกษาเป็นวิธีการเรียนการสอนทางการพยาบาลอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยอย่างเป็นองค์รวม ผู้เรียนสามารถปฏิบัติการพยาบาลในสถานการณ์เสมือนจริง
จนเกิดความมั่นใจก่อนให้การพยาบาลผู้ป่วยจริงการสอนแบบนี้ก่อให้เกิดประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในรายวิชาทางการพยาบาลที่หลากหลาย
SBL เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้นักศึกษารับรู้ถึงความสามารถและสมรรถนะทางด้านการพยาบาลก่อนปฏิบัติจริงกับผู้รับบริการ ดังนั้นถือเป็นการช่วยให้ผู้รับบริการเกิดความปลอดภัยและมีความเชื่อมั่นในการให้บริการทางการพยาบาลมากขึ้น
SBLเป็นรูปแแยการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเนื่องจากมีความปลอดภัยสูง สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองมีความจำเป็นที่สถาบันการศึกษาสร้างให้แก่ผู้เรียน
การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์เสมือนจริง (Simulation Based Learning:SBL) เป็นกระบวนการเรียนการสอนอีกหนึ่งรูปแบบที่ส่งเสริมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้นักศึกษาลดความกังวลเมื่อปฏิบัติงานจริง และทำให้การปฏิบัติมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
การเรียนรู้จากสื่อเสมือนจริงเป็นสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างมาก เพราะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกประสบการณ์ที่ต้องใช้ทักษะ การตัดสินใจ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้เหมาะสม เป็นการนำเอาความรู้ทางด้านวิชาการมาใช้ ร่วมกับการคิดวิเคราะห์ การฝึกใช้ความคิดแบบรอบคอบ แยบคาย ระมัดระวัง วิจารณญาณ และความมั่นคงทางอารมณ์ ครบทุกด้าน
การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริงเป็นวิธีการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองเสมือนอยู่ในสถานการณ์จริงการสรุปผลการเรียนรู้โดยการสะท้อนคิดประสบการณ์จากสถานการณ์จำลองช่วยถ่ายโยง
ความรู้จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติผู้เรียนได้ทำความเข้าใจวิเคราะห์ความคิดความรู้สึกต่อกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติในสถานการณ์และสรุป หลักการหรือแนวคิดที่จะนำไปประยุกต์ในสถานการณ์ใหม่ผลลัพธ์การเรียนรู้ดังกล่าวส่งเสริมทักษะการปฏิบัติการพยาบาล
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้หุ่นมนุษย์จำลอง (Simulation-Based Learning : SBL) เป็นกระบวนการเรียนการสอน ที่ครูผู้สอนใช้ในการช่วยให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยให้ผู้เรียนได้แสดงบทบาทตามสถานการณ์ที่กำหนดขึ้นหรือจำลองสถานการณ์คล้ายผู้ป่วยจริง ผู้เรียนได้ฝึกบทบาท และมีปฏิสัมพันธ์ในสถานการณ์ที่มีสภาพคล้ายความเป็นจริง ทำให้เกิดการเรียนรู้ และฝึกทักษะก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติงานจริง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความมั่นใจ ลดภาวะความเครียดและความวิตกกังวลก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติจริงบนหอผู้ป่วย การจัดการเรียนการสอนวิธีนี้เชื่อว่า จะทำให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัยจากการที่ผู้เรียนได้ฝึกฝนการดูแลผู้ป่วยมาก่อน
การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง ในด้านการจัดเตรียมการประเมินผลผู้เรียน ผู้สอนออกแบบการประเมินผลผู้เรียนที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ และจัดทำแบบประเมินพร้อมทั้งคู่มือการใช้แบบประเมินให้แล้วเสร็จก่อนดำเนินการสอน ผู้ประเมินทุกคนต้องฝึกฝนวิธีการใช้แบบประเมินให้มีความสอดคล้องกันเพื่อให้การประเมินผลผู้เรียนมีความเที่ยงตรงยุติธรรม
การจัดการเรียนการสอนด้วยการใช้สถานการณ์เสมือนจริง (SBL)มีประโยชน์และน่าสนใจทำให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน สิ่งสำคัญในการจัดการเรียนการสอนคื การกำหนดสัตถุประสงค์การเรียนรู้และจักสถานการณ์ให้ตรงกับสิ่งที่ต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้หุ่นมนุษย์จำลอง (Simulation-Based Learning : SBL) เป็นกระบวนการเรียนการสอน ที่ครูผู้สอนใช้ในการช่วยให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยให้ผู้เรียนได้แสดงบทบาทตามสถานการณ์ที่กำหนดขึ้นหรือจำลองสถานการณ์คล้ายผู้ป่วยจริง ผู้เรียนได้ฝึกบทบาท และมีปฏิสัมพันธ์ในสถานการณ์ที่มีสภาพคล้ายความเป็นจริง ทำให้เกิดการเรียนรู้ และฝึกทักษะก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติงานจริง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความมั่นใจ ลดภาวะความเครียดและความวิตกกังวลก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติจริงบนหอผู้ป่วย การจัดการเรียนการสอนวิธีนี้จะสามารถพัฒนานักศึกษาพยาบาลให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์และมีสมรรถนะในการดูแลผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี
การเรียนรู้แบบ SBLเหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการสอนสาขาพยาบาลศาสตร์ เนื่องจากผู้เรียนจะต้องได้รับประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยอย่างเป็นองค์รวม สามารถให้การพยาบาลในสถานการณ์เสมือนจริงได้หลายครั้ง จนเกิดความมั่นใจก่อนให้การพยาบาลผู้ป่วยจริง อาจารย์ผู้สอนมีบทบาทในการออกแบบโจทย์สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านสุขภาพรูปแบบต่างๆ ช่วยให้ผู้เรียนรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงและให้การพยาบาลผู้ป่วยจริงมากที่สุด นอกจากนี้ยังต้องอาศัยวิธีการสอนแบบสะท้อนคิด เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนกล่าวถึงรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้ทบทวนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำงานร่วมกันในกลุ่มผู้เรียนด้วยกัน และอาจารย์ผู้สอนจะช่วยสะท้อนการพยาบาลของผู้เรียนในส่วนที่ปฏิบัติได้ดี และส่วนที่ต้องปรับปรุง เพื่อให้ผู้เรียนได้ตระหนักและพัฒนาการพยาบาลของตนให้ดียิ่งขึ้น และให้ผู้รับบริการได้รับการพยาบาลที่ถูกต้องและปลอดภัย
การจัดการเรียนการสอนด้วยการใช้สถานการณ์เสมือนจริง (SBL) นั้น เป็นการนำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้ในการฝึกฝนทักษะในการปฏิบัติงานทางด้านสุขภาพ เช่น การดูแลระบบทางเดินหายใจและการช่วยฟื้นคืนชีพ ซึ่งการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีนี้ สามารถเพิ่มสมรรถนะ (self-efficacy) ทางคลินิกของนักศึกษาในการดูแลผู้ป่วยเสมือนจริงในสถานการณ์จำลองต่างๆอย่างถูกวิธีภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย สามารถช่วยลดความวิตกกังวลของนักศึกษาก่อนการลงมือปฏิบัติงานจริงในหอผู้ป่วยได้
การเรียนการสอน แบบSBL
มีความเหมาะสมทางพยาบาลศาสตร์ ทั้งนี้เพราะ
เป็นการบูรณาการความรู้ทางทฤษฎีสู่การปฏิบัติจนเกิด
เป็นประสบการณ์ทางการพยาบาล ผู้เรียนสามารถฝึกฝนทักษะการ
พยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพลักษณะต่างๆ ในสภาพ
แวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัย จนผู้เรียนมีความมั่นใจ ก่อนให้การดูแลผู้ป่วย
จริง
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้หุ่นมนุษย์จำลอง (Simulation-Based Learning : SBL) เป็นกระบวนการเรียนการสอน ที่ครูผู้สอนใช้ในการช่วยให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยให้ผู้เรียนได้แสดงบทบาทตามสถานการณ์ที่กำหนดขึ้นหรือจำลองสถานการณ์คล้ายผู้ป่วยจริง ผู้เรียนได้ฝึกบทบาท และมีปฏิสัมพันธ์ในสถานการณ์ที่มีสภาพคล้ายความเป็นจริง ทำให้เกิดการเรียนรู้ และฝึกทักษะก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติงานจริง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความมั่นใจ ลดภาวะความเครียดและความวิตกกังวลก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติจริงบนหอผู้ป่วย
การจัดการเรียนการสอนวิชาชีพการพยาบาลต้องการให้ผู้เรียนมีสมรรถนะในการดูแลผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึั้นจากการปฏิบัติการกับผู้ป่วยโดยตรง การให้ผู้เรียนมีสมรรถนะในสภาพการณ์เรียนการสอนที่เสมือนจริง ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกการคิดในสถานการณ์ที่เสมือนจริงได้ เนื่องจากใช้ข้อมูลจริงที่อาจพบในการปฏิบัติงานในอนาคตมาเป็นสถานการณ์เพื่อเตรียมผู้เรียน โดยที่ผู้เรียนตัดสินใจปฏิบัติการ ซึ่งอาจมีความไม่สมบูรณ์หรือมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ แต่ไม่เกิดอันตรายกับผู้ป่วยจริง การฝึกปฏิบัติการซ้ำๆ จนเกิดความมั่นใจ ทำให้ผู้เรียนมองเห็นแนวทางและทางเลือกที่ตนเองสามารถนำไปใช้ได้ในสถานการณ์จริงในอนาคตได้เป็นอย่างดี
การเรียนรู้ผ่านการใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริง เป็นการช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติและสามารถทำซ้ำๆได้จนกว่าจะปฏิบัติได้ดีและมั่นใจ โดยเฉพาะวิชาชีพพยาบาลที่ผู้เรียนต้องปฏิบัติจริงกับผู้ป่วย หากได้เรียนรู้แบบวิธีนี้จะช่วยให้ผู้เรียนได้เผชิญกับการปฏิบัติจริงไดเอย่างมั่นใจ
การเรียนรู้แบบ SBL เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เสมือนจริงมากที่สุด เป็นการลดความเสี่ยงต่อการกระทำที่ผิดพลาดของการปฏิบัติกับผู้ป่วยจริง หรือสถานการณ์เจริง ดังนั้นผู้สอนมีความสำคัญมากในขั้นตอนของการDebrife เพราะเป็นผู้ชี้แนวทางให้สามารปนะยุกย์ใช้กับสถานการณ์จริงได้อย่างเหมาะสม
การเลือกใช้ SBL นอกจากเลือกใช้กรณีที่มีความเสี่ยงสูงที่จะกระทำกับผู้ป่วยจริงแล้ว ส่วนหนึ่งจะเป็นประโยชน์ในกรณีที่พบได้น้อยในคลินิก แต่จำเป็นต้องเรียนรู้ ตัวอย่างด้านสูติศาสตร์ เช่น การช่วยคลอดท่าก้น การทำคลอดติดไหล่ เป็นต้น
การจัดการเรียนการสอนด้วยสถานการณ์จำลองในการศึกษาพยาบาลโดยใช้หุ่นจำลองสถานการณ์ SIMMAN จะสามารถทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะทางปัญญาโดยการวิเคราะห์หลักสูตรเชื่อมโยงสู่ Curriculum mapping ตาม TQF จัดการเรียนการสอนรายวิชา รายบท ที่เน้นทักษะทางด้านปัญญา เพื่อพัฒนานักศึกษาก้าวเข้าสู่การเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ดีเพื่อดูแลสุขภาพประชาชนในระบบบริการสุขภาพต่อไป
การเรียนการสอน แบบSBL มีความสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาก่อนปฏิบัติการพยาบาลจริงกับผู้ป่วย นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นใจในการปฏิบัติงานส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในผู้รับบริการที่มีต่อนักศึกษาพยาบาล
การจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ SBL เป็นการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนเห็นภาพ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงจากการเรียนภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัตืจริง ทำให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่อ อีกทั้งยังทำให้ผู้เรียนมีการจดจำในเรื่องการให้การพยาบาลที่เหมาะสม เมื่อฝึกปฏิบัติงานก็จะมีความมั้่นใจมากยิ่งขึ้น
การจัดการเรียนการสอนแบบSBL มีความเหมาะสมในการเรียนการสอนภาคปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อฝึกทักษะใ้ห้นักศึกษามีความมั่นใจ ก่อนที่จะไปปฏิบัติการพยาบาลกับผู้ป่วยจริงบนหอผู้ป่วย และยังช่วยทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้กรณีศึกษาที่พบได้น้อย โดยไม่ต้องรอให้เกิดกรณีศึกษาจริง ซึ่งนับได้ว่ามีประโยชน์สำหรับการเรียนการสอนทางการพยาบาล
ได้มีโอกาสร่วมจัดการเรียนรู้แบบ SBL ซึ่งเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้เสมือนจริงจากการได้ลงมือทดลองปฏิบัติจากห้องปฏิบัติการ เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้เรียนที่ดีก่อนที่จะลงมือปฏิบัติการจริงกับผู้ป่วย ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดกับผู้ป่วยในการปฏิบัติการของผู้เรียนได้อีกทางหนึ่ง ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญก็น่าจะเป็นช่วงที่ผู้สอนออกแบบและจัดเตรียมอุปกรณ์ สื่อ สถานการณ์ให้มีความพร้อมและเสมือนจริงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อการจัดการเรียนการสอนต่อไป
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้หุ่นมนุษย์จำลอง (Simulation-Based Learning : SBL) เป็นกระบวนการเรียนการสอน ที่ครูผู้สอนใช้ในการช่วยให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดโดยมีสถานการณ์คล้ายผู้ป่วยจริง ผู้เรียนได้ฝึกบทบาท และทดลองปฏิบัติในสถานการณ์ที่มีสภาพคล้ายความเป็นจริง ทำให้เกิดการเรียนรู้ และทักษะก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติงานจริงทำให้เกิดความมั่นใจ ก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติจริงบนหอผู้ป่วย ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนวิธีนี้มีประโยชน์และสำคัญมากสำหรับนักศึกษาพยาบาล
การจัดการเรียนการสอนแบบ SBL เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับภาคปฏิบัติที่ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้กับสถานการณ์ที่เสมือนจริงที่ทำให้นักศึกษาได้มีการฝึกทักษะก่อนการขึ้นฝึกภาคปฏิบัติทำให้นักศึกษาเกิดความมั่นใจและเกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้ป่วยจริง
ความสำคัญของการจัดการเรียนการสอนด้วยการใช้สถานการณ์เสมือนจริง (SBL) เป็นการเรียนการสอนที่เหมาะกับสายวิทยาศาสตร์สุขภาพเพื่อใช้ในการฝึกฝนทักษะในการปฏิบัติงาน เช่น การใช้หุ่นปฎิบัติการเพื่อใช้ในการฝึกทักษะ การดูแลการช่วยฟื้นคืนชีพ ทำให้นักศึกษาเข้าใจเสมือนจริงมากขึ้น
SBL เป็นการเรียนการสอนที่ต้องพัฒนาให้เกิดขึ้นในสถาบันการศึกษาด้านสุขภาพซึ่งปัจจุบันผู้เรียนอาจได้รับประสบการณ์ในสถาการจริงไม่เพียงจากข้อจำกัดหลายประการ ซึ่งSBLใช้แทนในกรณีที่ผู้ป่วยที่พบได้น้อยหรือเพือเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้เรียนก่อนที่จะลงมือปฏิบัติการจริงกับผู้ป่วย ทำให้ช่วยลดความเสี่ยง
ที่จะเกิดกับผู้ป่วยในการปฏิบัติการของผู้เรียน แต่อย่างไรก็ตามผู้สอนควรได้รับการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและการสร้างสถานการณ์จำลอง พร้อมทั้งเขียนข้อมูลในโปรแกรมควบคุมหุ่นให้มีความพร้อมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อการจัดการเรียนการสอนต่อไป
การจัดการเรียนการสอนแบบ SBL มีความสำคัญต่อการศึกษาทางการพยาบาลในอนาคต เนื่องจากสิทธิผู้ป่วยเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ ผู้ป่วยอาจไม่ยอมให้นักศึกษาทำการพยาบาลกับตัวเอง การเรียนแบบนี้จึงตอบโจทย์ในอนาคตได้
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้หุ่นมนุษย์จำลอง (Simulation-Based Learning : SBL) ได้มีโอกาสเข้าไปสังเกตุการเรียนการสอน SBL ครั้งแรก เห็นว่า SBL มีความสำคัญมาก ถ้านักศึกษาได้มีการฝึกเสมือนจริงบ่อยครั้งก่อนขึ้นฝึกจริงน่าจะทำให้นักศึกษามีความรู้และความมั่นใจ น่าจะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติจริงบนหอผู้ป่วยได้