แนวปฏิบัติ : การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning : กระบวนการการเรียนรู้ โดยการเรียนแบบสะท้อนคิด(Reflective thinking)
รวบรวมโดย คณาจารย์กลุ่มการเรียนแบบสะท้อนคิด(Reflective thinking)
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์
การเรียนแบบสะท้อนคิด(Reflective thinking) คือ การใช้กระบวนการ ในการคิด และพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างพินิจพิเคราะห์ ละเอียดรอบครอบ มีเหตุมีผล ใช้ประสบการณ์ ความคิด ความเชื่อหรือองค์ความรู้ที่ยึดถือกันอยู่ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่าง ถ่องแท้ หรือทำให้เกิดข้อสรุปใหม่ที่จะใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา ในสถานการณ์อื่นๆ อย่างเหมาะสม
ซึ่งแนวปฏิบัติในการเรียนการสอนแบบสะท้อนคิด (Reflective thinking )ในครั้งนี้ ได้นำแนวคิดของ อ.ดร.ดุจเดือน เขียวเหลือง ประกอบด้วย ๗ ขั้นตอน ไปทดลองใช้และมีข้อเสนอแนะแนวปฏิบัติดังต่อไปนี้
กระบวนการจัดการเรียนรู้ | กิจกรรม |
ขั้นที่ 1 อธิบายสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้น | 1.ผู้สอนกำหนดสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน
2.ผู้เรียนศึกษาหรืออ่านทำความเข้าใจสถานการณ์ที่ผู้สอนกำหนดให้ 3.ผู้เรียนอธิบายสถานการณ์นั้น โดยบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ บอกสิ่งที่เป็นสาระสำคัญในสถานการณ์ และบอกสิ่งที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ |
ขั้นที่ 2 อธิบายความรู้สึกต่อสถานการณ์ | 1.ผู้เรียนอธิบายความรู้สึกต่อสถานการณ์ เช่น ฉันคิดและรู้สึกอย่างไรบ้างกับสถานการณ์นี้?” ถ้าเป็นฉันจะทำอย่างไร? อธิบายความรู้สึกของตนเองที่มีต่อสถานการณ์นั้นทั้งด้านบวกและด้านลบ |
ขั้นที่ 3 บอกแนวคิด/หลักการ/ความเชื่อที่สนับสนุนการกระทำ | 1.ให้ผู้เรียนทำความเข้าใจความหมายของคำว่า แนวคิด หลักการ และความเชื่อ เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันสามารถสื่อสารได้ชัดเจน
2.ให้ผู้เรียนทบทวนความรู้เกี่ยวกับแนวคิด/หลักการ/ความเชื่อของตนเองที่มีอยู่หรือที่เคยเรียนมาว่ามีอะไรบ้าง 3.ให้ผู้เรียนนำเสนอ แนวคิด/หลักการ/ความเชื่อ สนับสนุนความคิดของ ตนเองที่มีอยู่หรือที่เคยเรียนมาว่ามีอะไรบ้าง ที่ เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้น |
กระบวนการจัดการเรียนรู้ | กิจกรรม |
ขั้นตอนที่ 4 เปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย | 1.ให้ผู้เรียนนำเสนอแนวคิด หลักการ ความคิดความเชื่อของตนเอง
2.ผู้เรียนฟังการนำเสนอของสมาชิกกลุ่ม 3. ผู้ฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือตั้งคำถามโต้แย้ง คัดค้าน ท้าทาย และสะท้อนคิดกับบุคคลอื่นในกลุ่มอย่างเหมาะสม 4. ผู้สอนเอื้อให้เกิดบรรยากาศการยอมรับและเคารพศักดิ์ศรีของสมาชิกในกลุ่ม และทำให้ผู้เรียนรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจในการแสดงความคิดเห็น |
ขั้นตอนที่ 5 จัดลำดับความคิดและสรุปความคิดรวบยอด | 1. ฝึกให้ผู้เรียนจัดลำดับความคิดและสรุปความคิดรวบยอดอย่างง่าย
2. ให้ผู้เรียนได้จัดลำดับความคิดให้เป็นหมวดหมู่และสรุปความคิดรวบยอดด้วยตนเอง 3. ให้ผู้เรียนนำเสนอผลการจัดลำดับความคิดและสรุปความคิดรวบยอดของตนเอง และเปรียบเทียบว่าเหมือนหรือแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร |
ขั้นตอนที่ 6 นำข้อสรุปไปปฏิบัติ | 1.ให้ผู้เรียนร่วมอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละแนวทางซึ่งมีแนวคิดทฤษฎีสนับสนุนอย่างมีเหตุมีผล
2.สรุปแนวทางที่เหมาะสมเพื่อนำมาใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์นั้น 3.ให้ผู้เรียนประเมินผลลัพธ์ที่ตามมาของแนวทางนั้นในหลายๆ แง่มุม |
ขั้นตอนที่ 7 สะท้อนคิดการเรียนรู้/ประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิม | 1. ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง (self-evaluation) ว่าการเรียนรู้ของตนเองในการเรียนรู้แต่ละครั้งนั้นเป็นอย่างไร มีข้อดี ข้อปรับปรุงพัฒนาอย่างไร
2.ให้ผู้เรียนสะท้อนคิดการเรียนรู้/ประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิม และเทียบเคียงมุมมองใหม่ (new perspective) กับความรู้ที่มีอยู่เดิม โดยให้ผู้เรียนตอบคำถามดังนี้ -เหตุการณ์นี้มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานในอนาคตอย่างไร -ประสบการณ์ที่ได้รับในครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงตนเองด้านความรู้อย่างไร -ประสบการณ์ในครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงตนเอง ด้านความคิด ความเชื่อ คุณค่า และจริยธรรมในวิชาชีพอย่างไร |
แนวปฏิบัติทำเพิ่มเติม
1.จัดเตรียมสถานการณ์ให้มีความหลากหลาย เช่น ภาพยนต์ กรณีศึกษา แสดงบทบาทสมมุติ ในกรณีที่ต้องทำกระบวนการซ้ำหลายๆรอบ
2.จัดเตรียมคู่มือกระบวนการเรียนแบบสะท้อนคิดให้กับนักศึกษา และอธิบายขั้นตอนการเรียนแบบสะท้อนคิด
3.ขั้นตอนการเตรียมนักศึกษา จัดให้มีกิจกรรม VTS ( Visual Thinking Strategies) เพื่อกระตุ้นให้นักศึกษากล้าพูดและกล้าแสดงออก ก่อนการจัดการเรียนการสอน
4.ให้นักศึกษาได้ทำกิจกรรมฝึกสติ(Mindfulness) เช่น การเดินจงกลม หรือนั่งสมาธิ ให้จิตจดจ่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อนการเรียน
5.แนะนำแหล่งข้อมูลที่นักศึกษาไปค้นคว้าเพิ่มเติม ที่น่าเชื่อถือ
ปัจจัยเอื้อที่ทำให้เกิดการเรียนแบบสะท้อนคิด(Reflective thinking)มีดังนี้
การเตรียมตัวครู ควรมีลักษณะดังนี้
- มีความตระหนักรู้
- มีความจริงใจ
- ตรงไปตรงมา
- เปิดใจกว้าง
- ศรัทธากระบวนการเรียนรู้
- เสริมแรงให้กำลังใจนักศึกษา
- มีทักษะในการตั้งคำถามเชิงวิเคราะห์ มากกว่าคำถามเชิงรู้จำ
การเตรียมผู้เรียน มีลักษณะดังต่อไปนี้
- สนุกกับความคิด,
- รับฟังคำตอบหลากหลาย
- ห้อยแขวนการตัดสินใจ
- การฟังอย่างตั้งใจ
- ซื่อสัตย์กล้าหาญ(ความรู้สึกภายใน)
เอกสารอ้างอิง
ดุจเดือน เขียวเหลือง.(2557).เอกสารประกอบการสอน การเรียนรู้แบบสะท้อนคิดในนักศึกษาพยาบาล.วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์.
Brown, S., & Gillis, M. (1999). Educational innovations. Using reflective thinking to developpersonal professional philosophies. Journal Of Nursing Education, 38(4), 171-175.
Edwards, R. A., Kirwin, J., Gonyeau, M., Matthews, S. J., Lancaster, J., & DiVall, M. (2014). A.Reflective Teaching Challenge to Motivate Educational Innovation. American Journal Of Pharmaceutical Education, 78(5), 1-7.
Heong, Y. M., Yunos, J. M., Othman, W., Hassan, R., Kiong, T. T., & Mohamad, M. M. (2012). The Needs Analysis of Learning Higher Order Thinking Skills for Generating Ideas. Procedia – Social and Behavioral Sciences, 59, 197-203. doi:https://doi.org/10.1016/j.sbspro.2012.09.265
Nguyễn, T. M. T., & Nguyễn, T. T. L. (2017). Influence of explicit higher-order thinking skills instruction on students’ learning of linguistics. Thinking Skills and Creativity, 26, 113-127. doi:https://doi.org/10.1016/j.tsc.2017.10.004
Severtsen, B. M. (2011). Reflective thinking -a guide to paradigm shifting in RN -BSN nursingstudents. International Journal Of Nursing Education, 3(1), 66-70.
https://www.nursingtimes.net/roles/mental-health-nurses/how-mindfulness-can-benefit-
nursing-practice/7004433.article
ในการจัดการเรียนการสอนแบบการสะท้อนคิดนั้น นำสู่การคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนสู่การตกผลึกองค์ความรู้เชิงประจักษ์ เกิดการตระหนักรู้เข้าใจจำได้อย่างมีเหตุมีผลไม่รู้ลืม..เพราะมันมีเหตุการณ์ให้จิตได้ขบคิดขึ้นมาและสรุปจบอย่างเข้าใจ เสมือนหนึ่งการได้ดูหนังเรื่อง เมีย2018 แล้วเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่..องค์ความรู้นั้นมันผ่านประสาทสัมผัสทั้ง5สู่กระบวนการคิดสรุปความ หรือตกผลึกความรู้นั่นเอง ดังนั้น ปัจจัยเอื้อมีความสำคัญ คนที่1 คือครู ต้องเปิดใจกว้างและรู้จักการรอเวลา รู้จักการใช้คำถามที่คมคำและคนฟังเข้าใจได้ในทันที และสื่อในการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์จริงหรือวิดิทัศน์ คลิบสั้นต่างๆ ต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับประเด็นของเรื่องที่ต้องการถอดบทเรียนนั้นโดยการสะท้อนคิด
การเรียนการสอน แบบสะท้อนคิด(Reflective thinking) สิ่งที่สำคัญ นักศึกษาต้องมีความกล้าที่พูดออกหรือแสดงความคิดเห็น โดยยังไม่ต้องกังวล ผิดถูก ซึ่งกิจกรรมหนึ่ง ที่กระตุ้นให้นักศึกษากล้าแสดงออก คือ กิจกรรม VTS ( Visual Thinking Strategies) ทำให้นักศึกษากล้าที่จะสะท้อนสิ่งที่ตนเองคิด หลังจากนั้นฝึกให้นักศึกษา รู้จักต้องคำถามในขั้นสูง มากกกว่าการรู้จำ และฝึกหาคำตอบ จะช่วยให้นักศึกษาเกิดทักษะการเรียนรู้ได้ดีขึ้น
การเรียนการสอนแบบสะท้อนคิดเป็นกระบวนการที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พูดหรือเขียนเรื่องราวที่ได้เกิดจากการเรียนรู้ของตนที่มาจากการรับรู้ ความคาดหวัง ความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับประสบการณ์นั้นๆ และมีการวางแผนหาแนวทางแก้ไข ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะผ่านการคิด ไตร่ตรองหรือการคิดทบทวนอย่างมีเหตุผล เป็นกระบวนการที่สามารถพัฒนาศักยภาพทางปัญญา การสะท้อนคิดจึงเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในสาขาพยาบาลศาสตร์ เนื่องจากเป็นวิธีที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ทางทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติ และยังเป็นตัวเชื่อมช่วยให้ผู้สอนได้ทำความเข้าใจถึงการรับรู้ของผู้เรียน
กระบวนการสะท้อนคิดจากประสบการณ์ที่รับผิดชอบรายวิชาการคิดอย่างเป็นระบบโดยการนำแนวคิดการสะท้อนคิด 7 ขั้นตอน ของ อ.ดร ดุจเดือน เขียวเหลือง มาใช้ในการเรียนการสอนในภาคทฤษฎี และภาคทดลอง พบว่า นักศึกษาสามารถฝึกทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ และจากการประเมินผลรายวิชานักศึกษาสามารถนำทักษะนี้ไปใช้ในการดำเนินชีวิต หรือการดำเนินการแก้ปัญหาอื่นๆได้อย่างเป็นระบบต่างจากก่อนการเรียนการสอนที่ผ่านมา
การนำ Reflective thinking มาใช้ในการเรียนการสอนภาคปฏิบัติของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่ผ่านมาพบประเด็นที่สำคัญคือ นักศึกษาส่วนมากไม่สามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้ ทำให้การสะท้อนสิ่งต่างๆยังไม่ใช่ความคิดหรือความต้องการที่แท้จริง เป็นสิ่งที่นักศึกษาทำเพื่อให้เสร็จไปที การที่จะให้สะท้อนคิดและได้แนวทางการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพอาจต้องเริ่มกระบวนการให้ผู้เรียนสามารถสะท้อนความรู้สึกหรือบอกความรู้สึกที่แท้จริงจองตนเองได้ ซึ่งอาจารย์อาจเพิ่มกระบวนการให้นักศึกษาสะท้อนความรู้สึกที่แท้จริงก่อนการที่จะสะท้อนคิด
การจัดการเรียนการสอนโดยใช้การสะท้อนคิดเป็นวิธีการเรียนที่ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกการคิดอย่างเป็นระบบใช้สมองทั้งซีกและซึกขวาในการทำงาน ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาทางจิต ได้นำวิธีการสะท้อนคิดมาใช้ในการเรียนการสอน จากการประเมินพบว่า นักศึกษาได้คิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และสามารถวางแผนในการจัดกิจกรรมทางการพยาบาลได้อย่างเหมาะสม และยังฝึกทักษะการสื่อสาร การกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมด้วย
การเรียนการสอนแบบสะท้อนคิดเป็นกระบวนการที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พูดหรือเขียนเรื่องราวที่เกิดจากการเรียนรู้ของตนที่มาจากการรับรู้ ความคาดหวัง ความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับประสบการณ์นั้นๆ และมีการวางแผนหาแนวทางแก้ไข ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะผ่านการคิดการไต่ตรองอย่างมีเหตุผล เป็นกระบวนการที่สามารถพัฒนาศักยภาพทางปัญญา การสะท้อนคิดจึงเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในสาขาพยาบาลศาสตร์ เนื่องจากเป็นวิธีการที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้จากทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติและยังเป็นต้วเชื่อมให้ผู้สอนได้ทำความเข้าใจผู้เรียนมากขึ้น
การวัดและประเมินผลการเรียนแบบสะท้อนคิดนั้น มีการประเมินผลหลากหลายรูปแบบ แต่ที่เห็นผลมากที่สุดได้แก่ การใช้ Authentic assessment ในการประเมิน ซึ่งเป็นการประเมินที่เปิดโอกาสให้นักเรียนปฏิบัติงานที่เหมือนการปฏิบัติงานในชีวิตจริง และต้องมีการกำหนดสิ่งที่ต้องการวัดให้ชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถประเมินจากการเขียนสะท้อนผลการเรียนรู้ โดยให้เขียนภายหลังการเรียนรู้ในแต่ละวัน หรือ สัปดาห์ ว่าต้องการเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม มีปัญหาด้านใดบ้าง ต้องการอะไร เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป
การเรียนการสอนแบบ Reflective thinking องค์ประกอบที่สำคัญ คือ “ครู” ผู้ซึ่งควรสร้างแรงจูงใจหรือกระตุ้นให้นักศึกษาสนใจการเรียน มีการใช้คำถามปลายเปิด กระตุ้นให้คิดเพื่อให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นได้อย่างต่อเนื่อง ครูควรจะสะท้อนคิดนักศึกษาได้ทั้งแบบบุคคลหรือแบบกลุ่ม ขึ้นอยู่กับหัวข้อ หรือ สถานการณ์ที่ต้องการสะท้อน ตามความเหมาะสม ครูต้องเป็นผู้ฟังที่ดี เปิดใจ มีความเข้าใจและเป็นกันเองกับนักศึกษา เป็นที่ปรึกษาไว้วางใจได้และแก้ปัญหาได้ ครูต้องมีความอดทน ควบคุมอารมณ์ได้ดี และพูดจาน่าเชื่อถือ อบอุ่น ไม่ออกคำสั่ง พร้อมให้นักศึกษาเข้าหาได้ตลอดเวลา และครูต้องเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ลดความขัดแย้ง สอนให้นักศึกษากล้าและเก่ง กระตุ้นการเรียนรู้อยู่เสมอ
ขั้นตอนที่ 5 จัดลำดับความคิดและสรุปความคิดรวบยอด เป็นขั้นตอนที่ยากและสำคัญที่สุดสำหรับนักศึกษา ขั้นตอนนี้อาจารย์ควรให้คำแนะนนำ หรือชี้แนะให้นักศึกษาได้สรุปความคิดรวบยอดอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เกิดการ miss concepts
การจัดการเรียนการสอนเพื่อการสะท้อนคิด ครูควรมีทักษะในการตั้งคำถามอย่างเป็นระบบเพื่อกระตุ้นกระบวนการคิดของนักศึกษา ควรใช้ scenario หรือสถานการณ์ที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นความสงสัยใคร่รู้ของนักศึกษา ควรให้นักศึกษาได้คิดตามขั้นตอนแบบมี enthusiastic มีการสร้างให้ผู้เรียนใช้คำถามตามแนวที่ตั้งไว้ต่อสถานการณ์ที่มีความคลุมเครือไม่ชัดเจน ให้นักศึกษาพยายามหาทางเลือกสำหรับใช้ในสถานการณ์นั้นๆ และมีการสนับสนุนหลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ
การสะท้อนคิดที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือการสะท้อนคิดอย่างใคร่ครวญเชิงวิพากษ์
เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างบุคคล หรือกลุ่มบุคคล ด้วยวิธีของสุนทรียสนทนา (Dialogue) แต่มีประเด็นที่ชัดเจน เพื่อทำความ เข้าใจ ประเมิน ตรวจสอบ และพิสูจน์ความหมาย มุมมอง ความเชื่อ ความรู้สึก คุณค่า หนทาง ได้มาซึ่งความรู้ความจริง และความจริงความถูกต้องของทางออกหรือการกระทำต่าง ๆ จนนำไปสู่การตัดสินที่ดีที่สุดที่จะมีผลต่อการกระทำนั้น ผลที่ได้จากการพูดคุยคือ การเกิดการ ตัดสินหรือการตีความอย่างใหม่ รวมถึงเห็นมุมมอง ความเชื่อ และการให้เหตุผลที่มีความ ถูกต้องและครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิม
การสะท้อนคิดว่า อาจแบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ 1) Content Reflection -สะท้อนคิดสิ่งที่เรารับรู้ รู้สึกคิด และทำคือการตอบคำถาม What 2) Process Reflection – สะท้อนคิดว่าเรารับรู้ รู้สึก คิด และทำอย่างไร คือการตอบคำถาม How 3) Premise Reflection – สะท้อนคิดว่าทำไมเราจึงรับรู้ รู้สึก คิด และทำคือการตอบคำถาม Why โดยการตอบคำถาม Why จะทำให้เกิดการสะท้อนคิดอย่างจริงจัง (Critical Reflection) คือทำให้เกิดการตรวจสอบความเชื่อ หรือคุณค่าเดิม โดยนี่เป็นรูปแบบของการสะท้อนคิดที่เรารู้จักและใช้กันน้อยที่สุด เชื่อกันว่า การมีทักษะและวัตรปฏิบัติ ในการใช้การสะท้อนคิด อย่างจริงจังนั้นเป็นพัฒนาการด้านการเรียนรู้ขั้นสูง (Mature Cognitive Development)
การเรียนการสอนแบบสะท้อนคิดช่วยให้นักศึกษาพัฒนาทั้งวิธีการคิด และทักษะทางปัญญา เป็นการพัฒนาการเรียนรู้ที่สามารถเชื่อมโยงเนื้อหาสาระเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งการสะท้อนที่จะได้ผลดีต้องเกิดจากการรับรู้และเข้าใจตนเองเป็นสำคัญ มีการสะท้อนที่เป็นเหตุเป็นผลเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม
การทำความเข้าใจกับสภาวะภายในตนเอง (self reflection) จะทำให้เราได้ยินเสียงจากภายในตน (inner voice) เกิดการตระหนักรู้ (self awareness) จากการฝึกสติให้รู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เกิดการหยั่งรู้ (intuition) หากการหยั่งรู้เกิดขึ้นได้เร็วและบ่อยมากเพียงใด การสะท้อนคิด (Reflective thinking) โดยผ่านกระบวนการสุนทรียสนทนาจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ได้ตั้งแต่ความรู้ภายนอกตนและความรู้ภายในตน เป็นคุณค่าสำหรับอาจารย์ผู้สอนในการนำไปพัฒนาตนเองและผู้เรียน
ิการสะท้อนคิดเป็นวิธีการเรียนการสอนที่พัฒนาและเปิดโอกาศให้ผู้เรียนได้แสดงออกทางความคิดอย่างเป็นระบบ เป็นเหตุผล การพัฒนาทักษะดังกล่าวทำได้โดยการกระตุ้นผู้เรียนในการนำ เรื่องราว สถานการณ์ หรือประเด็นปัญหารวมถึงประสบการณ์มาคิดวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ ตามลำดับตามขั้นตอนของการสะท้อนคิด และตามวัตถุประสงค์ของการสะท้อนคิด สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การเรียนรู้เกิดประโยชน์สูงสุดคือ การกำหนดประเด็นหรือการตั้งคำถามที่ช่วยกระตุ้นการคิดถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทักษะการสะท้อนคิด เนื่องจากการกำหนดประเด็นคำถามที่ชัดเจนและเรียงลำดับไปตามขั้นตอนของการสะท้อนคิดจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างชัดเจนและส่งเสริมกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ
หาข้อสรุป ข้อคิด ประเด็นความรู้ที่ได้จากการสะท้อนคิดที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม
การจัดการเรียนการสอนแบบสะท้อนคิด(Reflective thinking)เป็นรูปแบบการสอนที่สำคัญมากกับยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว การฝึกฝนให้นักศึกษามีทักษะในการคิด การวิเคราะห์ และการตัดสินใจต่อสถานการณ์ต่างๆที่พบเจอในแต่ละวัน เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับสังคมได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะวิชาชีพการพยาบาลที่บางครั้งมีความซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้หลักสำคัญในการจัดการเรียนการสอนแบบสะท้อนคิด คือ ผู้สอนจะต้องมีกลยุทธ์ เทคนิคในการตั้งคำถามที่กระตุ้นและส่งเสริมให้นักศึกษาเกิดความคิด วิเคราะห์และร่วมสะท้อนคิดในสถานกาณ์ที่เจอได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
การจัดการเรียนการสอนเพื่อการสะท้อนคิด (Reflective thinking)ผู้สอนต้องมีเทคนิคการตั้งคำถามอย่างเป็นระบบเพื่อกระตุ้นกระบวนการคิดของนักศึกษา ควรมีสถานการณ์ต่างๆเพื่อกระตุ้นความสงสัยของนักศึกษา และส่งเสริมให้นักศึกษาได้คิดตามขั้นตอน เมื่อเกิดกระบวนการเรียนรู้แล้วนักศึกษาก็จะเกิดความเข้าใจและสะท้อนออกมาอย่างเป็นระบบ เกิดการกระบวนการคิดวิเคราะห์ซึ่งเป็นประโยชน์สูงสุดแก่นักศึกษา
การสะท้อนคิดเป็นทักษะทางปัญญาที่มีความจำเป็นสำหรับพยาบาลทุกคนเพราะเป็นทักษะที่ช่วยให้พยาบาลรู้จักคิดอย่างมีวิจารณญาณรู้จักแก้ปัญหาและพัฒนางานด้วยกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบบนพื้นฐานหลักฐานเชิงประจักษ์ที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามประสบการณ์มีผลอย่างยิ่งต่อความสามารถในการสะท้อนคิดที่ลึกซึ้ง จึงควรให้นักศึกษาพยาบาลได้ฝึกการสะท้อนคิดตั้งแต่ปี 1 ไปเรื่อยๆจนจบไปเป็นพยาบาลที่มีคุณภาพ
การสะท้อนคิดมีความสำคัญต่อการศึกษา เนื่องจากในยุคปัจจุบันมีความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ความรู้บางอย่างอาจเริ่มล้าสมัยไม่เหมาะกับผู้เรียนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะวิชาชีพพยาบาลที่ต้องพบกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอ และต้องหาทางแก้ไขเฉพาะหน้าอยู่ตลอดเวลา ต้องมีการตัดสินใจ มีความรับผิดชอบสูง และต้องปฏิบัติตามจริยธรรมของวิชาชีพพยาบาล ดังนั้นการสะท้อนคิดจึงเป็นการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมสำหรับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ในการได้สะท้อนคิดด้วยตนเองเป็นการฝึกการสังเกต การคิดวิเคราะห์ จัดระบบความคิด เพื่อให้สื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างเข้าใจ เชื่อมโยงความรู้
การเรียนการสอนการสะท้อนคิด (Reflective )เป็นสิ่งที่สะท้อนการกระทำที่ผู้ปฏิบัติสามารถมองเห็นตนเองภายใต้บริบทจากประสบการณ์ของตนเอง ด้วยวิธีการเผชิญ เข้าใจ และแก้ไขปัญหาจากการปฏิบัติงานของตนเองทั้งที่ต้องการและจากการปฏิบัติจริง นอกจากจะให้นักศึกษาสะท้อนคิดแล้ว ครูที่สะท้อนการจัดการเรียนรู้ของตนเองและแลกเปลี่ยนมุมมองการสะท้อนการจัดการเรียนรู้กับบุคคลอื่นอย่างสม ่าเสมอจะมีข้อมูลในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ได้มากกว่าครูที่ไม่เคยสะท้อนการจัดการเรียนรู้ของตนเองและแลกเปลี่ยนมุมมองการสะท้อนการจัดการเรียนรู้กับบุคคลอื่นเลย การสะท้อนการจัดการเรียนรู้จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาครูอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการสะท้อนคิดของนักศึกษาขณะฝึกภาคปฏิบัติในสถานการณืจริง ซึ่งทำให้ได้เห็นถึงการรวบรวมข้อมูล การสะท้อนความรู้สึกต่อเหตุการณ์ต่างๆที่นักศึกษาได้เผชิญ นักศึกษามีความสงสัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงมีคำถามเกิดขึ้นอย่างมากมาย จนเป็นจุดกำเนิดให้นักศึกษานำไปสู่การแสวงหาคำตอบเพื่อนำมาอธิบายต่อสิ่งที่ตนยังหาคำตอบไม่ได้ นอกจากนั้นเป็นการฝึกให้ผู้เรียน (นักศึกษา) เกิดการคิดที่เชื่อมโยง เป็นระบบ วางแผนต่อยอดได้ ซึ่งจัดเป็นวิธีการที่ดีที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
การสะท้อนคิดเป็นกระบวนการเรียนการสอนแบบที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พูดหรือเขียนเรื่องราวที่ได้เกิดจากการเรียนรู้ของตนเป็นสิ่งที่สะท้อนการกระทำที่ผู้ปฏิบัติสามารถมองเห็นตนเองภายใต้บริบทจากประสบการณ์ของตนเองเป็นการฝึกการสังเกต การคิดวิเคราะห์ จัดระบบความคิด แต่จากประสบการณ์พบว่าการสะท้อนคิดของนักศึกษายังไม่ใช่ความคิดหรือความต้องการที่แท้จริง เป็นสิ่งที่นักศึกษาทำเพื่อให้เสร็จไปทีจึงทำให้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ของกระบวนการสะท้อนคิดดังนั้นอาจารย์ต้องกระตุ้นการคิดของนักศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจ สามารถประเมิน ตรวจสอบ และพิสูจน์ความหมาย มุมมอง ความเชื่อ ความรู้สึก คุณค่า หนทางได้มาซึ่งความรู้ความจริง และความจริงความถูกต้องของทางออกหรือการกระทำต่าง ๆ จนนำไปสู่การตัดสินที่ดีที่สุดที่จะมีผลต่อการกระทำนั้นอย่าง ถ่องแท้ หรือทำให้เกิดข้อสรุปใหม่ที่จะใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา ในสถานการณ์อื่นๆ อย่างเหมาะสม
การรับรู้สถานการณ์ด้วยความรู้สึกที่แท้จริงของบุคคล ที่จะทำให้เกิดการสะท้อนคิดได้ น่าจะต้องมี what และอย่างน้อยอีกหนึ่ง How หรือ Why ประกอบ จากความรู้สึกที่สังเกตพบจากการนำไปใช้ในการสอนภาคปฏิบัติ พบว่าผู้เรียนมักเล่าสถานการณ์ไปเรื่อยๆ เพียงว่ามีอะไรเกิดขึ้น กว่าครึ่งจะแสดงความเห็นในขั้นที่ 2 ว่า “ทำให้สงสัยว่า….” ต่อด้วย “จึงไปค้นหาความรู้….” ที่เข้าใจเอาว่าเป็นขั้นตอนที่ 3 เป็น pattern ที่เหมือนหยั่งรากความเข้าใจของผู้เรียน การแสดงความรู้สึกที่แท้จริงพบได้น้อย การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือตั้งคำถามโต้แย้ง คัดค้าน ในขั้นที่ 4 มักเป็นลักษณะ “คุณเอื้อ คุณอวย” อาจเป็นด้วยวัฒนธรรมไทยๆ ทำให้ไม่กล้าแสดงความคิดที่แท้จริง โดยส่วนตัวจึงเห็นว่า อาจต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่แรกเข้ามาเรียน ประหนึ่ง ปรับทัศนคติ พัฒนาไปทีละขั้น ทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรม ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือ ตัวครู ต้องตอบคำถามตัวเองและพัฒนา เรื่อง deep listening และการสุนทรียสนทนา อยู่เสมอ
การสะท้อนคิดคือสิ่งที่สะท้อนการกระทำที่ผู้ปฏิบัติสามารถมองเห็นตนเองภายใต้บริบทจากประสบการณ์ของตนเอง ด้วยวิธีการเผชิญ เข้าใจ และแก้ไขปัญหาจากการปฏิบัติงานของตนเองทั้งที่ต้องการและจากการปฏิบัติจริงดังนั้นนักศึกษาพยาบาลต้องฝึกทำเป็นประจำ
การเรียนการสอน แบบสะท้อนคิด(Reflective thinking) เป็นการกระตุ้นให้นักศึกษาฝึกคิดอย่างเป็นระบบ สิ่งสำคัญคือการต่อยอด เมื่อผู้เรียนพบปัญหาแล้วต้องคิดต่อยอด ในการแก้ปัญหา เกิดแนวทางใหม่ที่ดี
การเรียนแบบสะท้อนคิด(Reflective thinking) คือ การใช้กระบวนการ ในการคิด และพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างพินิจพิเคราะห์ ละเอียดรอบครอบ มีเหตุมีผล ใช้ประสบการณ์ ความคิด ความเชื่อหรือองค์ความรู้ที่ยึดถือกันอยู่ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่าง ถ่องแท้ หรือทำให้เกิดข้อสรุปใหม่ที่จะใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา ในสถานการณ์อื่นๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งได้นำมาปรับใช้กับนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 2 ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลปัญหาสุขภาพ 1 ในหอผู้ป่วยกุมารเวช โดยให้นักศึกษาได้วิเคราะห์เหตุการณ์ที่นศ. รู้สึกอยากหาแนวทางการแก้ไข เช่น นศ.ได้ให้การพยาบาลผู้ป่วยเด็กโดยการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำในเด็กและประสบความสำเร็จในครั้งเดียว นศจึงนำมาreflective ให้อาจารย์และเพื่อน ๆ ได้รับทราบถึงวิธีการและแนวทางในการให้สารนำ้ทางหลอดเลือดดำในเด็ก
กระบวนการเรียนแบบสะท้อนคิด ช่วยให้นักศึกษาเกิดมุมมองที่หลากหลาย เกิดความเข้าใจในความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น เกิดการเรียนรู้จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการประกอบวิชาชีพในอนาคต
การเชื่อมโยงความรู้ทางทฤษฏีสู่การปฏิบัติการฝึกสะท้อนคิดเป็นกระบวนการที่นำไปสู่การคิดอย่างมีวิจารณญาณนำไปสู่การคิดวิเคราะห์ เพื่อการแก้ไขปัญหา บนพื้นฐานของสภาพการณ์จริงมุมมองจากการเรียนรู้ โดยเกิดขึ้นในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบการสะท้อนคิด การเรียนรู้ที่ประสบผลสำเร็จจะต้องอาศัยประสบการณ์เป็นตัวขับเคลื่อนกระบวนการคิดช่วยให้นักศึกษาเกิดมุมมองที่หลากหลาย เกิดความเข้าใจความรู้สึกของตนเอง และผู้อื่น
การเรียนรู้แบบสะท้อนคิดเป็นคุณลักษณะสำคัญของครูในการส่งเสริมผู้เรียนให้เกิดทักษะการเรียนรู้ที่จำเป็นครูที่มีคุณลักษณะแบบคิดสะท้อนจะเป็นผู้ที่ตระหนักในตนเองและประเมินตนเองเพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานของตนเองให้มีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา การพัฒนาตนเองให้มีความเป็นครูแบบคิดสะท้อนโดยเฉพาะการคิดสะท้อนเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้จึงเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยให้ได้ข้อมูลสารสนเทศซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้ผู้เรียนมีคุณลักษษณะที่มีกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ เกืดความคิดสรา้งสรรค์และเกิดความคิดที่เกิดด้วยตัวของผู้เรียนเองที่จะทำใหเผู้เรียนเกิดความเข้าใขเชิงเนื้อหามากขึ้นถือได้ว่าเป็นแนวทางในการเรียนที่ดีครับ
การฝึกสะท้อนคิดเป็นกระบวนการที่นำไปสู่การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และเป็นการพัฒนาศักยภาพทางปัญญาที่ส่งผลให้มีการปฏิบัติและการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของพุทธศาสนาที่กล่าวถึงการคิดไตร่ตรองหรือการคิดทบทวนอย่างมีเหตุผล สามารถนำมาใช้เป็นวิธีการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การพัฒนาการจัดการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิดวิเคราะห์ เช่น การสอนแบบกลุ่ม, Simulation clinic, PBL, Evidence base learning จะช่วยส่งเสริมให้นักศึกษามีทักษะการสะท้อนคิดมากขึ้น
การเรียนการสอนแบบสะท้อนคิดเป็นกระบวนการที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนไการใช้กระบวนการ ในการคิดอย่างเป็นระบบในการเชื่อมโยงความรู้ทางทฤษฏีสู่การปฏิบัติผ่านสถานการณืที่เกิดขึ้นจริงทำให้เกิดข้อสรุปใหม่ที่จะใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา ในสถานการณ์อื่นๆ อย่างเหมาะสม
สิ่งสำคัญของการจัดการเรียนการสอนแบบสะท้อนคิด ไม่ใช่การรู้เพียงแค่หลักการการสะท้อนคิด แต่ควรมีการเชื่อมโยงจากทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริง เช่น การนิเทศภาคปฏิบัติ ผู้สอนและผู้เรียนควรมีการเตรียมตัวที่ถูกต้อง เพื่อให้การสะท้อนคิดมีความหมายและเกิดผลลัพธ์ในเชิงการพัฒนาต่อไป
ในบทบาทของผู้สอน มีความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสะท้อนคิดว่า ผู้สอนสามารถใช้ในการให้กำลังใจนักศึกษา หรือใช้แก้ปัญหาระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องและกฎระเบียบได้ไม่ใช่เฉพาะในการเรียนการสอนเท่านั้น รวมทั้งยังใช้กับผู้สะท้อนได้ ในเรื่องของการพัฒนาการเรียนการสอน การทำงาน และการพัฒนาตนเอง
การคิดเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นการเรียนแบบสะท้อนคิด(Reflective thinking) จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจต่อสถานการณ์นั้นๆ อย่าง ถ่องแท้ หรือทำให้เกิดข้อสรุปใหม่ที่จะใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา ในสถานการณ์อื่นๆ อย่างเหมาะสม
การคิดเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นการเรียนแบบสะท้อนคิด(Reflective thinking) จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจต่อสถานการณ์นั้นๆ อย่าง ถ่องแท้ หรือทำให้เกิดข้อสรุปใหม่ที่จะใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา ในสถานการณ์อื่นๆ อย่างเหมาะสม
การฝีกให้ผู้เรียน คิดแบบสะท้อนคิดในขั้นตอนที่ 2 อธิบายความรู้สึกต่อสถานการณ์บางครั้งผู้เรียนอธิบายความรู้สึกต่อสถานการณ์ เป็นความคิด โดยพร่องการกล่าวความรู้สึกที่แท้จริง ผู้สอนต้องกระตุ้นให้ผู้เรียน แยกระหว่างความคิด และความรู้สึก เพื่ออธิบายความรู้สึกของตนเองที่มีต่อสถานการณ์นั้นทั้งด้านบวกและด้านลบ
การเรียนการสอนแบบสะท้อนคิด เป็นกระบวนการคิดขั้นสูง ที่ควรจะใช้สถานการณ์ที่เป็นประเด็นทางจริยธรรมที่ต้องใช้การตัดสินใจเป็นโจทย์ให้นักศึกษาได้เรียนรู้ เพราะกระบวนการสะท้อนคิดจะทำให้นักศึกษาได้ไตร่ตรอง หาเหตุผล ประเมินผลกระทบ รวมทั้งทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้แนวคิดที่หลากหลาย เกิดการใช้ความคิดระดับสูง และทำให้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเรียนการสอนแบบสะท้อนคิดสำหรับนักศึกษาปี1 ในขั้นตอนที่1 ถ้าเด็กได้เห็นจากสถานการณืจริงที่อาจจะมาจากภาพยนตร์หรือจากบทละครหรือสถานฯการณ์ที่เกิดขึ้นจริงโดยมีการสือสารด้วยภาพอาจจะทำให้เด็กได้เข้าใจในสถานการณืและสามารถอธิบายได้อย่างเข้าใจและชัดเจนซึ่งโดยส่วนคิดว่าข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงการนำไปใช้ในข้อต่างๆต่าอไป